เป็นเหมือนกันบ้างไหมคะ พอเข้าสู่ช่วงปลายปีทีไรจะรู้สึกมีความสุขมากเป็นพิเศษ อาจจะเพราะอากาศที่หนาวเย็นลง และเทศกาลสังสรรค์ต่างๆ ทั้งฮาโลวีน ลอยกระทง และวันคริสต์มาส เป็นต้น ความรื่นเริงและแสง สี เสียง นับเป็นโมเมนต์ที่ทำให้เรารู้สึกแฮปปี้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

เมื่อพูดถึงฤดูหนาว หลายคนก็จะคิดถึงหิมะสีขาว สะอาดตา และความเย็นสุดขั้วหัวใจ มีความสุขจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ และแต่บางคนก็อยากสัมผัสกับหิมะจริงๆ แม้บางคนอาจจะหาโอกาสเจอได้ยาก ซึ่งวันนี้บาริโอนำหิมะมาให้คุณได้สัมผัสถึงบ้าน แถมยังกินได้อีกด้วย

เมนูเหล่านี้ได้ไอเดียมาจาก “หิมะ” จะกินตอนอากาศร้อนก็ดี หรือกินท่ามกลางอากาศหนาวก็ฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง…

Maple Syrup Snow Candy

Credit : spoonuniversity .com

ใครว่าหิมะกินไม่ได้ คุณจะไม่พูดแบบนั้นถ้าคุณเคยลองเมนูนี้ “Maple Syrup Snow Candy” ขนมหวานที่ทำมาจากหิมะสดๆ ราดด้วยน้ำเชื่อมเมเปิ้ลหวานๆ อร่อยๆ สุดๆ ไปเลย

ลองนึกภาพหิมะที่ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ราดด้วยน้ำเชื่อมเมเปิ้ลสีน้ำตาลเข้ม เสียบด้วยไม้ ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับไอศกรีม แต่สิ่งนี้ชาวแคนาดา ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของขนมหวานชนิดนี้ เรียกว่า ทอฟฟี่ หรือ ลูกอมหิมะ ค่ะ

หากใครไปเที่ยวแคนาดา ในช่วงฤดูกาลที่หิมะตก คุณจะสามารถหาทาน Maple Syrup Snow Candy ได้ง่ายค่ะ เพราะเป็นเมนูของหวานยอดนิยม ซึ่งมีขายตามร้านค้าทั่วไป ตั้งแต่แนวสตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านอาหารติดดาวเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ Maple Syrup Snow Candy ชาวแคนาดาจึงได้บรรจุให้มีการแข่งขันทำ Maple Syrup Snow Candy เป็นกิจกรรมประจำปี ที่งานคาร์นิวัลกลางแจ้ง ซึ่งจะจัดขึ้นในฤดูหนาวของทุกปี

ด้วยความที่ Maple Syrup Snow Candy เป็นเมนูที่ทำง่าย แถมยังทานง่าย และอร่อยด้วย เนื้อสัมผัสของลูกอมหิมะจะคล้ายกับเนื้อคาราเมลอ่อนๆ มีความนุ่ม ละมุนลิ้น วิธีการทำก็คือ ต้องต้มเมเปิ้ลจนถึงอุณหภูมิที่กำหนด (ประมาณ 112 องศาเซลเซียส) จนกลายเป็น้ำเชื่อม จากนั้นทำให้น้ำเชื่อมข้นขึ้นเล็กน้อย และเย็นลงอย่างรวดเร็วด้วยการราดบนหิมะสดๆ เมื่อแข็งตัวเพียงพอแล้วก็สามารถหยิบขึ้นมารับประทานได้ โดยทั่วไปจะม้วนเป็นแท่งหรือใช้ช้อนส้อมตักแล้วรับประทานสด

เนื่องจาก Maple Syrup Snow Candy เป็นเมนูที่ต้องทำจากหิมะจริงๆ สดๆ บ้านเราอาจจะทำทานเอง หรือหาทานได้อยากหน่อย ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวแถบยุโรป โดยเฉพาะแคนนาดา ประเทศต้นกำเนิด ลองหามารับประทานได้นะคะ

Bingsoo

Credit : theculturetrip .com

ข้ามมาที่ประเทศฝั่งเอเชียบ้าง เมนู “บิงซู” (Bingsoo) ต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหลายๆ ประเทศและหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทยของเรานั่นเองค่ะ

บิงซูเป็นเมนูยอดนิยมมากในฤดูร้อนของเกาหลี เป็นเมนูที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์โซชอน ส่งต่อความอร่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรสชาติดั้งเดิมของบิงซู คือ บิงซูถั่วแดง ก่อนที่จะถูกปรุงแต่งตามยุคสมัย จนสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รสนม ช็อคโกแลต โยเกิร์ต พร้อมท็อปปิ้ง และส่วนผสมที่อาจรวมถึงค็อกเทลผลไม้, อินกอลมี, ผลไม้สด, เกล็ดซีเรียล, ไอศครีม เป็นต้น

จริงๆ แล้ว บิงซูเป็นเมนูของหวานที่ทำเลียนแบบ หิมะ โดยทำมาจากมาจากน้ำแข็งไสที่ผสมด้วยนม ซึ่งจะทำให้ตัวน้ำแข็งไสมีเนื้อสัมผัสและสีที่คล้ายคลึงกับหิมะ และมีความนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น จากนั้นจะราดด้วยน้ำเชื่อมรสชาติต่างๆ และตกแต่งให้สวยงามด้วยผลไม้ และท็อปปิ้งต่างๆ เมื่อกินแล้วจะรู้สึกเย็น ชื่นใจได้ทันที

บิงซูหาทานง่าย เพราะมีร้านบิงซูเปิดขายกันมากมาย ซึ่งร้านดังๆ จากเกาหลีก็มาเปิดขายที่ไทยกันเยอะ เช่น Holly Coffe, Seobinggo , Gangnam Bingsu เป็นต้น แต่ถ้าใครอยากทำด้วยตัวเอง ก็สามารถนำมาดัดแปลงตามวัตถุดิบที่มีก็สามารถทำได้ค่ะ หรือถ้าใครไม่อยากทำเองบิงซูก็มีแบบสำเร็จรูปขาย หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปค่ะ

น้ำแข็งไส

Credit : wikipedia

ประเทศไทยเราก็ไม่น้อยหน้า มีหิมะเป็นของเราเองเช่นกัน ก็คือ “น้ำแข็งไส” นั่นเอง แถมยังได้รับความนิยมมาเนิ่นนาน หลายยุคหลายสมัย ทั้งเด็กน้อย วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ต่างชื่นชอบ ยิ่งอากาศร้อนๆ ในบ้านเรา การได้กินน้ำแข็งไส เป็นอะไรสดชื่นสุดๆ

ในอดีตเสน่ห์ของน้ำแข็งไส คือ การที่ใช้น้ำแข็งก้อนใหญ่ มาไสในเครื่องไสน้ำแข็ง จนได้เกล็ดน้ำแข็งที่ร่วงหล่นลงมาในถ้วยให้อารมณ์คล้ายๆ กับหิมะกับกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า จากนั้นเมื่อได้ปริมาณเกล็ดน้ำแข็งแน่นๆ อัดกันเป็นกองสูงๆ ราดด้วยน้ำหวานและนมข้นหวาน พร้อมท็อปปิ้งที่ใส่ไว้ด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง เฉาก๊วย และลูกชิด อร่อยกลมกล่อม เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม นอกจากนี้น้ำแข็งไสยังสามารถนำไปทานพร้อมกับเมนูของหวานอื่นๆ เพื่อเพิ่มเติมความอร่อยให้มากขึ้นได้ด้วย เช่น ทับทิมกรอบ ลอดช่อง และซาหริ่ม เป็นต้น

สำหรับใครที่อยากทานน้ำแข็งไส ยังสามารถหากินได้ง่ายๆ เช่น ร้านรถเข็น แผงลอย ตามตลาดน้ำ ตลาดโบราณ และศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมไปถึงเยาวราชก็ยังมีร้านน้ำแข็งไสเจ้าเก่าให้ได้ชิมรสชาติกัน หรือใครขยันก็สามารถทำกินเองง่ายที่บ้านได้ค่ะ

Marshmallow Snowman

Credit : thespruceeats

เมนูนี้เป็นการหยิบเอาขนมที่มีความขาว นุ่ม ราวกับหิมะ มาตกแต่งเป็นของกินที่มีทั้งความอร่อยและความสวยงาม ซึ่งเป็นที่เกิดจาก DIY ที่มักเห็นบ่อยๆ ตามร้านเค้ก และคาเฟ่ร้านกาแฟ เป็นต้น โดยเฉพาะช่วงปลายปี และเทศกาลคริสต์มาสและเฉลิมฉลองปีใหม่นั่นเอง

เมนูแนะนำนี้ ก็คือ Marshmallow-snowman ซึ่งเป็นการนำเอา “มาร์ชเมลโล่” ขนมสีขาว มีความนุ่ม ยืด มา DIY ร่วมกับขนมอื่นๆ เช่น มินิช็อกโกแลตชิป เกรแฮมแครกเกอร์ ขนมปังแท่ง ฯลฯ ประกอบร่างกันจนกลายเป็น Snow Man หุ่นรูปปั้นหิมะอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของความหนาว

วัตถุดิบสำหรับทำ Marshmallow Snowman
1.มาร์ชเมลโลว์ขนาดใหญ่ 2-3 ชิ้น
2. เกรแฮมแครกเกอร์
3. มินิช็อกโกแลตชิป
4. ข้าวโพดหวาน
5.ไอซิ่ง
6.ขนมปังแท่ง
7.ไม้ประดิษฐ์ ไม้จิ้มฟัน

วิธีการทำ คือ
ขั้นตอนที่ 1 ใช้ไม้ประดิษฐ์เพื่อทาไอซิ่ง ทามาร์ชเมลโลว์หนึ่งชิ้นบนแครกเกอร์เกรแฮมและมาร์ชเมลโล่ชิ้นที่ 2 วางทับชิ้นแรก
ขั้นตอนที่ 2 ใช้ไม้จิ้มฟันเจาะมาร์ชเมลโล่อย่างระมัดระวังเพื่อสร้างรู จากนั้นเริ่มใส่อวัยวะต่างๆ ให้ตุ๊กตาหิมะ เช่น
-ใส่ข้าวโพดหวานสำหรับจมูกมนุษย์หิมะ
-ใส่ปลายแหลมของชิปช็อกโกแลตขนาดเล็กสำหรับดวงตามนุษย์หิมะ 2 ดวง
(ทำซ้ำสำหรับปุ่มบนมาร์ชเมลโลว์ด้านล่าง)
ขั้นตอนที่ 3 นำขนมปังแท่งมาหักครึ่งแล้วจิ้มลงไปในมาสเมลโล่ตกแต่งเป็นแขนทั้ง 2 ข้าง

เมนูนี้คุณอาจไม่ต้องเดินทางไปถึงประเทศต้นกำเนิด เพราะใครๆ ก็สามารถทำทานเองได้ อย่าลืมนำไปลองทำดูนะคะ

ความพิเศษของมาสเมลโล่ไม่ใช่เพียงแค่ขนมธรรมดา เพราะมันยังสามารถดัดแปลงเป็นเมนูอื่นๆ ได้อีกเพียบ เช่น มาสแมลโล่ย่าง ซึ่งนิยมอย่างมากในประเทศเกาหลี เมื่ออากาศหนาวๆ ได้กินมาสเมลโล่ย่างไฟร้อนๆ ก็ช่วยทำให้ร่างกายออกอุ่นได้ด้วย

Sugar Coated Taro

Credit : cookingwithlei

Sugar coated taro หรือเผือกหิมะ เมนูอาหารว่าง ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ชื่อนี้ได้มาเพราะเมนูนี้เป็นการนำเผือกหั่นแท่งมาทอดกรอบและเคลือบด้วยน้ำตาล จึงทำให้มีลักษณะคล้ายๆ กับว่ามีหิมะเกาะอยู่บนเผือกนั่นเอง

เผือกหิมะ หรือชื่อจีนว่า ฮวงซัวโอ่ว หนึ่งในขนมมงคลของชาวจีน รสชาติของเผือกเคลือบน้ำตาลจะมีความกรุบกรอบของน้ำตาลที่เยือกแข็งและเนื้อเผือกที่นุ่มตรงกลาง ใช้ส่วนผสมหลักเพียงสองอย่าง ทอดเผือกให้สุกพอดีและนำไปเคี่ยวกับน้ำเชื่อมให้น้ำตาลเคลือบเกาะเหมือนกับหิมะให้ทั่วทั้งชิ้น คุณก็สามารถทำเผือกแท่งเคลือบน้ำตาลแสนอร่อย กรุบกรอบนอกนุ่มใน เหมาะสำหรับอาหารว่างหรือน้ำชาได้แล้ว

นอกจากเผือกหิมะจะเป็นเมนูอาหารว่าง ที่สามารถทานได้อย่างเพลิดเพลินแล้ว ตัวน้ำตาลที่เคลือบอยู่บนเผือกเมื่อทานเข้าไปแล้ว ยังทำให้รู้สึกได้ถึงความเย็น และความผ่อนคลาย สบายใจ และสบายอารมณ์ทุกครั้งที่ได้ชิม

เมนูสามารถทำเองได้ง่ายๆ ค่ะ แต่ถ้าใคไม่อยากยุ่งยาก ก็สามารถหาทานได้ตามร้านของหวาน หรือร้านอาหารจีน เป็นต้น

Snow Pudding

Credit : yourhomebasedmom

พุดดิ้งหิมะ (Snow Pudding) เป็นของหวานในฤดูร้อนที่สมบูรณ์แบบ มันเบาฟูและเต็มไปด้วยความดีงามของรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีไขมันต่ำอีกด้วย

ความจริงแล้วพุดดิ้งหิมะไม่ได้ทำมาจากหิมะจริงๆ แต่เพราะมันมีคล้ายกับรูปลักษณ์ของหิมะ มีสีขาวสะอาด และมีเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์นุ่มดั่งหิมะ และรสชาติที่ละเอียดอ่อนอร่อยเหมือนคุกกี้เมอแรงค์ จึงเรียกกันว่า Snow Pudding ได้เสิร์ฟคู่กับวนิลาคัสตาร์ด ยิ่งเพิ่มความอร่อย รู้สึกเย็นชื่นใจทุกครั้งที่ได้ทาน เมนูนี้สามารถทานหลังอาหารได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ทั้งยังเพราะไขมันต่ำ เบาสบายท้องอีกด้วย

โดย Snow Pudding มีต้นกำเนิดในปี ค.ศ. 1800 และเป็นสูตรเก่าแก่ของผู้บุกเบิกชาวอเมริกัน ในเมืองไทยก็จะหาทานยากหน่อย แต่ก็สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารหรือภัตตาคารได้ หรือทำทานด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ก็ได้ ซึ่งวัตถุดิบและขั้นตอนจะค่อนข้างเยอะ หากใครไม่อยากยุ่งยาก แนะนำให้ซื้อมารับประทานดีกว่านะคะ

มีเมนูไหนที่เคยทานกันบ้างแล้วคะ? ยังไงถ้ามีโอกาสแฟนๆ บาริโอต้องไปลองให้ครบทุกเมนูนะคะ รับรองว่าแต่ละเมนูจะทำให้ฤดูหนาวของคุณเต็มไปด้วยความสุขแบบทวีคูณเลยค่ะ

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
cookingwithlei .com
yourhomebasedmom .com