Vineyard Stories

เรื่องราวไร่องุ่น

ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ละครชุดซีรีส์เรื่อง “4 หัวใจแห่งขุนเขา” โด่งดังมากๆ ซึ่งโลเคชันหลักในเรื่องเป็นสวนองุ่นสวยงาม และกว้างใหญ่ ตัวละครทำอาชีพทำไร่องุ่น ทำไวน์ (Wine) ทำรีสอร์ท เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวภายในไร่ เป็นต้น ทำให้หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากมีไรองุ่นเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็มีโอกาสไปเยือน และ เก็บองุ่นสดๆ จากต้นสักครั้งก็ยังดี
Vineyards Wine Field

Credit : italyperfect

แม้ไร่องุ่นส่วนใหญ่จะโด่งดัง และปลูกกันมากในแถบยุโรป เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส อังกฤษ อเมริกา สวิซเซอร์แลนด์ ฯลฯ ซึ่งถ้าจะยกให้ที่ไหนคือที่สุดก็ต้องเป็นเมืองเคียนติ ในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี (Chianti, Tuscany, Italy) ที่ชื่อเสียงเรียงนามเรื่องการปลูกองุ่นได้คุณภาพดีที่สุด เนื่องจากคนที่นี่ใส่ใจทุกขั้นตอนของการปลูก การดูแล การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงขั้นตอนการบรรจุหีบห่อ ทำให้องุ่นมีรสชาติดี แถมนำไปทำไวน์ก็ได้กลิ่น และ รสชาติดีแตกต่างจากที่อื่น ทั่วโลกจึงยกให้ไวน์ที่นี่เป็นอันดับหนึ่งในใจ
Vineyards Wine Grape

Credit : amylieberfarb

ในเมืองไทยเอง ก็มีไร่องุ่นขนาดใหญ่หลายที่ แต่ที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันอย่างกว้างขวางก็คือ “ ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค (Silver Lake Vineyards) ” นั่นเอง ซึ่งก็มีการปลูกองุ่นหลายๆ พันธุ์ ไม่แพ้ไร่องุ่นจากต่างประเทศเลย โดยหลักๆ พันธุ์องุ่นที่นิยมปลูกจะมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ
พันธุ์ไวท์มะละกา (White Malaga) ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็นอีก 2 สายพันธุ์ คือ แบบผลกลมและผลยาว ช่อใหญ่ยาว ผลสีเหลืองอมเขียว รสชาติหวาน มี 1-2 เมล็ด เปลือกหนาและเหนียว
พันธุ์คาร์ดินัล (Cardinal) มีลักษณะพวงใหญ่ ผลดกกลมใหญ่ มีสีแดงหรือม่วงชมพู รสหวาน กรอบ เปลือกบาง มีเมล็ด 1-2 เมล็ด
Vineyards Grape Cake

Credit : pardonyourfrench

Vineyards Grape Jam

Credit : theflavorbender

อย่างที่เรารู้กันดี ว่าองุ่นเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศที่นำมาทำไวน์ แต่ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมายที่ทำมาจากองุ่น ไม่ว่าจะเป็น เค้ก ขนมหวาน น้ำองุ่น คุ้กกี้ เจลลี่ บ๊วย แยม ฯลฯ
ซึ่งหากเราสังเกตุในหนังฝรั่งหลายๆ เรื่องที่ถ่ายทำตามชนบท หรือ เป็นหนังย้อนยุคไปสักหน่อย ก็จะพบว่าแต่ละบ้านนั้นก็จะมีสูตรลับประจำบ้านในการทำพาย ทำซอส ทำอาหาร ที่ใช้องุ่น หรือผลไม้อื่นๆ เช่น แอปเปิ้ล ส้ม หรือลูกพีชเป็นวัตถุดิบหลัก
Vineyards White Wine

Credit : italyfoodkelli.tumblr

ในส่วนของไวน์องุ่นนั้น ก็มี 2 ประเภท คือ ไวน์ขาว และ ไวน์แดง ซึ่งแตกต่างกันจากสายพันธุ์องุ่น และกรรมวิธีการทำ ทำให้รสชาติ สี กลิ่น แตกต่างกันออกไป โดย ไวน์ขาว (White Wine) จะมีรสชาติเปรี้ยวหวานนำ ความฝาดน้อย ใส ๆ สดชื่นลื่นคอ  เหมาะกับการทานคู่กับอาหารรสชาติเปรี้ยวหวาน และอาหารทะเล จะได้รสชาติที่เข้มข้น ดื่มด่ำได้อย่างสดชื่น
Vineyards Red Wine

Credit : etsy

ในขณะที่ไวน์แดง (Red Wine) จะมีรสชาติฝาดนำ เปรี้ยวซ่อนหวาน วิธีการคือเติมเปลือกองุ่น (Grape Skin), ขั้วองุ่น (Grape Pip) รวมถึงเมล็ด (Seed) เข้าไปในกระบวนการหมัก ซึ่งถูกหมักในอุณหภูมิสูง ทำให้ไวน์มีสีแดงแตกต่างจากไวน์ขาว เหมาะกับการดื่มคู่กับสเต็กเนื้อสัตว์ใหญ่ เพราะจะช่วยตัดความเลี่ยน ได้รสชาติที่กลมกลมมากขึ้น
ทริคการเลือกไวน์ มากินคู่กับอาหารง่ายๆ อีกอย่างที่ผู้เขียนเตยได้ยินมาจากผู้ใหญ่ ก็คือ หากเนื้อที่เราจะรับประทานมีสีขาว หรือสีอ่อน ให้กินคู่กับไวน์ขาว และถ้าเป็นเนื้อสีแดง หรือสีเข้ม ก็เหมาะที่จะกินคู่กับไวน์แดงนั่นเอง
Vineyards Wine Stomping

Credit : patuvaipateshestviabezkrai

องุ่นนอกจากผลของมันจะถูกนำไปทำขนม ของหวาน และ เครื่องดื่มแล้ว หลายๆ ไร่ ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมความงามของไร่องุ่น และ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ร่วมสนุกมากมาย เช่น เก็บองุ่น ขี่ ATV ชมไร่ นั่งรถราง ปั่นจักรยานกินลมชมวิว ในขณะเดียวกันไร่องุ่นทั่วโลกยังมีบางที่ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมทำไวน์แบบดั้งเดิม นั่นก็คือ การย่ำเท้าบนองุ่น ซึ่งเรียกกันว่า Grape Stomping
ไร่บารอสซา วัลเลย์ เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย (Adelaide, Australia) ที่จัดกิจกรรมการย่ำองุ่นนี้ทุกปี รวมไปถึงไร่อื่นๆ อีกมากมาย บางไร่ถึงขั้นมีการกิจกรรมแข่งขันเหยียบองุ่นกันอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้ก็เพื่อคงไว้ซึ่งวิถีการทำไวน์รูปแบบดั้งเดิม แม้ปัจจุบันจะเปลี่ยนวิธีทำไวน์แบบใหม่ เนื่องจากเห็นว่าการทำไวน์แบบดั้งเดิมดูไม่ดีต่อสุขลักษณะ เพราะอาจทำให้ท้องไส้ปั่นปวนได้

Credit : Kelly Forrister on Unsplash

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจที่สามารถทำได้ในไร่องุ่นก็คือ ‘การขี่ม้า’ (Horse Riding) ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่ากิจกรรมนี้เป็นที่นิยมในประเทศเมืองหนาวมากๆ ที่จะค่อยๆ ขี่ม้าไปตามไร่องุ่นที่ทอดยาว ชมวิวทิวทิศน์สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัวคนสำคัญโดยปราศจากการรบกวนจากผู้อื่น ไร่องุ่นบางแห่งถึงกับมีคอร์สเส้นทางการขี่ม้าที่จัดเตรียมเอาไว้ให้กับผู้มาเยือนทุกคนอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน ทำให้สภาพอากาศ และแดดไม่ค่อยเหมาะสมกับการใช้เวลากลางแจ้งอย่างสุนทรีย์เท่าไหร่นัก ทำให้กิจกรรมขี่ม้าไม่ค่อยเป็นที่นิยมในประเทศของเราเท่าไหร่

Credit : Two for Style on Pinterest

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด… หลังจากที่เราทำกิจกรรมต่างๆ มาจนถึงยามเย็นแล้ว สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือการกินอาหารที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสดชื่น ซึ่งนอกจากการรับประทานอาหารแล้ว ในไร่องุ่นบางแห่งยังรับจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ไปจนถึงงานแต่งงาน ให้แขกผู้มาเยือนได้ร่วมสร้างความทรงจำอันล้ำค่ากลับบ้านไปพร้อมกันอีกด้วย
นึกภาพบรรยากาศความเขียวขจี กับพวงองุ่นอวบอิ่มสีม่วงน่ากินแล้ว อยากไปเที่ยวเร็วๆ จังค่ะ เอาเป็นว่าช่วงนี้เที่ยวทิพย์กันไปก่อนเนอะทุกคน เตรียมจัดวางแผนการเดินทางและกิจกรรมที่อยากทำไปพลางๆ ก่อน ส่วนช่วงนี้อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพกันดีๆ นะคะ ^^
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอบคุณข้อมูลจาก
italyfoodkelli.tumblr
italyperfect

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO