ถ้าพูดถึงประเทศ “จีน” หลายคนก็นึกถึงหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่าง กำแพงเมืองจีน ซึ่งเป็นกำแพงที่ขึ้นชื่อว่ามีความยาวมากที่สุด และใช้เวลาสร้างยาวนานที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์มากมาย รวมถึงเป็นจุดชมวิวและท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่ง

หากจะเล่าประวัติความเป็นมาของ “กำแพงเมืองจีน” หรือที่เรียกกันว่า Great Wall Of China นั้น อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่บทความนี้เราจะสรุปแบบเข้าใจง่ายๆ ให้แฟนๆ บาริโอได้อ่านกันค่ะ

ความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9 มณฑล คือ มณฑลเหลียวหนิง (Liaoning), มณฑลเทียนจิน (Tianjin), มณฑลเหอเป่ย์ (Hebei), ปักกิ่ง (Beijing), เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (Inner Mongolia), มณฑลซานซี (Shanxi), มณฑลส่านซี (Shaanxi), เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย (Ningxia) และ มณฑลกานซู (Gansu) ด้วยความครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ ชาวจีนจึงมอบสมญานามให้กับกำแพงเมืองจีนว่า “กำแพงหมื่นลี้”

กำแพงเมืองจีนมีความยาวกว่า 21,196.18 กิโลเมตร และเป็นกำแพงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ใช้เวลาสร้างกว่า 2,000 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ โดยถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ก่อนสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นปฐมจักรพรรดิพระองค์แรกของจีน และเปลี่ยนผ่านเวลามาหลายสมัย จนแล้วเสร็จในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิหงอู่ ยุคต้นราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644) โดยกำแพงเมืองจีนเริ่มต้นทางทิศตะวันออกที่ Shanhaiguan ในมณฑล Hebei คดเคี้ยวขึ้นลงตามภูเขาและที่ราบสูงราวกับมังกร และสิ้นสุดที่ Jiayuguan ในมณฑล Gansu ทางทิศตะวันตก

Shanhai Pass

Credit : alliance.igkia .com

Shanhai Pass เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (1368 – 1644) และเป็นทางผ่านแห่งแรกในภาคตะวันออกของจีน เนื่องจากตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ง่ายต่อการเดินทาง แต่ยากแก่การโจมตี ช่วยปกป้องที่ราบภาคกลางจากการรุกรานของชนเผ่าเร่ร่อนทางตอนเหนือในสมัยโบราณ จึงขึ้นชื่อว่าเป็น “ด่านแรกใต้สวรรค์” โดยอยู่ทางนอกเมือง Qinhuangdao บนอ่าว Bohai และห่างจากกรุงปักกิ่ง 305 กิโลเมตร

Jiayu Pass

Credit : srca-info .com

Jiayu Pass มีชื่อเสียงจากการเป็นป้อมปราการด่านแรกทางตะวันตกสุดของกำแพงเมืองจีนในสมัยราชวงศ์หมิง ในบรรดาทางผ่านหลายร้อยแห่งของกำแพงเมืองจีน ทางผ่าน Jiayu เป็นหนึ่งในทางผ่านที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีที่สุด และด่านนี้จะแตกต่างจากส่วนอื่นๆ ของกำแพงเมืองจีนที่ถูกสร้างด้วยดินอัดแน่น แต่ Jiayu Pass ถูกสร้าง ด้วยหินหรืออิฐ ทำให้มีสีเหลืองที่โดดเด่นและเป็นเส้นทางผ่านไปยังทะเลทรายที่อยู่โดยรอบได้อย่างกลมกลืน

กำแพงเมืองจีนเป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุต่างๆ ส่วนใหญ่จะสร้างด้วยอิฐและบล็อกหินตัด และใช้ปูนขาวเพื่อยึดอิฐเข้าด้วยกัน ในกรณีที่ไม่มีอิฐและบล็อก จะใช้ดินอัด หินเจียระไน และไม้เป็นวัสดุในท้องถิ่น

จุดประสงค์ในการสร้างกำแพงเมืองจีน คือ การใช้ป้องกันการรุกรานและป้องกันประเทศทางตอนเหนือ รวมถึงไปจุดประสงค์อื่นๆ เช่น การควบคุมชายแดน การอนุญาตให้มีการเรียกเก็บภาษีกับสินค้าที่ขนส่งไปตามเส้นทางสายไหม การควบคุมหรือส่งเสริมการค้า และการควบคุมการย้ายถิ่นฐานและการย้ายถิ่นฐาน นอกจากนี้กำแพงเมืองจีนยังสะท้อนการปะทะกันและการแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรมเกษตรกรรมกับอารยธรรมเร่ร่อนในจีนโบราณได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นถึงหลักฐานทางกายภาพที่สำคัญในการคิดเชิงกลยุทธ์ทางการเมืองที่มองการณ์ไกล ของกองกำลังทหารและการป้องกันประเทศอันเกรียงไกรในอาณาจักรกลางสมัยโบราณของจีน และเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมทางทหาร เทคโนโลยี และศิลปะอันยอดเยี่ยมของจีนในสมัยโบราณ แสดงถึงความสำคัญที่ไม่มีใครเทียบได้ในฐานะสัญลักษณ์ประจำชาติ ในการปกป้องความมั่นคงของประเทศและประชาชน

ที่สำคัญกำแพงเมืองจีนไม่ใช่กำแพงที่มีโครงสร้างเดียว แต่ประกอบด้วยหอสัญญาณ แนวกั้น ค่ายทหาร สถานีรักษาการณ์ และป้อมปราการตามแนวกำแพง รวมกันเป็นระบบป้องกันแบบบูรณาการ และในปัจจุบันกำแพงเมืองจีนยังถูกบรรจุให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อีกทั้งยังเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของเมืองจีนที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างต้องการมาเยือน นอกจากสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งแล้ว หากยืนอยู่บนกำแพงเมืองจีน จะสามารถมองเห็นวิวของธรรมชาติได้อย่างสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว โดยสามารถชมวิวได้ตามจุดป้อมปราการหรือด่านต่างๆ เป็นต้น

ป้อมปราการหรือด่านสำคัญต่างๆ

ด่านปาต๋าหลิ่ง

Credit : thetripgoeson .com

ด่านปาต๋าหลิ่ง (Badaling) เป็นด่านยอดนิยม เพราะมีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่บนเขาที่มีความโค้งไหวดั่งระลอกคลื่น ทำให้มีความสวยงาม น่าสนใจ และเป็นส่วนแรกที่เปิดให้เข้าชม สามารถเดินทางไปได้ง่ายเพราะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 80 กิโลเมตร ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย เช่น เคเบิ้ลคาร์ รถราง และร้านอาหาร เป็นต้น

ด่านมู่เถียนยวี่

Credit : en.wikipedia

ด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu) อยู่ห่างจากเมืองปักกิ่งประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นด่านที่ถูกยกย่องว่าได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดและมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครที่มาเยือนด่านมู่เถียนยวี่นอกจากไฮไลต์บันได 4,000 กว่าขั้น ซึ่งคงมีน้อยคนนักที่จะสู้ไหว การเดินทางสไลด์ขึ้น-ลง ไหลไปตามสันเขาโดยใช้ลิฟต์เก้าอี้ หรือกอนโดลาก็เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยว และอีกหนึ่งลักษณะเด่นของกำแพงที่ด่านมูเถียนหยูคือวิธีลงมาโดยคนขี่เลื่อนหิมะ ที่มีล้อส่วนตัว สิ่งนี้ทำให้ผู้ขับขี่คนเดียวสามารถลงจากกำแพงไปยังหุบเขาบนรางโลหะที่คดเคี้ยวได้

ด่านซือมาไถ่

Credit : en.wikipedia

ถูกยกให้เป็นด่านในกำแพงเมืองจีนที่สวยที่สุด สำหรับด่าน ด่านซือมาไถ่ (Simatai) ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 986 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของกำแพงเมืองจีน ทำให้ด่านซือมาไถ่กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สูงที่สุดในกรุงปักกิ่ง และเป็นด่านเดียวที่เปิดให้ชมในเวลากลางคืน ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความงดงาม ตามความหมายชื่อชื่อของซื่อมาไถ่ ที่แปลว่า “มีทัศนวิสัยที่ดีในเวลากลางคืน” เพราะสามารถมองเห็นแสงไฟของกรุงปักกิ่งที่อยู่ห่างออกไป 120 กิโลเมตรเลยทีเดียว

ด่านเจียนโค่ว

Credit : chinadiscovery .com

หากใครชอบความท้าทาย แนะนำให้มาที่ด่าน ด่านเจียนโค่ว (Jiankou) มีความท้าทายรอคุณอยู่มากมาย เนื่องจากกำแพงตั้งอยู่ในจุดของเขาที่มีความคดเคี้ยวและสูงชัน และจุดเด่นของเขาที่มีรูปร่างคล้ายกับลูกศรโดยมีสันเขาที่พังทลายเปิดออก ซึ่งเกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ทำให้นึกถึง Arrow Nock นั่นเอง

ด่านเจียนโคว่ เป็นเส้นทางเดินเขาที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวซึ่งต้องมีไกด์นำเที่ยวโดยคนในท้องถิ่น เนื่องจากตรงด่านเจียนโข่วจึงเป็นส่วนที่ล่อแหลมที่สุด เพราะปัจจัยทางธรรมชาติที่ทำให้หลายแห่งในด่านเจียนโคว่พังทลายลง ทำให้ไม่สามารถเปิดให้เข้าชมแบบทั่วไปได้ แต่ด่านเจียนโคว่ก็ยังเป็นเส้นทางชมวิวที่มองเห็นภูเขาและส่วนอื่น ๆ ของกำแพงเมืองจีนอีกแห่งหนึ่ง

ด่านหวงฮวาเฉิง

Credit : chinaodysseytours .com

ดื่มด่ำบรรยากาศที่ดีที่สุดที่ด่านหวงฮวาเฉิง (Huanghuacheng) ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งวิวภูเขาและวิวทะเลสาบ โดยจุดเด่นของด่านนี้ยังมีในส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำของกำแพงเมืองจีน ใต้ผืนน้ำในทะเลสาบ และทิวทัศน์หลังจากเดินขึ้นเขาสูงชันไปยังหอรักษาการณ์สูง และนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ทั้งบนบกและนั่งเรือชมจากทางทะเลสาบได้ด้วย ถือเป็นจุดที่บรรยากาศดีสุดๆ ไปเลย

ด่านจวี ยงกวน

Credit : westchinago .com

ด่านนี้ ด่านจวียงกวน (Juyongguan) ต้องใช้พลังเยอะหน่อย เพราะสามารถเดินขึ้น-ลงได้อย่างเดียว เพื่อเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว แต่ทางเดินจะเป็นแบบวนลูป คือ จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดคือที่เดียวกัน ด่านนี้นักท่องเที่ยวก็มีไม่มากนนัก อาจเพราะต้องเดินเท้า และไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างกระเซ้าไฟฟ้า เป็นต้น โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมจุดนี้คือประมาณเดือนเมษายน พฤษภาคม กันยายน และตุลาคม ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ภูเขาเขียวขจีจะเต็มไปด้วยดอกไม้สวยงาม ตัวด่านกำแพงโบราณจะจมอยู่ในทะเลดอกไม้ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้หลากสีถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของด่านนี้ที่มีทิวทัศน์สวยงามน่าประทับใจ

ด่านจินซานหลิ่ง

Credit : thetravelingamerican .com

ด่านจินซานหลิ่ง (Jinshanling) เป็นด่านที่ยังความเป็นโบราณไว้ ไม่ค่อยได้รับการซ่อมแซม ทำให้ไม่เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวเท่าไหร่ แต่ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวด่านนี้ตอนช่วงฤดูหิมะตก กำแพงที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ถือเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของด่านนี้เลย

ด่านซานไห่กวาน

Credit : en.wikipedia

ด่านซานไห่กวาน (Shanhaiguan) เป็นด่านแรกของกำแพงเมืองจีน อดีตเคยเปรียบเป็นมังกร และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกำพงเมืองจีน ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะเป็นด่านที่ติดทั้งภูเขาและทะเล ซึ่งมีเพียงด่านเดียวเท่านั้นทั้งยังมีป้อมปราการที่ถูกบูรณะไว้เป็นอย่างดี

ด่านเจียอวี่

Credit : en.wikipedia

Jiayuguan ด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีน อยู่ทางทิศตะวันตกของจีน ติดชายแดนมองโกล ถือเป็นเส้นทางสายไหมที่สำคัญ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลทราย และยังมีป้อมปราการสำคัญซึ่งได้ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความ ” The Great Wall ” นี้ แน่นอนว่านอกจากสาระความรู้เกี่ยวกับเมืองจีนที่เราสรุปมาให้อ่านคร่าวๆ แล้ว หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวจีน ด่านต่างๆ ในกำแพงเมืองจีนก็น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thechinaguide .com
artsandculture.google .com
wikipedia .org
China Travel Books