Wishing Star
ประดับประดาต้นคริสต์มาส
เข้าสู่เดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปีก่อนจะต้อนรับปีใหม่ในปี 2563 ลมหนาวที่พัดมากลับพาให้หวนระลึกถึงเทศกาลแห่งความอบอุ่นที่กำลังจะใกล้เข้ามาอย่างหน้าประหลาดใจ นั่นก็คือ “เทศกาลคริสต์มาส” นั่นเอง ซึ่งถือเป็นวันเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูคริสต์นั่นเอง
ทุกบ้านเรือนต่างตื่นเต้นกับเทศกาลคริสต์มาส การประดับไฟระยิบระยับยามค่ำคืน อาหารบนโต๊ะอาหารที่ได้ทานพร้อมหน้าพร้อมตากันกับสมาชิกในครอบครัว และที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลนี้ก็คือ การตกแต่งต้นคริสต์มาสนั่นเอง ซึ่งใครบ้างจะรู้ว่า “ต้นคริสต์มาส” และของที่ใช้ ตกแต่งต้นคริสต์มาส ก็มีความหมายและนำโชคมาให้กับสมาชิกในบ้านอีกด้วย
Christmas Tree
ต้นคริสต์มาส มีอีกหนึ่งความหมายว่าเป็น “ต้นไม้ในสวนสวรรค์ หรือ ต้นไม้แห่งชีวิต” ของพระผู้เป็นเจ้า เนื่องจากมีสีเขียวขจีตลอดทั้งปี หากกล่าวตามพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์นั้น กล่าวได้ว่า พระเยซูเจ้าเสมือนต้นไม้แห่งชีวิต (คัมภีร์ไบเบิล ยอห์น15:5) ที่เสมือนเป็นแสงสว่างที่คอยช่วยนำทางให้แก่ผู้คนในความมืด
อีกทั้งต้นคริสต์มาสยังเป็นตัวแทนแห่งความปิติยินดี ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ศูนย์รวมของครอบครัวในช่วงวันคริสต์มาสอีกด้วย
เมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคม ผู้คนก็จะเริ่มตกแต่ง และดีไซน์ต้นคริสต์มาส เพื่อรอวันที่จะได้เฉลิมฉลองค่ำคืนวันคริสต์มาสกับครอบครัว สร้างความอบอุ่นในช่วงฤดูที่หนาวเหน็บได้เป็นอย่างดี โดยแต่ละบ้านก็จะมีการตกแต่งและประดับของบนต้นคริสต์มาสที่แตกต่างกัน โดยของตกแต่งแต่ละอย่างก็จะมีความหมาย และคำอวยพรที่แตกต่างกันอีกด้วย
The Christmas Wreath
The Christmas Wreath หรือ พวงมาลัยคริสต์มาส โดยทั่วไปจะนิยมแขวนไว้หน้าประตูทางเข้าบ้าน ใช้ประดับบนต้นคริสต์มาสก็ได้ หรือแม้แต่วางไว้เหนือเตาผิง โดย The Christmas Wreath ถือเป็นลักษณ์ของมงกุฎหนามที่ถูกสวมให้แก่พระเยซู ระหว่างถูกนำไปตรึงกางเขน
นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า The Christmas Wreath จะสามารถปกป้องบ้านเรือนให้ปลอดภัยจากปีศาจร้าย และพลังชั่วร้ายได้อีกด้วย ซึ่งช่วงเวลาก่อนวันคริสต์มาส ถือว่าเป็นช่วงที่พลังชั่วร้ายมีมากที่สุดในรอบปี ผู้คนจึงนิยมแขวน The Christmas Wreath ไว้ที่หน้าประตูบ้าน หน้าต่าง บนเตาผิง หรือจุดที่ช่องต่าง ๆ ที่สามารถรอดเข้าผ่านตัวบ้านได้นั้น
Christmas star
Christmas star หรือ ดาวคริสต์มาส ถูกขนานนามในอีกชื่อว่า “Star of Bethlehem” คือ ดวงดาวที่ส่องแสงสว่างที่สุดบนฟ้าในคืนที่พระเยซูประสูติ อีกทั้งยังเป็นดาวที่พากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ เดินทางมาเข้าเฝ้าและถวายสิ่งของในวันพระสูติของพระเยซูอีกด้วย “ดาว” จึงถึงเป็นสัญลักษณ์ของการที่พระเยซูเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์
Christmas star ถูกนำมาประดับต้นคริสต์มาส เพื่อให้เราได้หวนระลึกถึงการลงมาประสูติของพระเยซูคริสต์ ที่มาเพื่อปลดปล่อยมนุษย์จากบาปทั้งปวง และยังเป็นเหมือนแสงสว่างนำทางในความมืด ที่นำพากษัตริย์ 3พระองค์มาพบพระเยซู Christmas star จึงเป็นตัวแทนของความศรัทธาอีกด้วย
Bells
Bells อาจหมายถึงได้ว่าเป็น กระดิ่ง หรือ ระฆัง ก็ได้ โดยเสียงระฆังที่ดังขึ้นในตอนเช้าของวันคริสต์มาสจะถือเป็นสัญญาณของการเฉลิมฉลองการถือกำเนิดของพระเยซู และเริ่มต้นเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ระฆังยังเป็นตัวแทนของความรื่นเริง และการส่งต่อความสุขให้กันด้วย
ระฆัง หรือ กระดิ่ง ยังถูกใช้ระดับบนต้นคริสต์มาส เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ถึงผู้ที่ล่วงลับ และถือเป็นสัญลักษณ์ของการจากเฉลิมฉลองของการจากไปของเหล่าปีศาจอีกด้วย และยังมีความเชื่ออีกว่าในคืนวันคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve ) ก่อนเที่ยงคืน การตีระฆังให้มีเสียงดังกังวานจะเป็นการลดพลังชั่วร้ายลงได้
Candy cane
Candy cane “ลูกกวาดรูปไม้เท้า” ถูกนำมาตกแต่งต้นคริสต์มาส เพื่อเป็นของขวัญให้กับเด็ก ๆ ในการฉลองเทศกาลคริสต์มาส โดยลูกกวาดรูปไม้เท้ามีความหมายอีกอย่างหนึ่ง คือ อักษรย่อตัว J ในชื่อของพระเยซูในภาษาอังกฤษที่มีพระนามว่า Jesus
นอกจากนี้สีของลูกกวาดก็มีความหมายถึงที่ดีอีกด้วย โดยที่ “สีแดง” เป็นตัวแทนพระโลหิตของพระเยซู และ “สีขาว” เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ ในปัจจุบันจึงนิยมนำมาประดับต้นไม้ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระเยซูอีกทางหนึ่งนั่นเอง
Christmas sock
Christmas sock หรือที่เราคุ้นเคยกันในรูปแบบของถุงเท้าที่แขวนอยู่บริเวณเหนือเตาผิง ที่เด็ก ๆ ต่างนำมาแขวนไว้เพื่อรอให้ ซานตาคลอส (Santa Claus) นำของขวัญมาใส่ไว้นั่นเอง หรือใช้ใน ตกแต่งต้นคริสต์มาส ก็ได้เช่นกัน
เดิมที่แล้วธรรมเนียมการนำของขวัญมาใส่ในถุงเท้านั้น เริ่มจากเรื่องเล่าของ นักบุญนิโคลัส (Saint Nicholas) ที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งที่มีฐานะยากจน นักบุญนิโคลัสจึงนำทองหย่อนลงไปในปล่องไฟ แต่ทองกลับตกลงไปในถุงเท้าที่แขวนไว้เหนือเตาผิงเพื่อตากให้แห้ง
หลังจากที่เรื่องราวของนักบุญนิโคลัสได้แพร่ออกไป ผู้คนก็เริ่มนำถุงเท้ามาแขวนไว้เหนือเตาผิง เผื่อรอได้รับของขวัญกันในวันคริสต์มาส และทำต่อ ๆ กันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ถุงเท้าคริสต์มาสจึงเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของการให้ และการรับนั่นเอง
Baubles and Apples
นอกจาก Candy cane ที่เป็นขนมแล้ว เดิมที่แอปเปิ้ลก็เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประดับต้นคริสต์มาส เนื่องจากความเชื่อที่ว่าต้นคริสต์มาสคือต้นไม้แห่งสวรรค์ และแอปเปิ้ลก็คือผลไม้แห่งสวรรค์ ในสวนเอเดน (Garden of Eden)
แต่ในภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ผู้คนเริ่มใช้ Baubles ในการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสแทนการใช้แอปเปิ้ล เนื่องจากมีสีสันสวยงามหลากสี ซึ่งแต่ละสีที่นำมาตกแต่งก็มีความหมายที่ดีอีกด้วย อาทิเช่น
สีแดง หมายถึง ไฟ, พระโลหิต และความโอบอ้อมอารี
สีเขียว เป็นสีของธรรมชาติ มีความหมายถึงความเป็นนิรันดร์
สีขาว เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์
สีทอง เป็นสัญลักษณ์ของความสว่าง และหมายถึง Star of Bethlehem อีกด้วย
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งของที่นำมาตกแต่งต้นคริสต์มาสเท่านั้น ยังมีสิ่งของอีกมากมายที่ผู้คนนำมาตกแต่งต้นคริสต์มาส และการตกแต่งต้นคริสต์มาสก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน
ท้ายที่สุดในสิ้นปีนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกับเทศกาลคริสต์มาส และวันปีใหม่ที่กำลังจะใกล้เข้ามานะครับ มีแผนเดินทางไปที่ไหนก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพกันทุกท่าน พระเจ้าอวยพร สุขสันต์วันคริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่จากพวกเรา Bareo 🙂
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
bible.com