ในโลกใบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยายอยู่มากมาย บ้างเป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น บ้างก็มีมนุษย์เป็นส่วนประกอบที่ทำให้สถานที่เหล่านั้นดูงดงามมากยิ่งขึ้น โดยในบทความนี้จะพาแฟน ๆ Bareo ได้ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่สวยงามรอบโลก

ขอให้สนุกกับการเดินทางค่ะ 🙂

Lahuna Colorada

Cr. bolivia

เริ่มกันที่สถานที่ท่องเที่ยวสวยจนแทบลืมหายใจ ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัวกับ ทะเลสาบสีแดง หรือ ลากูน่า โคโลราด้า (Laguna Colorada) หรือ เรด ลากูน เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Altiplano ในประเทศโบลิเวีย ตั้งอยู่ภายในเขตสงวนแห่งชาติ Eduardo Avaroa Andean Fauna ใกล้กับชายแดนประเทศชิลี

Cr. pandotrip

ความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากปฎิกิริยาทางธรรมชาติ ที่สร้างสันดอนทรายสีขาว และสาหร่ายในท้องทะเลสาบที่เกิดการตกตะกอน กลายเป็นสีแดงสะท้อนบนผืนน้ำ ทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์สีขาว – แดง ตัดกันอย่างลงตัว อีกทั้งความอุดมสมบูรณ์ของผืนน้ำทำให้ลากูน่า โคโลราด้ากลายเป็นแหล่งอาหารสำคัญของเหล่านกฟลามิงโกหลายสายพันธุ์ จนภาพการใช้ชีวิตบนผืนน้ำของฟลามิงโกจึงกลายสัญลักษณ์สำคัญของสถานที่แห่งนี้

Cr. Photo by Elizabeth Gottwald on Unsplash

หากใครอยากชมทะเลสาบสีแดงแสนงดงามแห่งนี้แนะนำช่วงเวลาที่งดงามที่สุดที่ควรไป คือตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเมษายนค่ะ เพราะช่วงนี้บนผืนน้ำจะเต็มไปด้วยเงาสะท้อนของฝูงนกฟลามิงโกสีชมพู ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสวยตระหง่าน ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินยิ่งเห็นภาพความงามได้ชัดเจนมากที่สุดค่ะ

Wisteria Flower Tunnel 

Cr. treehugger

ประเทศญี่ปุ่นก็มีธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ชาติไหนในโลก ยิ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้เบ่งบาน ประเทศญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวานของหมู่มวลดอกไม้ และสถานที่ที่โด่งดังระดับโลกแห่งหนึ่งก็คือ อุโมงค์ดอกวิคตอเรีย (Wisteria Flower Tunnel) ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวน Kawachi Fuji Garden เมือง Kitakyushu ห่างจากโตเกียวประมาณ 6 ชั่วโมง

อุโมงค์ดอกวิคตอเรีย มีความยาวของอุโมงค์กว่า 220 เมตร ถูกปกคลุมแน่นขนัดด้วยดอกวิคตอเรีย หรือ ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกฟูจิ บานสะพรั่งหลากหลายสีสันทั้งสีชมพู ม่วงเข้ม ม่วงอ่อน ขาว และเหลือง ไล่ระดับสีที่เลื้อยและเป็นพวงห้อยระย้า พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นตลอดเส้นทางของอุโมงค์

Cr. kalopsia

นอกจากไฮไลท์จะอยู่ที่อุโมงค์ดอกวิคตอเรียแล้ว ภายในสวนยังมี ดอกวิสทีเรีย ถึง 150 ชนิด กว่า 350 ต้น และที่เป็นไฮไลท์ก็คือต้นวิคทอเรียที่มีอายุกว่า 150 ปีอีกด้วย และยังมีพืชพันธุ์อื่น ๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วยค่ะ แต่ถ้าใครอยากไปเก็บภาพในช่วงที่ดอกวิคทอเรียบานสวยสะพรั่งที่สุด จะอยู่ที่ประมาณปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม (อาจคลาดเคลื่อนตามสภาพอากาศของแต่ละปี)

Yangshuo

Cr. jetsetter

ประเทศจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Yangshuo หรือเมืองหยางซั่ว ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติงดงามสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยตั้งอยู่ใต้เขตอำนาจของเมืองกุ้ยหลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตปกครองตนเองกวางซีจ้วง ในเมืองหยางชู จุดเด่นของเมืองนี้คือพื้นที่ถูกล้อมรอบด้วยวิวทิวทัศน์ของยอดเขาหินปูนน้อยใหญ่ แม่น้ำหลี่ และถ้ำที่เกิดจากธรรมชาติหลายแห่ง จนมีคำกล่าวว่า “หากกุ้ยหลินเป็นเมืองที่สวยที่สุดในจีน หยางซั่วก็เป็นที่สวยที่สุดในกุ้ยหลิน”

Cr. chinadiscovery

เมืองหยางซั่ว เป็นเมืองท่องเที่ยวกลางแจ้งที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ถือเป็นจุดมุ่งหมายของนักปีนเขามากหน้าหลายตา เพราะเต็มไปด้วยยอดเขาหินปูนและจุดให้ปีนเขามากกว่า 200 จุด ทั้งยังมีเส้นทางเดินป่า สำรวจธรรมชาติอีกด้วย

Cr. chinadiscovery

หากอยากชมวิวทิวทัศน์รอบ ๆ เมือง สามารถเช่าจักรยานปั่นชมธรรมชาติ ชมวิถีชีวิตของชาวหยางซั่วที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และวัฒนธรรมอันน่าค้นหา หรือจะไปล่องแพชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำ เรียกว่าได้บรรยากาศและความเพลิดเพลินไปคนละแบบ คุณสามารถอิ่มเอมไปกับความงามและอากาศดี ๆ จากกิจกรรมนี้ได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ธรรมชาติจะเขียวชะอุ่ม ไปจนถึงฤดูหนาว ตั้งแต่ พฤศจิกายนถึงมีนาคม จะสวยน่าเที่ยวสุด ๆ ไปเลยค่ะ

Pamukkale

Cr. rakyimtour

หากใครอยากแช่น้ำ ใต้ผืนฟ้าครามและถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา แนะนำให้มุ่งหน้าไปที่ประเทศตุรกีได้เลยค่ะ สู่แอ่งน้ำธรรมชาติที่ “ปามุกกาเล” (Pamukkale) ที่มีความหมายในภาษาตุรกี ว่า ปราสาทปุยฝ้าย ซึ่งตามลักษณะของพื้นที่ที่คล้ายแอ่งน้ำที่ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และมีน้ำแร่ไหลตกลงตามระดับสู่พื้นหิน ความงามนี้เกิดจากตะกอนของหินปูนทำปฏิกิริยากับอากาศ ก่อตัวเป็นแอ่งกว้างประมาณ 300 เมตร ยาวกว่า 3 กิโลเมตร มีธารน้ำพุร้อนใต้ดินที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนประกอบไหลเอ่อล้นผุดขึ้นมาบนพื้นผิวเกิดเป็นชั้นหินปูนสีขาว ก่อนไหลลงจากผาสูง 100 เมตร จากระดับน้ำทะเล

Cr. traveltriangle

นอกจากนี้ชาวตุรกีเชื่อกันว่าน้ำแร่ในแอ่งปามุกกาเล มีประโยชน์ต่อสายตาและผิวหนัง และสามารถดูแลรักษาโรคได้ ช่วยบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ และบรรเทาอาการหืดหอบได้ ผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาแช่น้ำแร่นอกจากต้องการมาเที่ยวชมความงานของปามุกกาเลแล้ว ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อการบำบัดรักษาโรคอีกด้วย

ช่วงที่เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวปามุกกาเลมากที่สุด คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ใครที่จะไปต้องเตรียมใจไว้เผื่อด้วยนะคะ เพราะรับจำนวนนักท่องเที่ยวจำกัด ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลให้ปามุกกาเลยังคงความสวยงามไม่เสื่อมโทรมนั่นเองค่ะ

Lake Natron

Cr. udphoto

สถานที่ท่องเที่ยวต่อมาสวยงามเหมือนกับปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ Sci-Fi เลยทีเดียวค่ะ ผืนน้ำสีแดงดั่งต้องมนต์แห่งนี้ ถูกเรียกกันว่า “ทะเลสาบเนตรอน” (Lake Natron) ทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ ที่ครอบครุมพื้นที่กว่า 1,300 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย บนทวีปแอฟริกา

Cr. joysoftraveling

ทะเลสาบเนตรอนเป็นทะเลสาบสุดแปลกและพิศดารมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะลักษณะของน้ำทะเลที่มีสีแดงเข้ม ซึ่งเกิดจากน้ำในทะเลสาบมีสะสารและแร่ธาตุหลายชนิดไหลลงมารวมกัน บวกกับการสังเคราะห์แสงของจุลินทรีย์ในน้ำทะเล จึงทำให้น้ำทะเลมีสีแดงเข้ม จนทำให้ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “ทะเลสาบแห่งความตาย” หรือ “ทะเลสาบเมดูซ่า” เพราะในน้ำมีปริมาณเกลือเนตรอนสูงมาก แถมยังมีอุณหภูมิสูงถึง 60 องศาเซลเซียส หากมีสัตว์ใดๆ ตกลงไป จะถูกกัดกร่อน จนตายไป แต่ซากศพของสัตว์เหล่านั้นจะโดนสตาฟรูปร่างไว้เหมือนโดนแช่แข็งให้กลายเป็นหินเลยค่ะ

Cr. wonderfulpackage

แต่ถึงจะถูกเรียวกว่า ทะเลสาบแห่งความตาย หรือ ทะเลสาบเมดูซ่า ที่ฟังดูแล้วน่ากลัวเหลือเกิน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทะเลสาบเนตรอนแห่งนี้มีความสวยงามที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวจริง ๆ ค่ะ

ช่วงที่เหมาะแก่การไปเที่ยว คือช่วงมิถุนายนถึงตุลาคม เพราะอากาศกำลังดีอุณหภูมิประมาณ 23 องศาเซลเซียสเท่านั้น แต่ถ้าเป็นฤดูแล้งน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีแดงเข้มสวยงามมากๆ เช่นกัน ถ้าพ้นจากฤดูนี้ไปจะเป็นช่วงหน้าฝน จะทำให้เดินทางลำบากอีกทั้งยังอันตรายด้วยค่ะ

ความงดงามธรรมชาติเป็นอะไรที่สุดยอดจริง ๆ ว่าไหมคะ นอกจากความงามจะช่วยบำบัดจิตใจเราให้ดีขึ้นแล้ว การได้ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ก็ทำให้เราได้พบเจอกับเรื่องราวต่างๆมากมายอีกด้วยค่ะ หากใครได้ไปในสถานที่ที่เราได้นำมาเสนอแล้ว ก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ ไว้พบกันใหม่เดือนหน้าค่ะ สวัสดี 🙂

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

twistedsifter
travel.trueid