“ถ้ำ” หนึ่งในความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา เป็นสถาปัตยกรรม รวมถึงประติมากรรมทางธรรมชาติที่สวยงาม เกิดขึ้นจากการทับถม กัดกร่อน และกัดเซาะของธารน้ำธรรมชาติ ทีกินเวลาการสร้างสรรค์ยาวนานนับหลายร้อย หลายพันปี

โดยทั่วไปแล้วถ้ำต่อละแห่ง จะมีความหลากหลายแตกต่างกันออกไปตามสภาพภูมิประเทศในแทบนั้น ๆ ถือเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกไปเพื่อสำรวจถ้ำนั้น ๆ ในบทความนี้จะพาผู้อ่านไปพบกับถ้ำต่าง ๆ ในแต่ละมุมโลก จะสวยงามขนาดไหนมาชมกันค่ะ

Cr. litfl

ถ้ำ Crystal Cave ตั้งอยู่ทางตอนเหลือในเมืองไนก้า ประเทศเม็กซิโก โดยสาเหตุที่เรียกถ้ำแห่งนี้ว่า Crystal Cave เนื่องจากทั้งตัวถ้ำประกอบไปด้วยผลึกคริสตัลและแร่มากมาย มีขนาดตั้งแต่เล็ก ๆ ไปจนขนาดใหญ่ที่มีความสูงเท่ากับตึก 3 ชั้นเลยทีเดียว โดยผลึกคริสตัสในถ้ำแห่งนีมีอายุกว่า 500,000 ปีเลยทีเดียว

Cr. cen.acs

จุดเด่นของถ้ำแห่งนี้ คือ ขนาดของถ้ำที่มีขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายโพรงรูปเกือกม้า พื้นของถ้ำเต็มไปด้วยผลึกแร่หลากหลายชนิด นอกจากนั้นยังมีแท่งคริสตัลขนาดใหญ่ยื่นออกมาจากพื้นและกำแพงของถ้ำ เหมือนงานสถาปัตยกรรมที่ถูกก่อสร้างโดยธรรมชาติก็ว่าได้ แต่ความสวยงามและแปลกตาของถ้ำแห่งนี้ กลับแอบแฝงไปด้วยความอันตรายด้วย เนื่องจากภายในถ้ำมีถ้ำมีอุณหภูมิสูงมาก ระดับเฉลี่ยคือ 50-58 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุปสรรคกับการหายใจ จึงไม่เหมาะกับการท่องเที่ยวทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่หากอยากไปเยี่ยมชมสักครั้ง แนะนำให้ติดต่อผู้เชียวชาญด้านการสำรวจถ้ำ จะปลอดภัยกว่านะคะ

Cr. tourismiceland

Kverkfjöll Glacier Cave ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Vatnajokull ในประเทศไอซ์แลนด์ เป็นถ้ำที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของธารน้ำแข็งจำนวนมากทำให้ลักษณะของถ้ำแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละช่วงของปี ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของถ้ำแห่งนี้เลยก็ว่าได้ โดยปากถ้ำมีความสูงประมาณ 22ฟุต และจะค่อย ๆ เล็กและแคบลงเมื่อเข้าไปในส่วนที่ลึกของตัวถ้ำ

Cr. bridgesandballoons

ถ้ำที่เกิดจากธารน้ำแข็งแห่งนี้เกิดจากการก่อตัวของหิมะที่ทับถมกันนานนับหลายศตวรรษจนกลายเป็นถ้ำธารน้ำแข็ง ซึ่ง Kverkfjöll Glacier Cave แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นถ้ำธารน้ำแข็งที่สวยและใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เพราะตัวถ้ำมีจุดเด่นที่สีฟ้าสดใสคลายกับคริสตัล โดยเฉพาะผนังและเพดานของถ้ำที่มีก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนเหมือนกับก้อนคริสตัลขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน ยิ่งเวลาที่กระทบกับแสงจะยิ่งระยิบระยับ จับตา ดูมหัศจรรย์และบรรยากาศน่าถ่ายรูปมากๆ

Cr. livesalerno

ท้องทะเลสีฟ้าครามเปล่งประกายภายในถ้ำ Blue Grotto Cave ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มุ่งตรงมาที่แถบทะเลบนชายฝั่งของเกาะที่คาปรี ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศอิตาลี ถ้ำแห่งนี้เกิดจากการกัดกร่อนและซัดเซาะของน้ำทะเล และลมทะเลมาอย่างยาวนานนับพันปี จนเกิดเป็นถ้ำที่มีความยาวกว่า 60 เมตร และกว้าง 25 เมตร โดยทางเข้ามีความกว้าง 2 เมตรและสูงประมาณ 1 เมตร

Cr. quiet-nymph.tumblr

ธรรมชาติสร้างถ้ำแห่งนี้ขึ้นมา พร้อมความมหัศจรรย์จากแสงสีฟ้า หรือสีเขียวมรกตของมวลน้ำทะเลที่มีแร่เหล็กอยู่ข้างใต้ เมื่อโดนแสงสาดส่องกระทบจึงเกิดการสะท้อนของแสง ทำให้น้ำทะเลที่มีสีฟ้าอยู่ แล้วยิ่งเปล่งประกายคล้ายกับการติดไฟใต้น้ำจนเกิดความงามดั่งภาพวาด การท่องเที่ยวในถ้ำแห่งนี้ต้องอิงตามเวลาน้ำขึ้นน้ำลงของเกาะคาปรี เนื่องจากปากถ้ำที่มีขนาดเล็กอาจทำให้ติดอยู่ภายในถ้ำได้หากน้ำขึ้นสูงปิดปากถ้ำ

Cr. wonderfulpackage

ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างเวียดนาม ก็ถือเป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่งดงามมากมายเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ถ้ำ Han Son Doong ซึ่งเป็นถ้ำที่สวยงาม อุดสมบูรณ์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย !! ถ้ำแห่งนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อปี 1991 โดยชายท้องถิ่นที่ชื่อว่า Ho Khanh แต่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปี 2009 ซึ่งเป็นการถูกค้นพบอีกครั้งโดยกลุ่มนักสำรวจ (นักเดินถ้ำ) ชาวอังกฤษ นำทีมโดย Howard Limbert

Cr. 500px

Han Son Doong ตั้งอยู่บนพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง อำเภอโบ๊จัก จังหวัดกว๋างบิ่ญ ในภาคกลางของประเทศเวียดนาม ตัวถ้ำเกิดจากการที่กระแสน้ำจากแม่น้ำไหลกัดเซาะชั้นหินปูนที่อยู่ใต้ภูเขา ก่อนที่จะพังทลายลงมา เกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ ซึ่ง Han Son Doong รายล้อมไปด้วยระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ นับเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ จนได้รับการบรรจุให้เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยสมาคม BCRA (British Cave Research Association) และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในถ้ำที่สวยที่สุดในโลกโดย BBC อีกด้วย

Cr. th.trip

เมืองไทยเองก็มีถ้ำที่มีสวยงามมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ถ้ำพระยานคร ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ และมีปล่องด้านบน ที่แสงสามารถส่องเข้ามาภายในถ้ำได้อย่างเหมาะเจาะ โดยบริเวณที่แสงสาดส่องลงมาที่ถ้ำนั้น มีการวางพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ เมื่อแสงตกกระทบลงมาเกิดเป็นภาพที่สวยงามเมื่อได้พบเห็น ซึ่งความสำคัญของพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ คือเป็นพระที่นั่งที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5

Cr. navithaiwonder.blogspot

พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ภายในถ้ำพระยานคร เป็นงานฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบที่ถ้ำพระยานคร โดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จ ทรงมายกช่อฟ้าของพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ด้วยพระองค์เอง นอกจากนี้ที่กำแพงหินด้านขวา มีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวจารึกไว้อีกด้วย

หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวธรรมชาติ การเที่ยวถ้ำก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้น และมีความสวยงามไปอีกแบบ แต่เที่ยวที่ไหนก็อย่าลืมเตรียมความพร้อมและระวังตัวกันด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของคุณนั่นเอง

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก

ขอบคุณข้อมูลจาก

theworldgeography
roadaffair
icelandtravel