The Jurassic

จูลาสสิก

Credit : a-z-animals .com
หากพูดถึงคำว่า “Jurassic (จูลาสสิก)” หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์ โดยอาจจะคุ้นเคยและได้ยินมาจากตำราเรียนหรือภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง “Jurassic Park” ซึ่งเป็นเรื่องราวแนวผจญภัยวิทยาศาสตร์กับการสร้างสวนสัตว์ไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์แล้ว
ซึ่งคำว่า Jurassic มาจากลักษณะทางธรณีวิทยาและยุคสมัยที่ไดโนเสาร์ครองเมือง ซึ่งอยู่ในยุคช่วงกลางของมหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic era) หรือประมาณ 201.4 ล้านปีมาแล้ว ในยุคนี้จะมีลักษณะเฉพาะคือสภาพอากาศที่อบอุ่นและเปียกชื้นซึ่งก่อให้เกิดพืชพันธุ์เขียวชอุ่มและสิ่งมีชีวิตมากมาย และมีไดโนเสาร์เกิดใหม่จำนวนมาก เช่น สเตโกซอร์ แบรคิโอซอร์ อัลโลซอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
Credit : artstation .com
ยุคจูลาสสิก เกิดจากพันเจีย (Pangia) ที่เป็นมหาทวีปได้แยกออกจากกัน เกิดเป็นหมู่เกาะต่างๆ มากมาย โดยครึ่งทางเหนือ หรือที่เรียกว่า Laurentia แยกออกเป็นผืนดินของอเมริกาเหนือและยูเรเซีย เป็นแอ่งสำหรับมหาสมุทรแอตแลนติกตอนกลางและอ่าวเม็กซิโก กอนด์วานา ส่วนครึ่งทางใต้ก่อตัวเป็น
แอนตาร์กติกา มาดากัสการ์ อินเดีย และออสเตรเลีย และแผ่นดินทางตะวันตกแยกเป็นแอฟริกาและอเมริกาใต้ ซึ่งการแตกแยกนี้ประกอบกับอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น ทำให้เกิดความหลากหลายและการปกครองของสัตว์เลื้อยคลานที่รู้จักกันในชื่อ “ไดโนเสาร์”
Credit : blog.paultonspark .co.uk
ในขณะเดียวกันในยุคจูลาสสิกยังเป็นยุครุ่งเรื่องของสัตว์และพืชที่อาศัยอยู่ทั้งบนบกและในทะเลฟื้นตัวจากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก เรียกได้ว่าเป็นยุคที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดยุคหนึ่ง ทั้งทางน้ำ บนฟ้า และมหาสมุทร
สิ่งมีชีวิตที่มีกระดูกสันหลังและสัตว์ ไม่มีกระดูกสันหลังหลายกลุ่มที่สำคัญในโลกสมัยใหม่ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในช่วงยุคจูราสสิก พร้อมทั้งสิ่งมีชีวิตที่มีความหลากหลายเป็นพิเศษในมหาสมุทร ระบบนิเวศแนวปะการัง สัตว์นักล่าว่ายน้ำขนาดใหญ่ รวมถึงสัตว์เลื้อยคลาน เป็นต้น โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่อย่างไดโนเสาร์ที่ได้ครองระบบนิเวศ เช่น ดิปโพลโดคัส บราคิโอซอรัส และ อะแพทโทซอรัส รวมถึงไดโนเสาร์กินเนื้อ ได้แก่ ไดโลโฟซอรัส และอัลโลซอรัส ฯลฯ นอกจากนี้ในยุคจูลาสสิกยังปรากฎการเกิดนกเป็นครั้งแรก รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในยุคแรกๆ ก็มีอยู่เช่นกัน

เมื่อ “ไดโนเสาร์” สัตว์ดึกดำบรรพ์ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ สู่สายตาประชาชน และได้รับความนิยมทั่วโลก

Credit : Prime Video
เรื่องราวของ “ไดโนเสาร์” สัตว์เลื้อยคลานที่โดดเด่นที่สุดในยุคจูลาสสิก ดูน่าสนใจและชวนค้นหา จน Steven Spielberg ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังได้นำมาถ่ายทอดผ่านจอเงินในชื่อ Jurassic Park โดยฉายครั้งแรกเมื่อปี 1993 ก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างล้นหลาม ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าเพราะเป็นเรื่องราวของไดโนเสาร์ สัตว์ลึกลับดึกดำบรรพ์ที่มีอายุนับพันปี ทำให้คนสนใจและอยากรู้เรื่องราวความเป็นมาของสัตว์ในตำนานนี้ และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หนังทำเงินได้อย่างมหาศาลเพราะ “เทคนิคการถ่ายทำ” โดยการใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบ ทำให้ไดโนเสาร์ดูเหมือนจริง ซึ่งไม่เคยมีหนังเรื่องไหนเคยทำมาก่อน ทำให้คนดูตื่นตาตื่นใจ จน Jurassic Park ได้รับการกล่าวขาน และขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ในตำนาน กลายเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ถูกทำออกมาให้ชมกันหลายภาคเลยทีเดียว
Credit : ew .com
จากสัตว์ในตำนานสุดยิ่งใหญ่สู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องโด่งดังที่ทำรายได้มากมายจากทั่วโลก ทั้ง Jurassic Park และ Jurassic World รวมทั้งหมด 6 ภาค ซึ่งเบื้องหลังการถ่ายทำไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชุบชีวิตสัตว์ที่ไม่ชีวิตขึ้นมาได้
Credit : shop18120.etjrdc .org
ในภาคแรกของ Jurassic Park ผลิตขึ้นในปี 1993 ถือเป็นภาพยนตร์รุ่นบุกเบิกที่ทำให้วงการฮอลลีวูดเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นหนังเรื่องแรกที่ริเริ่มนำการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกมาใช้ในการถ่ายทำ โดยการสร้างสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์ เช่น ไดโนเสาร์ ที่สูญพันธุ์ และไม่มีอยู่จริงในโลกขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง
Credit : arstechnica .com
แม้ในภาคแรกๆ จะเป็นยุคที่เทคโนโลยีการถ่ายทำและระบบคอมพิวเตอร์ยังพัฒนาไม่เทียบเท่าปัจจุบัน แต่ทีมงานและผู้สร้างก็สามารถถ่ายทอดตัวละครหลักอย่างไดโนเสาร์ออกมาได้อย่างสมจริง โดยเบื้องหลังการถ่ายทำนั้น ทีมงานจะเน้นการสร้างหุ่นเสมือนจริงของไดโนเสาร์ขึ้นมา โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Stop Motion เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวเหมือนมีชีวิตจริงๆ และใช้เทคนิค Visual Effects เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และใช้วิธีการ Digital Dinosaurs ในการนำกล้องไปจับการเคลื่อนไหวตามลักษณะท่าทางของไดโนเสาร์ ทำให้ภาพออกมาดูเป็นธรรมชาติและดูเสมือนจริงได้มากที่สุด
Credit : arstechnica .com
ซึ่งทีมงานที่รับผิดชอบการสร้างสรรค์งานเทคนิคการถ่ายทำนี้ เป็นทีมงานคู่บุญกับ Steven Spielberg มี สแตน วินสตัน (Stan Winston) ผู้รับหน้าที่ด้านงานเมคอัพและประดิษฐ์ชุดสัตว์ประหลาด ฟิล ทิปเปตต์ (Phil Tippett) รับตำแหน่งกำกับงานภาพ Stop Motion และ เดนนิส มิวเรน (Dennis Muren) ทำงานด้าน CGI ร่วมสร้างไดโนเสาร์ขึ้นมา จนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจกับผู้ชม ส่งผลให้ภาพยนตร์สามารถคว้ารางวัลใหญ่ “เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม” บนเวทีออสการ์ได้
ในส่วนของคาแรคเตอร์ของไดโนเสาร์แต่ละตัวนั้น ได้มีการศึกษาและข้อมูลอย่างลึกซึ้ง ซึ่งก่อนที่ออกมาสู่สายตาผู้คนจะได้รับการรับรองจากนักบรรพชีวินวิทยาก่อน ในเรื่องของลักษณะทางกายภาพ ผิวหนัง ท่าทาง และอื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้ได้ภาพของไดโนเสาร์ที่ใกล้เคียง ถูกต้องและดูเหมือนจริงมากที่สุด
Credit : syfy .com
ขณะที่ภาคหลังๆ ตั้งแต่ Jurassic World นั้นยังมีงานใช้เทคนิคเดิมๆ บ้างแต่น้อยลง เนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น การครีเอทตัวละครจึงเน้นเทคนิคการใช้ CGI คือ การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในการออกแบบซะส่วนใหญ่ รวมไปถึงการสร้างความเคลื่อนไหวต่างๆ เพราะมีความง่ายและสะดวกรวดเร็ว ทั้งยังทำให้ภาพมีความคมชัดและดูสมจริงมากขึ้น และก็ยังมีการสร้างหุ่นจำลองขึ้นมาอยู่บ้าง แต่จะทำเฉพาะบางส่วนเท่านั้น เช่น บริเวณหัวไปถึงลำคอ เพื่อเป็นการเก็บรายละเอียดงานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น จากนั้นก็ใช้เอฟเฟคจากคอมพิวเตอร์เสริม เพื่อความสมจริง และให้ภาพดูสมูทมากที่สุดนั่นเอง
Credit : wearealbert .org
อย่างไรก็ตามเนื่องจากตระกูล Jurassic ดำเนินเรื่องด้วยตัวละครหลัก คือ ไดโนเสาร์ ทำให้เราเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในหลายร้อยล้านปีที่แล้ว ที่ไดโนเสาร์ยังคงใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ สัตว์ที่เราไม่เคยเห็น ได้เพียงแต่จินตนาการว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ท่าทางยังไง
การได้เห็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมสัตว์ต่างๆ นานาชนิด โดยเฉพาะไดโนเสาร์ ที่เชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปก่อนที่คนจะเกิดด้วยซ้ำ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ฟอสซิลต่างๆ หรือ อำพันที่เก็บหรือแช่แข็งสัตว์โลกดึกดำบรรพ์ไว้ ให้คนได้ศึกษา ความเป็นมาของสัตว์นั้นๆ ได้ถูกฉายให้เห็นผ่านโรงภาพยนตร์ ต้องยกความดีงามให้ Steven Spielberg และทีมงาน ที่ได้สร้างผลงานดีๆ นี้ขึ้นมา จึงไม่แปลกใจที่ ภาพยนตร์ตระกูล Jurassic จะเป็นหนึ่งในตำนานและเป็นความทรงจำของใครหลายๆ คน ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน
ภาพยนตร์ตระกูล Jurassic ทั้ง 6 ภาค
• Jurassic Park (1993)
• The Lost World: Jurassic Park (1997)
• Jurassic Park III (2001)
• Jurassic World (2015)
• Jurassic World: Fallen Kingdom (2018)
• แอนิเมชันซีรีส์ Jurassic World: Camp Cretaceous (2020)
• Jurassic World: Dominion (2021)
เสน่ห์ของภาพยนตร์ Jurassic คือกลิ่นอายของความดึกดำบรรพ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในยุคปัจจุบัน หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศของยุคไดโนเสาร์ สามารถติดตามชมได้จากภาพยนตร์ตระกูล Jurassic ทั้ง 6 ภาคค่ะ
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ox .ac.uk
britannica .com
beartai .com
abcnews-go .com

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO