Scandinavian Style Architecture สถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวีย
ประเทศทางตอนเหนือของยุโรป เช่น นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์และเดนมาร์ก หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย’ เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่หากมีเวลาควรไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง และยังเป็นต้นกำเนิดของตำนานนอร์ส (ชาวแอสการ์ดอย่างเทพโอดิน เทพธอร์ เทพโลกิ ฯลฯ) และตำนานเกี่ยวกับชาวไวกิ้งที่เรารู้จักกันดี แต่นอกจากเรื่องราวเหล่านี้แล้ว สแกนดิเนเวียก็ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมายค่ะ อย่างที่เราจะยกมาพูดถึงในวันนี้ก็คือเรื่องของ สถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวีย
ก่อนหน้านี้ใน New Project เดือนธันวาคมที่ผ่านมา Stardustries : Scandinavian Office เราได้พูดถึงงานออกแบบและตกแต่งภายในสไตล์สแกนดิเนเวียไปแล้ว และในบทความนี้เราจะเอาหัวใจหลักของงานสถาปัตยกรรมแบบสแกนดิเนเวียมาให้ทุกท่านได้ชมกันค่ะ
1 : การใช้วัสดุธรรมชาติ
เพราะการใช้วัสดุธรรมชาติทำให้รู้สึกได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น… ‘Community Church Knarvik’ ในประเทศนอร์เวย์ เป็นโบสถ์คริสต์ดีไซน์หวือหวาที่ใช้ไม้ธรรมชาติมาเป็นวัสดุหลักของตัวอาคาร
Cr : http://www.reiulframstadarchitects.com
งานดีไซน์ของ Community Church Knarvik เรียกได้ว่าเป็นงานออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการเล่นกับรูปร่างของอาคารให้เป็นทรงสามเหลี่ยมแหลมสูงขึ้นมาเพื่อเป็นจุดนำสายตา และที่ยอดบนสุดก็ประดับด้วยไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ ตัวอาคารใช้วัสดุเป็นไม้ธรรมชาติสีอ่อน ทำให้เกิดบรรยากาศผ่อนคลายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ด้านข้างของตัวอาคารเป็นช่องเปิดทรงสูงเรียงรายกันเพื่อรับแสงจากภายนอกเข้ามาในตัวอาคาร
สถานที่แห่งนี้นอกจากจะเป็นโบสถ์แล้ว ยังเป็นศูนย์รวมตัวเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ อาทิการจัดแสดงงานศิลปะ งานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม ไปจนถึงแสดงดนตรีของคนในเมือง Knarvik ออกแบบโดย Reiulf Ramstad Arkitekter บริษัทสถาปนิกชาวสแกนดิเนเวีย
2 : ให้บรรยากาศอบอุ่น น่าอยู่อาศัย
นอกจากประเทศในแถบยุโรปเหนือแล้ว สถาปัตยกรรมแบบสแกนดิเนเวียยังเป็นที่นิยมในอีกหลายประเทศทั่วโลกด้วยสไตล์ที่เหมาะกับการเป็นบ้านพักตากอากาศ
‘Villa Boréale’ ในคิวเบค ประเทศแคนาดาแห่งนี้ ออกแบบโดย CARGO Architecture เป็นบ้านพักตากอากาศที่มีไว้ให้เช่าสำหรับคนที่มาเล่นสกีที่ Charleviox
Cr : http://www.villaboreale.com
บ้านพักตากอากาศสี่ห้องนอน สามห้องน้ำ แถมด้วยอ่างจากุซซี่กลางแจ้งท่ามกลางป่าธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นจุดขายที่ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาพักอาศัย อาคารภายนอกเน้นการใช้ไม้ธรรมชาติเป็นวัสดุหลัก ตัดด้วยไม้ย้อมสีเข้มทำให้ตัวบ้านดูเด่นขึ้นมา ทั้งสองสีนี้จะช่วยเน้นให้ตัวบ้านโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางสีเขียวชะอุ่มของต้นไม้ในหน้าร้อน และดูอบอุ่นท่ามกลางสีขาวเย็นของหิมะในหน้าหนาวนั่นเอง
3 : นิยมใช้สีโทนอ่อน
Maison Glissade บ้านพักตากอากาศส่วนตัวอีกหลังหนึ่งใน Ontario ออกแบบโดย Atelier Kastelic Buffey Inc. เองก็เน้นการออกแบบและตกแต่งแบบสแกนดิเนเวียเช่นกัน
Cr : http://www.akb.ca
สีโทนอ่อนในที่นี้นอกจากไม่ธรรมชาติแล้ว ยังรวมไปถึงสีหลักที่เลือกใช้ในการตกแต่งภายใน โดยมากบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียจะเน้นการใช้สีขาวเป็นหลักเพราะทำให้บรรยากาศดูสว่างขึ้นจากแสงแดดอึมครึมข้างนอกในฤดูหนาว การใช้สีสว่างจะช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายและน่าอยู่อาศัย และเพื่อคุมไม่ให้ทุกอย่างสว่างโร่จนเกินไป จึงนิยมใช้สีดำหรือไม้ย้อมสีเข้มมาเป็นสีตัดเพื่อทำให้ตัวบ้านมีชีวิตชีวามากขึ้น
4 : หลังคาจั่วแบบไม่มีโครงพื้นหลังคาภายใน
บ้านหลังคาจั่วทั่วไปจะมีพื้นหลังคาภายในเพื่อใช้พื้นที่เป็นห้องใต้หลังคา แต่สำหรับสถาปัตยกรรมสไตล์สแกนดิเนเวียนั้นจะเน้นงานออกแบบที่ไม่มีพื้นโครงหลังคาภายในเพื่อทำให้พื้นที่สูงและกว้างมากขึ้น และนอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านอีกด้วย
ไม่ว่าตัวอาคารจะเป็นแนวยาวหรือขึ้นไปสูงแค่ไหน บ้านสไตล์สแกนดิเนเวียก็จะคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ข้อนี้ The House of Markétka ในสาธารณะรัฐเช็กที่ออกแบบโดย Mjölk Architects ถือเป็นตัวอย่างที่ดีแห่งหนึ่งเลยค่ะ
Cr : https://www.gessato.com
จุดเด่นของบ้านพักอาศัยสองชั้นหลังนี้หลังนี้คือห้องนั่งเล่นที่มีเพดานสูงถึง 9 เมตรและไม่มีพื้นโครงหลังคา คอยต้อนรับแขกที่เข้ามาในบ้าน แต่เพื่อไม่ให้ฝ้าเพดานที่สูงดูโล่งจนเกินไปจึงใส่คานไม้เข้าไปเป็นลูกเล่นเพื่อให้เกิดสีที่ตัดกัน ทำให้น่าสนใจขึ้นมากค่ะ
5 : เน้นช่องเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอก
และสุดท้ายนี้ การเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาในอาคารนอกจากจะช่วยให้ตัวบ้านสว่างน่าอยู่แล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วยค่ะ ยิ่งบ้านไหนตั้งอยู่โดยหันหน้ารับแสงอาทิตย์จะมีช่องเปิดมากเป็นพิเศษเพื่อรับแสงและอุณหภูมิอุ่นๆ เข้ามาในตัวอาคาร (ต่างจากบ้านเราที่ตั้งกำแพงหนีแดดเต็มที่กันเลยนะคะ…)
Gardinia Terrace ในประเทศอังกฤษ เป็นบ้านพักอาศัยอีกหลังหนึ่งที่เจ้าของบ้านชื่นชอบสไตล์สแกนดิเนเวียมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงขอให้บริษัทสถาปนิก David Blaikie Architects ช่วยออกแบบบ้านที่สามารถรับแสงอาทิตย์ตอนเช้าได้อย่างเต็มที่
Cr : https://www.davidblaikiearchitects.com
ด้านหนึ่งของบ้านกลายเป็นช่องเปิดกระจกใสทั้งหมดเพื่อรับแสงในยามเช้าตามโจทย์ที่ได้รับมา และเวลาสายกว่านั้นเงาของตัวบ้านจะช่วยลดแสงที่เข้ามาให้ไม่ร้อนมากจนเกินไป นอกจากจะรับแสงอาทิตย์จากภายนอกแล้วยังอวดบ้านสวยอย่างเต็มที่
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับงานสถาปัตยกรรมสไตล์สแกนดิเนเวีย หากยังไม่จุใจกันสามารถเข้าไปดูผลงานออกแบบตกแต่งภายในของเราได้ที่ Stardustries : Scandinavian Office และหากใครมีงานสถาปัตยกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจสามารถเข้ามาเสนอกันได้ที่เพจ Design By Bareo นะคะ
แล้วพบกันใหม่ สวัสดีค่ะ : )