Bareo Interior Design - Living Young - Monaco

WHERE TO GO : MONACO
ท่องเที่ยว โมนาโก

Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : wallpapersafari
“ โมนาโก ” ประเทศเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ถือได้ว่าเป็นประเทศรัฐอธิปไตยที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก โดยมีขนาดเพียง 200 เฮกตาร์ มีขนาดเล็กรองลงมาจากนครวาติกันเท่านั้น ตั้งอยู่ติดประเทศฝรั่งเศสและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในเมืองก็ล้วนเรียงรายไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมสุดหรูของเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดังกระฉ่อนโลก เรือยอทช์ราคาหลายล้านดอลลาร์ที่เที่ยบท่าอยู่ตามท่าเรือของ Fontvieille และ Monte – Carlo อย่างมากมาย
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : yachtcharterfleet
นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นบรรดารถซุปเปอร์คาร์ เช่น Aston Martins และ Rolls-Royces จอดอยู่นอกคาสิโน หน้าโรงแรม และพบเห็นได้อยู่ทั่วไปในเมือง Monte Carlo เต็มไปหมดตามท้องถนนอีกด้วย
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : picjumbo
ที่ประเทศแห่งนี้มีชื่อเสียงทางด้านการแข่งขันรถ Formula One Grand Prix เป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ประชากรยังมีรายได้ต่อหัวจัดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงประเทศ โมนาโก เองก็มีประวัติศาสตร์อันยาว ส่วนทางด้านสภาพภูมิประเทศก็มีอากาศที่อบอุ่นและมีแดดออกตลอดทั้งปี จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสำรวจได้อย่างไม่เคยขาดสาย และด้วยความความมีเสน่ห์และความเย้ายวนใจแบบเฉพาะตัวของโมนาโกเอง เมือง French Riviera จึงถือเป็นเมืองที่คนอยากมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกเช่นกัน
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Prince Rainier and Princess Grace of Monaco
Credit : graceandfamily.tumblr
สำหรับคนที่อาจหลงใหลในเทพนิยายเรื่องของเจ้าชายผู้สูงศักดิ์กับเจ้าหญิงแสนสวยสามัญชน เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นจริงที่โมนาโก โดย “เกรซ เคลลี” ดาราสาวชาวอเมริกัน ได้เผอิญพบรักและแต่งงานกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ของโมนาโก จนเรื่องราวของทั้งคู่ได้กลายเป็นตำนานสุดโรแมนติกที่ปัจจุบันผู้คนยังคงกล่าวขานถึงอย่างไม่รู้จบ
เกริ่นกันมาแล้ว คงมีหลายคนอยากไปเที่ยว ” โมนาโก ” กันบ้าง ดังนั้นเราขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะสวยงามตราตรึงใจแล้ว ยังแฝงไปด้วยเรื่องของประวัติศาตร์อันยาวนาน

พิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์แห่ง โมนาโก

Musée Océanographique de Monaco

Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : rivierabarcrawltours
Musée Océanographique เป็นพิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์ ที่เกี่ยวกับท้องทะเล เดิมทีได้รับการออกแบบเริ่มแรกให้เป็นวังแล้วจึงอุทิศวังแห่งนี้ให้กับการศึกษาทางศิลปะและวิทยาศาสตร์โดยทั้งหมด ตัวอาคารมีรูปแบบสไตล์บาโรกที่น่าหลงใหลชวนฝัน ตั้งอยู่บนหน้าหน้าผาของ Le Rocher ที่สามารถมองเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างงดงามสมบูรณ์ไกลสุดลูกหูลูกตา
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : en.meet-in-nice
พิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์ของโมนาโกแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ก่อตั้งโดยเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 1 ซึ่งเป็นปู่ทวดของเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก ใน ปี ค.ศ. 1912 เป็นที่เก็บตัวอย่างทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดที่รวบรวมได้ในช่วงศตวรรษที่ 20
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : seemonaco
ด้านในพิพิธภัณฑ์เป็นสถานที่พิเศษสำหรับการจัดเลี้ยงอาหารค่ำ งานค็อกเทล หรืองานอีเว้นท์ต่างๆ ซึ่งมักจะจัดในตอนเย็น นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมที่สามารถใช้ได้ระหว่างวันสำหรับการจัดงานสัมมนาและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อสียงต่างๆ และสำหรับการจัดงานกาล่าดินเนอร์ครั้งหนึ่งก็สามารถจุแขกได้มากสูงสุดถึง 250 คน นอกจากนี้ภายในยังมักมีการจัดคอนเสิร์ตอยู่เรื่อยๆ อีกด้วย
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : FB : MonacoInfo
เจ้าชายอัลเบิร์ตได้อุทิศเวลาในชีวิตส่วนใหญ่ให้กับการสำรวจทางท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลของ โมนาโก ตัวเจ้าชายได้ลงมือสำรวจทางทะเลด้วยตัวเองหลายครั้ง เพื่อศึกษามหาสมุทรและสัตว์ทะเลที่แฝงตัวอยู่เบื้องล่าง ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมาในช่วงชีวิตของท่าน ตัวเจ้าชายและทีมงานสามารถรวบรวมสัตว์ทะเลได้มากกว่า 6,000 สายพันธุ์ ซึ่งสัตว์ทั้งหมดถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

อาสนวิหารแห่งโมนาโก

Saint Nicholas Cathedral (Cathédrale de Monaco)

Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : Susan Kitchell on Flickr
“ มหาวิหาร โมนาโก ” สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1875 ในสไตล์โรมาเนสก์แบบไบแซนไทน์ เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าชายผู้ล่วงลับ รวมถึงหลุมศพของเจ้าชายเรเนียร์ที่ 3 และเจ้าหญิงเกรซ พระมเหสีของพระองค์
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
หลุมฝังศพของเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโกตั้งอยู่เคียงข้างกับพระสวามี นั่นคือเจ้าชายเรเนียร์ ในมหาวิหารเซนต์นิโคลัส
Credit :holeinthedonut
โบสถ์หลังนี้สืบทอดต่อจากโบสถ์แซงต์นิโคลัส ซึ่งถูกทำลายลงในปี ค.ศ. 1874 เจ้าชายชาร์ลส์ที่ 3 ทรงวางศิลาก้อนแรกของอาสนวิหารเมื่อ วันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1875 ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อ วันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ.1903 แต่ได้เปิดโบสถ์อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1911
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : commons.wikimedia
โบสถ์ถูกก่อสร้างด้วยหินสีขาวจาก La Turbie โดยมหาวิหารแห่งนี้มีการออกแบบตกแต่งภายในที่มีความงดงาม ซับซ้อน และใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแท่นบูชาของหลุยส์ เบรอา จิตรกรชาวเมืองนีซ ซึ่งมีอายุยาวนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1500 แท่นบูชาขนาดสูง และบัลลังก์สำหรับบาทหลวงก็ทำด้วยหินอ่อนคาร์ราราสีขาวละออแลดูงดงามเป็นที่สุด
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : wondermondo
อาสนวิหารแห่งนี้มีอุโบสถสามแห่ง คือ [อุโบสถแห่งพระบรมสารีริกธาตุเซนต์เดโวต ผู้อุปถัมภ์ของราชวงศ์ อาณาเขต และสังฆมณฑลโมนาโก] [อุโบสถเซนต์ – โรมัน ผู้เลี้ยงแกะ และทหารพลีชีพและผู้พิทักษ์อาณาเขต] และ [อุโบสถเซนต์ซาคราเมินท์ โบสถ์งานศพของบิชอปและอาร์คบิชอปแห่งโมนาโก]
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
ออร์แกนในมหาวิหารโมนาโก
Credit : wondermondo
โบสถ์เก่าแก่แห่งโมนาโกหลังนี้ก็ยังคงควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม แต่เหนือสิ่งอื่นใด การได้มาฟังเสียงออร์แกนอันแสนไพเราะสุดยิ่งใหญ่อลังการที่ประกอบไปด้วยคีย์บอร์ด 4 อัน ซึ่งเปิดตัวขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1976 บวกกับความงดงามในการดีไซน์ตัวออร์แกนชิ้นนี้ ก็ช่วยให้การจัดคอนเสิร์ตเรียกเอาประชาชนที่มีความเชื่อทางจิตวิญญาณและพระเจ้าให้เข้ามารวมตัวกันได้อย่างมากมายและน่าประทับใจในทุกๆ ครั้งอีกด้วย

ร้าน เลอ หลุยส์ที่ 15

Le Louis XV Restaurant

Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : booking
มาถึงประเทศโมนาโกทั้งที ก็ต้องห้ามพลาดร้านอาหารที่ดังที่สุดของโมนาโก นั่นก็คือ ร้าน Le Louis XV โดย Alain Ducasse ตั้งอยู่ที่โรงแรม Hotel de Paris Monte – Carlo นับตั้งแต่ร้านอาหารสุดหรูร้านนี้เปิดตัวขึ้นภายในโรงแรม Hotel de Paris เมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : thebespokeblackbook
ร้าน Le Louis XV ได้ผสมผสานความหรูหราและความสง่างามระหว่างเมนูอาหาร และการออกแบบตกแต่งภายในร้านได้อย่างลงตัวจนเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วโมนาโก โดยภายในห้องอาหารนั้นถูกตกแต่งไปด้วยสีทองอันหรูหราที่ประดับไปด้วยคริสตัล ซึ่งชวนเราให้นึกถึงพระราชวังแวร์ซายในฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
อเลน ดูกาส
Credit : The Times
Le Louis XV เป็นร้านอาหารหลักของเชฟที่มีชื่อเสียงนามว่า Alain Ducasse ( อเลน ดูกาส ) ร้านของเขาตั้งอยู่ภายในโรงแรม Hôtel de Paris Monte-Carlo ใน Monte Carlo เขาเปิดร้านอาหารแห่งนี้ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1987 โดยได้รับคำท้าทายจากเจ้าชายเรเนียร์ที่ 3 แห่งโมนาโก และบริษัท Société des bains de mer de Monaco เพื่อต้องการให้เขาคว้ารางวัลดาวมิชลินมาให้ได้จำนวน 3 ดาว ภายในระยะเวลา 4 ปีตามคำท้าทาย แต่กลับกลายเป็นว่าร้านอาหารในโรงแรมแห่งแรกของเขานั้นดันได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาวในระยะเวลา 33 เดือนต่อมา ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเป้าหมายของเขาก่อนกำหนด 15 เดือน และในตอนนั้น อเลน ดูกาส อายุได้ 33 ปีเท่านั้น
Credit : amuraworld / inspiredcitizen
ที่ร้านอาหารแห่งนี้ถือว่าเป็นร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่ผสมผสานเข้ากับศิลปะอาหารแบบฝรั่งเศสชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องรสชาติและหน้าตาอันสวยงามของอาหารแต่ละจาน ทั้งนี้ภายในร้านก็มีห้องเก็บไวน์ที่มีไวน์ประมาณ 400,000 ขวดเลยทีเดียว ถือว่าเป็นห้องเก็บไวน์ที่มีขนาดใหญ่มากๆ
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : Maxim
ร้าน Le Louis XV ถือว่าเป็นร้านอาหารที่ให้ความสำคัญในการเคารพต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งหมายที่จะบรรจงปั้นแต่งและออกแบบอาหารชั้นสูงอย่างจริงจัง และตั้งใจในตลอดระยะเวลาหลายปีที่เปิดมา

ห้างสรรพสินค้าเมโทรโพ

Métropole Shopping Center

Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : hellomonaco
Métropole Shopping Monte-Carlo เปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1988 ด้วยชื่อเสียงและบรรยากาศที่หรูหราน่าเข้าไปเดินเฉิดฉายเป็นอย่างมาก ภายในบรรยากาศที่ตกแต่งด้วยวัสดุหรูหราซึ่งใช้หินอ่อนที่สวยงาม ภายใต้โคมระย้าย้อนยุคอันตระการตาล้ำค่าดูโอ่อ่าอลังการ
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : tripadvisor
หินอ่อนที่เลือกนำมาใช้ตกแต่งศูนย์การค้าแห่งนี้ สกัดจากเหมืองหิน Carrara อันโด่งดังขึ้นชื่อในประเทศอิตาลี ช่วยให้ภายในมีความรู้สึกทันสมัยแบบสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนอย่างเฉียบขาด โคมระย้าคริสตัลแนวโบฮีเมียน ห้อยโยงตระหง่านสองโคมที่สร้างโดย Faustig แขวนอยู่เหนือจัตุรัสกลาง ทำให้เกิดบรรยากาศที่งดงามเกินบรรยาย
Bareo Interior Design - Living Young - Monaco
Credit : visitmonaco
ข้างในนี้มีร้านค้า 80 ร้าน และร้านอาหาร 6 แห่งมีให้เลือกช้อปอย่างมากมาย ตั้งแต่แฟชั่นและเครื่องประดับ ไปจนถึงอาหารรสเลิศ เครื่องปะดับเพชรพลอย นาฬิกาสุดหรู สถาบันความงาม เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และของโบราณสำหรับตกแต่งราคาแพงระยับ
สำหรับประเทศโมนาโก แม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กแต่ทว่าวัฒนธรรม การกินอยู่ การใช้ชีวิตของประชากรล้วนทรงพลังและมีคุณค่ามหาศาล รวมไปถึงที่ตั้งของภูมิประเทศที่จัดว่าอยู่ในโลเคชั่นที่งดงามและน่าไปเยือนติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ และสำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวโมนาโก ก็ลองพิจารณาสถานที่ ที่เราได้แนะนำให้รู้จักกันไป เพื่อเข้าไปเยือนสักครั้งนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าความรู้สึกหลังกลับมาจากประเทศเล็กๆ แห่งนี้จะทำให้มีความทรงจำดีๆ แบบไม่มีวันลืมเลยค่ะ
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
rivierabarcrawltours .com
en.meet-in-nice .com
grandsudinsolite .fr
guide.michelin .com

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO