Jack O’Lanterns

ดีไซน์ฟักทองฮาโลวีน

ฟักทอง ที่ถูกแกะสลักให้มีหน้าตาที่น่ากลัว และสว่างไสวด้วยเปลวเทียนที่อยู่ภายใน เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าวันฮาโลวีนได้มาถึงแล้ว และไม่มีอะไรจะคลาสสิคไปกว่าการมี Jack O’Lanterns หรือตะเกียงหัว ฟักทอง ประดับประดาอยู่ตามบ้านเรือนในช่วงวันฮาโลวีน อาจเพราะด้วยเรื่องราวที่ควรค่าแก่การบอกเล่าที่มีมาหลายทศวรรษ

ตำนาน Jack O’Lanterns

Credit : history .com
Jack O’Lanterns คือโคมไฟที่ทำจาก ฟักทอง มีลักษณะกลวงจากการแกะสลัก และยังใช้เพื่ออ้างถึงชายที่ถือตะเกียงยามค่ำคืน Jack O’Lanterns มีคำแปลว่าชายผู้ถือตะเกียง ซึ่งมีที่มาโดยอ้างอิงจากพจนานุกรมภาษาอังกฤษ Merriam – Webster อธิบายเอาไว้ว่าในช่วงคริสตศตวรรษที่ 17 ชาวอังกฤษมักเรียกชายแปลกหน้าว่าแจ็ค เมื่อมีคนพบชายปริศนาที่ถือตะเกียงอย่างน่าหวาดผวาจึงถูกเรียกว่า Jack of the lantern หรือ Jack O’Lanterns
ที่มาของคำว่า Jack O’Lanterns เกิดจากตำนานที่เป็นเรื่องเล่าเก่าแก่ของชาวไอริช (กลุ่มชาติพันธุ์มีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ในประเทศไอร์แลนด์) ซึ่งเป็นการเล่าต่อกันมาคล้ายกับนิทานจึงทำให้เกิดหลากหลายเวอร์ชั่นที่ไม่ซ้ำกัน แต่ใจความสำคัญของทุกตำนานได้กล่าวไปในลักษณะเดียวกันถึงชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าแจ็ค เป็นบุคคลที่ชาวบ้านในท้องถิ่นรู้กันดีว่าอุปนิสัยของเขาทั้งขี้เหนียว ขี้โกง และขี้เมา จนเป็นที่มาของฉายา stingy jack
Credit : productofnewfoundland. ca
และด้วยนิสัยที่ฉ้อฉลของแจ็ค เขาได้ไปก่อเรื่องหลอกลวงปีศาจ ด้วยการชวนปีศาจมาดื่ม และออกอุบายให้ปีศาจช่วยแปลงร่างเป็นเหรียญ เพื่อจะได้นำเหรียญไปชำระค่าสุรา แต่ความจริงแล้วแจ็คไม่ได้นำเหรียญที่ปีศาจแปลงร่างไปชำระค่าสุรา แต่นำเหรียญที่ปีศาจแปลงร่างมาเก็บไว้เองเพื่อทำข้อต่อรองและสัญญาภายใต้เงื่อนไขที่ว่าปีศาจจะไม่เรียกร้องวิญญาณของแจ็คเมื่อเขาตาย หากปีศาจตกลง แจ็คจะยอมปล่อยปีศาจให้เป็นอิสระแต่ และเมื่อถึงเวลาที่แจ็คได้ตายลงจริงๆ แจ็คถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นสวรรค์เนื่องด้วยการกระทำที่เลวร้ายที่กระทำต่อผู้อื่น รวมไปถึงปีศาจที่ยังจำคำสัญญาครั้งก่อนของเขาได้ จึงปฏิเสธที่จะรับแจ็คไปลงนรกด้วยเช่นกัน ดังนั้นแจ็คจึงถูกสาปแช่งให้เดินเตร่เพื่อไปค้นหานรกของตัวเองชั่วนิรันดร์ โดยมีสมบัติเพียงอย่างเดียวของเขาคือหัวผักกาดที่มีร่องตรงกลางและถ่านที่ลุกไหม้จากไฟแห่งนรก ซึ่งปีศาจเป็นผู้มอบให้กับแจ็ค เพื่อให้เขาจะได้มีแสงสว่างบนเส้นทางที่มืดมิดและไม่มีที่สิ้นสุดตลอดไป และเรื่องเล่านี้เองจึงกลายเป็นตำนานของแจ็คผู้ถือตะเกียง หรือ Jack of the Lantern ซึ่งต่อมากลายเป็น Jack O’Lantern ตำนานนี้เป็นสาเหตุที่ผู้คนในไอร์แลนด์เริ่มทำตะเกียงในแบบของตัวเองด้วยการแกะสลักใบหน้าที่น่ากลัวๆ โดยใช้หัวผักกาดและมันฝรั่ง วางไว้ตามบ้านเพื่อขับไล่ stingy jack รวมไปถึงเหล่าวิญญาณชั่วร้ายทั้งหลาย

ความเกี่ยวข้องของ Stingy Jack กับวันฮาโลวีน

Credit : english-heritage .org.uk
วันฮาโลวันมีพื้นฐานมาจากเทศกาล Celtic Samhain ของศาสนาคริสต์ มีการเฉลิมฉลองในอังกฤษและไอร์แลนด์โบราณ ซึ่งในช่วงเทศกาลเป็นจุดสิ้นสุดของฤดูร้อนและเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูหนาว เชื่อกันว่าในช่วงเทศกาล Celtic Samhain วิญญาณที่เคยจากไปจะกลับมาเยี่ยมโลกมนุษย์ และกลับมาสิงร่างของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน ชาวบ้านจึงต้องหาวิธีป้องกันตัวเมื่อถึงวันฮาโลวีนด้วยการพยายามแต่งกายน่ากลัว แต่งกายเป็นผีเพื่อหลอกวิญญาณ
จากการวิเคราะห์ของคนในยุคปัจจุบันกล่าวไว้ว่าไม่น่าแปลกใจที่คนโบราณจะนึกถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโลกแห่งวิญญาณ เพราะในช่วงฮาโลวีนเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงจากฤดูที่สดใสมาสู่ฤดูหนาวที่เงียบงัน บรรยากาศรอบๆ อาจเกิดความวังเวงจนทำให้นึกถึงเรื่องเหนือธรรมชาติได้ ซึ่งยังไปเกี่ยวเนื่องกับเรื่องเล่าตำนานของ Stingy jack ที่เป็นหนึ่งในเรื่องราวสยองขวัญที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติไปโดยปริยาย เพราะการเอาตัวรอดของมนุษย์จาก Stingy jack รวมไปถึงการเอาตัวรอดจากสิ่งเหนือธรรมชาติในช่วงเทศกาลฮาโลวีน มีจุดประสงค์ที่เหมือนและสอดคล้องกัน ผู้คนจึงทำเริ่มใช้ Jack O’Lantern ให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีนประกอบกับการแต่งชุดผี นอกจากนี้เรื่องเล่าของ Stingy jack ก็ยังกลายตำนานที่ใช้เป็นอุทาหรณ์ เป็นนิทานเกี่ยวกับศีลธรรมเพื่อสอนคนไม่ให้ปฏิบัติตัวไม่ดีอีกด้วย

การใช้ฟักทองในวันฮาโลวีน

Credit : britannica .com
การใช้ ฟักทอง ในวันฮาโลวีนมีต้นกำเนิดมาจากปีค.ศ. 1800 ผู้คนจำนวนมากในอังกฤษนิยมอพยพออกเพื่อไปใช้ชีวิตในอเมริกา พวกเขาได้นำประเพณีฮาโลวีนติดตัวไปด้วย แต่แทนที่จะแกะสลักหัวผักกาด พวกเขาเลือกใช้ฟักทองแทน เพราะมีฟักทองมากมายในอเมริกาในฤดูใบไม้ร่วง อีกทั้งเนื้อของฟักทองยังมีความนิ่มและแกะสลักได้ง่ายกว่าหัวผักกาดที่แข็งค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ฟักทอง ยังมีความทนทานต่อถ่านที่ร้อนได้ดีกว่าหัวผักกาดอีกด้วย ซึ่งในขณะนั้นเองช่วงปลายเดือนตุลาคมฟักทองจะพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยวทั่วโลก จึงไม่แปลกที่ฟักทองจะถูกนำมาใช้ในช่วงวันฮาโลวีนกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
สำหรับตะเกียงฟักทอง Jack O’Lanterns ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ไล่สิ่งชั่วร้ายสำหรับชาวบ้าน มักนิยมวางไว้ที่หน้าบ้าน และขอบหน้าต่าง โดยจะมีระยะเวลาในการวางประมาณ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของฟักทอง ซึ่งถ้าฟักทองมีสุขภาพดีจะสามารถอยู่ได้นาน 8 ถึง 12 สัปดาห์ แต่ปัจจุบันเหตุผลในการวาง ก็ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนไป Jack O’Lanterns ได้กลายเป็น ornament ตกแต่ง ของเทศกาลวันฮาโลวีนแทนการใช้เพื่อป้องกันวิญญาณ

หน้าแต่ละแบบของ Jack O’Lanterns

Credit : wonderopolis .org
ว่ากันว่าการจะแกะสลักหน้าตาของ Jack O’Lanterns ขึ้นอยู่กับเหตุผลสองประการ ประการที่หนึ่งเพื่อเป็นการเยาะเย้ยวิญญาณชั่วร้ายที่พยายามจะทำร้ายผู้คน หน้าตาของฟักทองจึงเป็นรอยยิ้มที่ดูสะใจ และมักเป็นหน้าพื้นฐานที่คนนิยมแกะกัน หรือเรียกว่าหน้าแบบ Basic Smile
Credit : homefortheharvest .com
ประการที่สองคือความต้องการพยายามทำให้วิญญาณหวาดกลัวด้วยการแกะสลักใบหน้าที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคนิคของผู้แกะแต่ละคน บางคนที่การแกะหน้าตาที่น่ากลัวควบคู่ไปกับการใช้อุปกรณ์อื่นๆเข้ามาผสมผสาน เช่น ตะปู เป็นต้น
Credit : familyadventuresinnewyorkstate .com
ในปัจจุบัน Jack O’Lanterns ไม่ได้มีไว้เพื่อใช้ไล่วิญญาณตามความเชื่อแบบโบราณอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันฮาโลวีนไปโดยปริยาย และวันฮาโลวีนเองก็กลายเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองที่สนุกสนานและสร้างความบันเทิง รวมไปถึงการแกะสลักหน้าตาฟักทองก็ได้มีการพัฒนาไปตามกาลเวลาเช่นกัน หน้าตาแบบใหม่ๆผุดขึ้นมาอย่างมากมาย และมีความแฟนซีหลากหลายมากขึ้นอีกด้วย มีทั้งหน้าตาตลกและหน้าตาที่มีความน่ารักก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
Credit : ngs .org.uk
และเนื่องจากการใช้ฟักทองในการแกะสลักทำเป็น Jack O’Lanterns เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงต้องมีวิธีรับมือกับเนื้อของฟักทองจากการแกะสลักด้วย สายพันธุ์ที่นิยมใช้สำหรับแกะสลักจะเป็นฟักทองพันธุ์อเมริกันแบบท้องถิ่นชื่อว่า CAPTAIN JACK PUMPKIN มีขนาดที่ใหญ่และเป็นฟักทองที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ เปลือกบาง และเนื้อเป็นเส้นๆ บางครั้งเป็นน้ำ ด้วยลักษณะของเนื้อที่ค่อนไปทางนิ่มจนเละจึงมักนิยมนำมาบดเป็นซุปฟักทอง หรือใช้เป็นส่วนประกอบทำมัฟฟิน และขนมปังนั่นเอง นอกจากนั้นยังมีสายพันธุ์อื่นๆ ที่สามารถนำเปลือกมาแกะสลักได้เหมือนกัน แต่ตัวเนื้อจะถูกใช้ไปทำพายแทนเพราะมีรสชาติที่ดีกว่าอย่าง Sugar Pie, New England Pie หรือ Baby Pam Pumpkin เป็นต้น
Credit : bbcgoodfood .com
ความเชื่อนั้นอยู่คู่กับมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัย แต่ก็ถูกปรับเปลี่ยนไปตามเวลาที่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ Jack O’Lanterns ที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวันฮาโลวีน และยังมีดีไซน์ที่เน้นความบันเทิงจนทำให้นึกถึงแต่ความสนุกสนานทุกครั้งเมื่อวันฮาโลวีนใกล้มาถึง
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
history .com
statehornet .com
britannica .com
arizonapumpkinpatch .org

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO