Snowman มนุษย์หิมะ

Credit : concreteplayground .com
ยามลมหนาวของเหมันตฤดูมาเยือน เชื่อว่าหลายคนมีความสุขที่ได้สัมผัสถึงความรู้สึกเย็นสบายของลมหนาว นอกจากนี้ผู้คนต่างก็พากันตกแต่งบ้านเรือน ร้านค้าและสถานที่ต่างๆ เพื่อรอตอนรับเทศกาลเฉลิมฉลองคริสมาสต์ และ “ ตุ๊กตาหิมะ ” หรือ Snow Man ( สโนว์แมน ) ก็ถือเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงจิตวิญญาณของฤดูหนาว และเป็นเครื่องหมายที่นำความสุขมาสู่เทศกาลนี้
Credit : pixabay
“ ตุ๊กตาหิมะ ” เป็นสัญลักษณ์ประจำฤดูกาลที่หลายคนรู้จักกันดีซึ่งเป็นตัวทำให้บรรยากาศของฤดูหนาวเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ เมื่อถึงเวลาที่หิมะโปรยปรายลงมา หลายคนก็จะปั้นตุ๊กตาหิมะ โดยการทำลูกบอลหิมะขนาดต่างๆ ขึ้นมาวางซ้อนทับกันเพื่อให้เกิดเป็นรูปร่างของตุ๊กตาหิมะ การสร้างตุ๊กตาหิมะ หรือ สโนว์แมน ( Snowman ) แบบที่นิยมทำกันส่วนมากนั้น ในแถบอเมริกาเหนือมักจะใช้ก้อนหิมะกลมๆ ขนาดใหญ่ทั้งหมดจำนวน 3 ก้อน เอาไว้สำหรับทำฐาน ลำตัวตรงกลาง และหัวของมัน แต่ในสหราชอาณาจักร จะให้ก้อนหิมะจำนวน 2 ก้อน เอาใว้สำหรับทำลำตัวและหัว นอกจากนี้ก็จะนำสิ่งของที่หาได้ทั่วไปอย่างเช่น กิ่งไม้ หมวก ผ้าพันคอ หรือแครอท เพื่อนำมาตกแต่งตุ๊กตาหิมะอย่างสร้างสรรค์และสวยงาม ส่วนมากผู้คนมักจะปั้นตุ๊กตาหิมะไว้ตกแต่งสวนหน้าบ้าน หรือสวนสาธารณะ
วัฒนธรรมการปั้นตุ๊กตาหิมะถูกสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน และมีการพูดถึงมากมายทั้งในหนังสือ ภาพวาดและบทเพลง เช่น หนังสือนิทาน The Biggest Snowman Ever เกี่ยวกับการปั้นตุ๊กตาหิมะตัวใหญ่, หนังสือ You Make Me Smile หนังสือภาพที่พูดถึงเด็กน้อยที่ปั้นมนุษย์หิมะ, Frosty The Snowman เพลงที่กล่าวถึง ตุ๊กตาหิมะ ชื่อฟรอสตี้ที่มีชีวิตขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์เพราะหมวกวิเศษ, Snowman เพลงหมวด Seasonal ของ Sia หรือแม้แต่เพลงประกอบหนังแอนิเมชั่นที่โด่งดังเรื่อง Frozen อย่างเพลง Do you wanna built a snowman? ที่อันนาชวนเอลซ่าที่เก็บตัวอยู่ในห้องไปปั้นมนุษย์หิมะด้วยกันเหมือนที่เคยเล่นในสมัยเด็กๆ
The Illustrated History Of The Snowman By Bob Eckstein
Credit : indiebound .org
การริเริ่มสร้างตุ๊กตาหิมะตัวแรกนั้นไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เรื่องราวของมนุษย์หิมะที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกบันทึกเอาไว้โดย Bob Eckstein ผู้เขียนหนังสือ The Illustrated History of the Snowman โดยเขาได้ทำการศึกษาและจดบันทึกเรื่องราวของตุ๊กตาหิมะตั้งแต่ยุคกลาง โดยทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการแสดงภาพทางศิลปะในพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และห้องสมุดในยุโรป เอกสารที่เขาพบก็คือภาพประกอบเล็กๆ ที่กล่าวถึงร่องรอยครั้งแรกสุดที่เรื่องราวของมนุษย์หิมะได้ถูกจดบันทึกไว้ โดยต้นฉบับเอกสารชิ้นนี้เรียกว่า Book of Hours เล่าเรื่องราวให้เห็นถึงตุ๊กตาหิมะตัวเล็กที่ในช่วงยุคกลางย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ.1380
ภาพวาดเก่าแก่ที่แสดงภาพของตุ๊กตาหิมะจากเอกสาร Book of Hours
Credit : commons.wikimedia
เขาเสริมว่าตุ๊กตาหิมะเป็นรูปแบบหนึ่งของกิจกรรมที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายที่ได้รับความนิยมในช่วงยุคกลาง และหากย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 14 ตุ๊กตาหิมะ ก็ถือเป็นหนึ่งในของเล่นและกิจกรรมที่เด็กๆ ชอบที่จะสร้างมันขึ้นมาอยู่เสมอในทุกๆ ปีของฤดูหนาว และแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังใช้มันเป็นเครื่องมือในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระอีกด้วย
ภาพถ่ายตุ๊กตาหิมะของ Mary Dillwyn ซึ่งเชื่อว่าเป็นครั้งแรกที่มีคนถ่ายภาพกับมนุษย์หิมะ
Credit : National Library of Wales
ภาพถ่ายตุ๊กตาหิมะรูปแรกนั้น ถูกถ่ายไว้ได้ในปี ค.ศ. 1853 โดย Mary Dillwyn ช่างภาพชาวเวลส์ ทั้งนี้รูปนี้ไม่เพียงแต่เป็นภาพถ่ายที่เก่าแก่ที่สุดของตุ๊กตาหิมะเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในภาพถ่ายแรกๆ หลังจากมีการริเริ่มประดิษฐ์กล้องถ่ายรูปขึ้นมาอีกด้วย โดยเธอต้องการทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ของกล้องถ่ายรูป และตุ๊กตาหิมะก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจแรกๆ ที่เธอถ่ายภาพเก็บไว้ได้ ปัจจุบันนี้ภาพถ่ายใบนี้ถูกเก็บรักษาไว้ในหอสมุดแห่งชาติแห่งเวลส์
ภาพวาดตุ๊กตาหิมะมากมายที่ตั้งเรียงรายบริเวณหน้า Grand-Place of Brussels ในปี ค.ศ. 1511
Credit : atlasobscura .com
ตุ๊กตาหิมะได้ปรากฏตัวอยู่ในบางช่วงของประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างเช่น “ฤดูหนาวแห่งความตาย” ในปี ค.ศ. 1511 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในเวลานั้นนับเป็นช่วงเวลาแห่งความหนาวเย็นที่ยาวนาน และสร้างความทุกข์ยากให้กับชาวเบลเยียมเป็นอย่างมาก เทศกาลตุ๊กตาหิมะถูกจัดขึ้นโดยหวังว่าจะช่วยให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างช่วง 6 สัปดาห์ที่หนาวเหน็บ แต่ทว่าประชาชนต่างพากันออกมาสร้างรูปปั้นและตุ๊กตาจากหิมะที่ทำท่าทางในอิริยาบทสิ้นหวัง สะท้อนชีวิตที่ยากลำบากในช่วงฤดูหนาว ไปทั่วทั้งกรุงบรัสเซลส์ โดยมีรูปปั้นหิมะทั้งหมดถึง 110 ชิ้น วางเรียงรายอยู่ทั่วทั้งเมืองเลยทีเดียว

Harbin Ice & Snow Sculpture Festival

Credit : nst .com.my
ปัจจุบันหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศฤดูหนาวและชื่นชมตุ๊กตาหิมะอย่างใกล้ชิดก็สามารถเดินทางไปตามเทศกาลฤดูหนาวตามเมืองต่างๆ ได้ทั่วโลก อย่างเช่นเทศกาล Harbin Ice & Snow Sculpture Festival ที่ประเทศจีน โดยเทศกาลน้ำแข็งฮาร์บินเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจในประเทศจีน มีการนำน้ำแข็งกว่า 120,000 ลูกบาศก์เมตร และหิมะ 111,000 ลูกบาศก์เมตร ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างดินแดนสุดมหัศจรรย์ในฤดูหนาวแห่งนี้ โดยฝีมือของช่างแกะสลักน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก โดยคุณจะพบกับสไลเดอร์หิมะ เลื่อนหิมะ ลานสเก็ตน้ำแข็ง และตุ๊กตาหิมะกว่า 2,000 ตัว ทั้งงานจะถูกประดับประดาด้วยไฟที่สวยงามเพื่อให้ผู้เข้าชมดื่มด่ำกับความสนุกกับความเย็นยะเยือกได้ยาวนานจนถึงกลางคืน

เทศกาลมนุษย์หิมะ ฮาคุซัง

Credit : ishikawatravel .jp
เทศกาลมนุษย์หิมะ ฮาคุซัง ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มนุษย์หิมะหลายพันตัวถูกสร้างโดยชาวบ้านและมีการประดับประดาไฟในตอนกลางคืนของทุกๆ เดือนกุมภาพันธ์ ชาวเมืองฮาคุซังจะประดิษฐ์ตุ๊กตาหิมะที่มีรูปร่างและขนาดต่างๆ ขึ้นแสดงนับพันตัว รอบแรกของเทศกาลจัดจะขึ้นที่พื้นที่คุวาจิมะ จากนั้นจะย้ายไปที่ชิรามิเนะที่อยู่ใกล้เคียงในสัปดาห์ถัดไป ผู้อยู่อาศัยอยู่ที่นั่นจำนวนมากมีจะส่วนร่วมในการสร้างและตกแต่งภายในงาน และนักเรียนในท้องถิ่นก็พากันมาช่วยทำตุ๊กตาหิมะซึ่งถือเป็นความน่าประทับใจอย่างยิ่ง เมื่อถึงยามพระอาทิตย์ตกดินตุ๊กตาหิมะทั้งหมดจะถูกประดับไฟเพื่อสร้างการแสดงแสงสีที่เปล่งประกายในฤดูหนาว

เทศกาลหิมะแทแบคซาน

Credit : english .visitkorea .or.kr
เทศกาลหิมะแทแบคซาน ประเทศเกาหลี ถือเป็นเทศกาลฤดูหนาวชั้นนำของเมืองแทแบค โดยมีภูเขาแทแบคซาน ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะที่แลดูงดงามเป็นฉากหลังซึ่งจัดขึ้นทุกฤดูหนาว นี่คือเทศกาลที่นักท่องเที่ยวจะสามารถเพลิดเพลินไปกับความงามของเมืองแทแบคที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างแท้จริง ไฮไลท์ของเทศกาลก็คือ ผู้เยี่ยมชมสามารถสัมผัสกับสถาปัตยกรรมโบราณขนาดใหญ่ และรูปปั้นที่ถูกสร้างจากหิมะมากมาย ทั้งยังได้ชื่นชมผลงานของนักแกะสลักหิมะที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกอีกด้วย นอกจากยังสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการไปนั่งจิบกาแฟภายในกระท่อมน้ำแข็งอีกด้วย
น่าเสียดายที่ประเทศไทยไม่มีหิมะให้เราได้ลองปั้นกันหน้าบ้าน เพราะฉะนั้นฤดูหนาวปีไหนว่างๆ ก็ลองเดินทางไปประเทศที่มีหิมะตก เพื่อสัมผัสหิมะและลองมาปั้นมนุษย์หิมะสักตัวกันนะคะ
เรื่องราวของสโนว์แมนหรือตุ๊กตาหิมะนั้นน่าสนใจและมีประวัติมายาวนาน ถือเป็นประเพณีและสัญลักษณ์ของฤดูหนาวที่แผ่ขยายไปทั่วโลก ด้วยปุยหิมะที่ดูพองฟูขาวสะอาดเหมือนก้อนนุ่น และรูปร่างที่อ้วนกลมปุ้มปุ้ย พร้อมหน้าตาแปลกประหลาดปนน่ารักของตุ๊กตาหิมะ ทำให้หลายคนหลงรักตุ๊กตาหิมะไปพร้อมกับฤดูหนาวอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
en.wikipedia .org
indiebound .org
dailymail .co.uk
dovercrimsonian .com
ishikawatravel .jp
english.visitkorea .or.kr
gangwon .to

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO