Amber อำพัน

อัญมณีจากยางไม้

สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในโลกไม่ได้มีแค่สิ่งของแลกเปลี่ยน อย่างเงินและทอง แต่ยังรวมไปถึงของทรงคุณค่าเหนือกาลเวลาอีกมากมาย ดังเช่น อำพัน ซึ่งมีทั้งมูลค่าทางราคา และมูลค่าทางการศึกษา ที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็มีคุณค่าไม่เคยเปลี่ยนแปลง
Credit : thoughtco .com
อำพัน ไม่ใช่หิน… แต่เป็นซากดึกดำบรรพ์ของต้นไม้ เป็นเรซินจากซากดึกดำบรรพ์ของต้นไม้ที่ได้รับการชื่นชมในด้านสีสันและความงามตามธรรมชาติมาตั้งแต่สมัยยุคหินใหม่ อำพันมีมูลค่ามากมายตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันในฐานะอัญมณี ถูกนำไปสร้างเป็นของตกแต่งต่างๆ ใช้ในเครื่องประดับและถูกใช้เป็นตัวแทนการรักษาในยาพื้นบ้าน
อำพันเกิดจากเรซินที่สกัดจากเปลือกไม้ จะทำหน้าที่ปกป้องต้นไม้ด้วยการปิดกั้นช่องว่างในเปลือกไม้ เมื่อเรซินปิดรอยร้าวหรือรอยแตกที่เกิดจากแมลงกัดแทะ จะเกิดการแข็งตัวเป็นผนึกแน่น คุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งของเรซินคือสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆได้ ทำให้สามารถปกป้องต้นไม้จากโรคต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยความหนืดของเรซินสามารถเกาะติดขากรรไกรของแมลงที่กัดแทะและมุดเข้าไปได้
ย้อนกลับไปในช่วงยุคดึกดำบรรพ์ เรซินที่หลั่งออกมาจะไหลซึมตามลำต้น กิ่งก้านและก่อตัวเป็นหยด แผ่น บางครั้งหยดลงบนพื้นดิน ในขณะเดียวกันต้นไม้บางต้นเรซินที่หลั่งออกมาทำให้เกิดเป็นชั้นๆ ซึ่งสารเหนียวนี้จะรวบรวมเศษซากและดิน บางครั้งก็ติดอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่บินและคลานได้ในที่สุด
เมื่อใดที่ต้นไม้โค่นลง ก็จะถูกกระแสน้ำพัดพาจากแม่น้ำไปสู่สันดอนในบริเวณชายฝั่ง และถูกฝังอยู่ในตะกอนสะสม ซึ่งการสะสมตัวของอำพันที่รู้จักกันส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนตำแหน่ง เป็นผลมาจากกิจกรรมทางธรณีวิทยานั่นเอง
อำพันถูกจำแนกตามองค์ประกอบทางเคมีของอำพัน เนื่องจากมีต้นกำเนิดมาจากเรซินต้นไม้ที่อ่อนนุ่มและเหนียว บางครั้งอำพันจึงมีวัสดุจากสัตว์และพืชรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีอำพันที่เกิดขึ้นในตะเข็บถ่านหินจะเรียกอีกอย่างว่าเรซินไนต์ และคำว่าแอมไบรต์จะใช้กับสิ่งที่พบในตะเข็บถ่านหินของนิวซีแลนด์โดยเฉพาะ
Credit : blog.lafco .com
สีและเฉดสีของอำพันมีมากกว่า 250 สี โดยปกติจะเป็นสีเหลือง น้ำตาลทองถึงสีส้มทอง และมีตั้งแต่โปร่งใสไปจนถึงกึ่งโปร่งแสง นอกจากนี้ยังสามารถย้อมได้หลายสี รวมไปถึงอำพันสามารถมีตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีเหลืองมะนาวอ่อน สีน้ำตาลเกือบดำ และสีที่ไม่ธรรมดาอื่นๆ ได้แก่ อำพันสีแดง (บางครั้งเรียกว่า “อำพันเชอร์รี่”) อำพันสีเขียว แม้กระทั่งอำพันสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีที่หายากและเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยสีถูกกำหนดจากสิ่งต่างๆ เช่น แหล่งที่มาของต้นไม้ ยุค อุณหภูมิ และแรงกดดันที่อำพันสัมผัส เป็นต้น
อำพันมีความสามารถในการรักษาสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์เอาไว้ไม่ให้แตกสลายและสลายตัวได้ ซึ่งเรียกลักษณะแบบนี้ว่า “อำพันฟอสซิล” โดยตัวอย่างของพืชและสัตว์ที่ถูกรักษาไว้ในอำพัน เช่น เห็ดฟอสซิลที่เก่าแก่ที่สุด แมลงเม่า ผึ้งไร้เชือก หนอนผีเสื้อ ปลวก ละอองเรณู ดอกไม้จากต้นโอ้คดึกดำบรรพ์ที่มีอายุถึง 90 ล้านปีในยุคไดโนเสาร์ รวมไปถึงบรรดาสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้แก่ แมงป่อง ผีเสื้อ แมลงวันขายาว แมงมุม กบ กิ้งก่า ไดโนเสาร์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนได้รับการเก็บรักษาไว้ในอำพันเช่นกัน ซึ่งการที่อำพันฟอสซิลรักษาซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้ไว้ ทำให้อำพันฟอสซิลยิ่งมีมูลค่าและมีคุณค่าต้อการศึกษาของเหล่าบรรพชีวินวิทยาทั้งหลายอีกด้วย

อำพันไดโนเสาร์

Credit : Wikipedia
คำว่า “ไดโนเสาร์” ทำให้เกิดภาพของสัตว์เลื้อยคลานที่ดุร้ายและใหญ่โต ทุกตัวจะมีขนาดใหญ่ มีนิสัยดุร้ายและน่ากลัว และนั่นก็คือจินตนาการที่หลายคนคิด แต่ในงานวิจัยชิ้นหนึ่ง นักบรรพชีวินวิทยากลับได้ค้นพบ “ไดโนเสาร์ที่เล็กที่สุดตลอดกาล” โดยแหล่งที่ค้นพบอยู่ที่ประเทศพม่า ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงเรานี่เอง
โดยเรียกกันว่า อำพันไดโนเสาร์ ซึ่งก็คือ ฟอสซิลแบบหนึ่ง ที่เป็นการเก็บรักษาไดโนเสาร์ไว้ในอำพัน เหมือนกับการแช่แข็งหรือสตาฟไดโนเสาร์เอาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิม แม้จะผ่านเวลามาหลายล้านปีแล้วก็ตาม ทำให้นักบรรพชีวินสามารถศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์ไดโนเสาร์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
อำพันไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบที่ประเทศพม่า ถูกค้นพบโดย นักบรรพชีวินวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยธรณีศาสตร์แห่งประเทศจีน ที่ชื่อว่า Lida Xing และกลุ่มเพื่อนของเขา โดยสันนิษฐานว่าอำพันไดโนเสาร์ที่ขุดเจอนี้มีอายุยาวนานกว่า 99 ล้านปี
หลักฐานบางอย่างที่ค้นพบทำให้ทีมวิจัยคาดการณ์ว่าในอำพันนั่นอาจเป็นไดโนเสาร์ขนาดเล็กที่มีลักษณะคล้ายนก เรียกว่า Oculudentavis khaungraae เนื่องจากมีปากยาวแหลม มีเบ้าตาขนาดใหญ่ ด้านข้างของหัวเหมือนกิ้งก่า และตาของมันมีช่องแคบที่จำกัดแสงที่ส่องเข้ามา ขากรรไกรบนและล่างเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม ซึ่งหมายถึงความเป็นนักล่าที่น่าจะกินแมลงและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กเป็นอาหาร
นอกจากนี้ทางทีมวิจัยยังระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของอำพันที่ค้นพบและหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นไดโนเสาร์ ก็คือ ลักษณะของหัวมีขนาดเล็กยาวประมาณ 14 มิลลิเมตร (รวมจงอยปาก) โดยคาดว่าน่าเป็นหนึ่งในไดโนเสาร์ที่เล็กที่สุดที่เคยพบมา ซึ่งสิ่งมีชีวิตนี้อยู่ในกลุ่มไดโนเสาร์ที่ก่อให้เกิดนกสมัยใหม่ และสัตว์ตัวที่อยู่ในอำพันนี้น่าจะมีขนาดเท่ากับนกฮัมมิ่งเบิร์ดผึ้ง นกชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กที่สุด
Credit : geologyin .com
ในขณะเดียวกัน Lida Xing ยังได้ค้นพบอำพันที่ถูกทำเป็นเครื่องประดับแล้ว และอ้างว่าสิ่งที่อยู่ในนั้น คือ หางไดโนเสาร์ที่มีขนขนาดเท่านกกระจอก โดยถูกค้นพบที่ตลาดอำพันในเมือง Myitkina ประเทศพม่าเช่นเดียวกัน
ทางด้าน Ryan McKellar จาก Royal Saskatchewan Museum ประเทศแคนาดา เคยอธิบายไว้ในวารสาร Current Biology เกี่ยวกับการค้นพบอำพันไดโนเสาร์ที่ประเทศพม่าไว้ในเรื่องของการตรวจสอบลักษณะทางกายวิภาคของหาง ชี้ให้เห็นว่าหางที่พบนั้นเป็นของไดโนเสาร์ที่มีขน ไม่ใช่นกโบราณที่มีขนขนาดเท่านกกระจอก และจากการตรวจสอบตัวอย่างยังพบว่าหางด้านบนนั้นมีสีน้ำตาลเกาลัดและด้านล่างเป็นสีขาว
อย่างไรก็ตามค้นพบอำพันไดโนเสาร์นี้ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าข้อมูลของซากดึกดำบรรพ์มากๆ เลยทีเดียว
ถือว่า ” อำพัน ” เป็นสิ่งมีค่าที่เหนือกาลเวลาจริงๆ ค่ะ ไม่ใช่แค่มูลค่าทางราคาเท่านั้น แต่อำพันยังเก็บประวัติศาสตร์ต่างๆ ไว้มากมายเลยทีเดียว หากใครสนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับชาวบาริโอนะคะ ^^
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
National Geographic
nytimes .com
bbc .com

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO