1.  City Museum (สหรัฐอเมริกา)

 

cr. Patrick Giblin

 

      City Museum พิพิธภัณฑ์ประจำเมืองเซนต์หลุยส์ในรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นำวัสดุจำพวกเหล็กเหลือใช้จากการสร้างอาคารและงานอุตสาหกรรม มาประกอบเป็นสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ในรูปแบบสวนสนุก Jungle Gym ใจกลางเมืองที่สูงกว่า 600,000 ตารางฟุต ซึ่งผู้เล่นจะได้รับความสนุกสนานและตื่นเต้นราวกับกำลังเล่นเครื่องเล่นของโรงละครสัตว์ โดยที่ฐานต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์นี้จะสร้างจากการดัดโครงเหล็กให้เป็นทางเดินยาวและอุโมงค์น้อยใหญ่สลับกัน สำหรับให้ผู้เล่นปีนป่ายไปกลางอากาศสู่พื้นที่ในแต่ละชั้น และเพิ่มไฮไลท์เล็กๆ ด้วยการนำเครื่องบินขนาดย่อมมาตั้งไว้เพื่อดึงดูดสายตา ส่วนอาคารพิพิธภัณฑ์ทางด้านหลังยังมีการจัดนิทรรศการศิลปะ และนำเครื่องเล่นอย่างชิงช้าสวรรค์มาตั้งไว้บนชั้นดาดฟ้า นอกจากนี้ยังมีสไลเดอร์ที่เชื่อมทะลุเข้าไปในตัวอาคารได้อีก ทำให้กลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งผู้ใหญ่และเด็ก จำนวนผู้เยี่ยมชม City Museum จึงมีมากถึง 300,000 คน ในแต่ละปี เรียกได้ว่าเป็นอาคารที่ดัดแปลงมาให้เพื่อสร้างความสนุกสนานได้ในทุกส่วนจริงๆ

 

cr. Patrick Giblin , Cape Central High

 

      2. London’s South Bank (สหราชอาณาจักร)

 

cr. dezeen.com

 

      ใครจะคิดว่าอาคารรูปทรงประหลาดที่มีสไลเดอร์ยักษ์ตั้งคู่กันอยู่ด้านหน้านี้ จะเป็นที่ตั้งของธนาคารในเมืองลอนดอน เพราะอาคารนี้ถูกเปลี่ยนจากตึกเก่าสีหม่นธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นขนาดมหึมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในนิทรรศการของ Carsten Höller ศิลปินชาวเยอรมันที่ได้ชื่อว่าเป็นวิลลี่ วองก้า แห่งศิลปะร่วมสมัย ตัวละครผู้สร้างสรรค์โรงงานสุดยิ่งใหญ่จากภาพยนตร์เรื่องชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต เพราะผลงานประดิษฐ์ของเขานั้นน่าประทับใจเกินกว่าใครจะคาดคิด

      ภายในอาคารธนาคาร จะจัดแสดงผลงานต่างๆ ของ Höller โดยมีความพิเศษตรงที่ประตูทางเข้าของนิทรรศการจะถูกแยกเป็นสองฝั่ง ผลงานที่จัดแสดงเองก็แตกต่างกัน คุณจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าอีกฝากหนึ่งเป็นอย่างไร จนกว่าจะลงมาจากสไลเดอร์ยักษ์ที่มีรูปทรงเหมือนท่ออากาศ ซึ่งเชื่อมต่อกับดาดฟ้าลงไปด้านล่างแล้วกลับขึ้นมาที่แกลอรี่อีกครั้ง เป็นการชมนิทรรศการในแนวที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร แถมยังได้ความสนุกสนานจากการเล่นสไลเดอร์ยักษ์อีกด้วย

 

cr. dezeen.com

 

     3. BUS (เกาหลีใต้)

 

cr. dezeen.com

 

      การนั่งชะเง้อรอรถเมล์จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป หากคุณมีกิจกรรมให้ทำฆ่าเวลาระหว่างคอย เพื่อเปลี่ยนให้พื้นที่หนาแน่นในเขตชุมชนเมือง มีบริเวณสนามกีฬาที่เป็นสาธารณะมากขึ้น ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้จึงถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสนามฟุตบอล สนามเทนนิส และลานบาสเก็ตบอลไปในตัว

      โครงสร้างของป้ายรถเมล์ที่ทำขึ้นจากโครงเหล็กเบาประกอบกับแผงไม้พับที่สามารถเปิดปิดได้ การแบ่งพื้นที่เพื่อใช้เป็นสนามกีฬาในแต่ละส่วนจึงทำได้อย่างลงตัว มีแป้นสำหรับชู้ตบาสอยู่ที่มุมหนึ่ง อีกด้านตีเส้นและสร้างเป็นสนามฟุตบอลขนาดย่อม แถมยังมีพื้นที่เหลือด้านในใช้เป็นห้องทำงานขนาดเล็กได้อีก กลายเป็นป้ายรถเมล์เอนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องประโยชน์และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการออกกำลังกายให้กับผู้ที่ไม่มีเวลาไปถึงสนามกีฬา แต่ก็สามารถออกกำลังเล่นๆ ระหว่างรอรถเมล์ไปด้วยได้เลย แต่ระวังอย่าเล่นเพลินจนลืมขึ้นรถเมล์แล้วกันค่ะ

 

cr. dezeen.com

 

      4. Mirror House (เดนมาร์ก)

 

cr. dezeen.com

 

      ผนังอาคารที่ดูเหมือนกระจกบานใหญ่ติดอยู่กับประตูทางเข้าและกำแพงห้องน้ำในสนามเด็กเล่น กลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเด็กๆ ที่คอยแวะไปทักทายกับเงาของตนเองอยู่เสมอ

      MLRP บริษัทสถาปนิกในเดนมาร์ก ตั้งใจจะเปลี่ยนกำแพงของสนามเด็กเล่นที่มักจะเป็นลายกราฟิกตี้แบบเดิมให้มีความน่าดึงดูดตามากยิ่งขึ้น จึงติดเหล็กขัดเงา (Polished Steel) เข้ากับอาคารไม้เนื้อแข็ง สะท้อนภาพของสนามเด็กเล่นและต้นไม้ที่ล้อมรอบอยู่ให้กลายเป็นวอลเปเปอร์ตามธรรมชาติในตัว และเมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำ ประตูกระจกแบบเว้าและนูนจะถูกสลับออกมาอยู่ด้านนอก แสดงให้รู้ว่าห้องน้ำกำลังถูกใช้งานอยู่ การที่ใช้เหล็กขัดเงาแทนผนังกระจกแบบทั่วไป ทำให้มุมมองจากกระจกดูผิดเพี้ยนจากจริง ผนังสะท้อนเงาจึงกลายเป็นที่สนุกสนานของเด็กๆ ที่เดินผ่านไปมาดูภาพสะท้อนของตัวเองที่เปลี่ยนไปแบบละอย่าง เป็นการปรับปรุงอาคารอย่างสร้างสรรค์และเข้ากับบรรยากาศของสนามเด็กเล่นได้อย่างดี

 

cr. dezeen.com

 

      5. Woodland Playground (ออสเตรเลีย)

 

cr. inhabitat.com

 

      พื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแคนเบอร์รา (National Arboretum Canberra) ประเทศออสเตรเลีย ถูกพัฒนาจากทุ่งหญ้าว่างเปล่าให้เป็นสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ ใกล้เคียงกับบริเวณป่าที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากและใกล้สูญพันธ์ุจากทั่วโลก

 

 

     อาคารแห่งนี้มีรูปทรงเหมือนกับลำต้นของต้นโอ๊คที่มีผลขนาดใหญ่ยักษ์อยู่ด้านบนคล้ายกับรังนก สร้างขึ้นจากไม้ที่พบได้ในท้องถิ่น ด้วยรูปร่างและวัสดุที่ใช้จึงมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเข้ากับสภาพโดยรอบของบริเวณนั้นได้อย่างกลมกลืน ภายในอาคารยังมีพื้นที่สำหรับให้เล่นสนุกและออกกำลัง ทั้งการปีนตะข่ายข้ามไปมาระหว่างรัง อุโมงค์เชือก ห้องไต่เขา ไปจนถึงสไลเดอร์คดเคี้ยว ตกแต่งกำแพงด้านในด้วยลวดลายที่ชวนสดใสแต่มีความผ่อนคลายอย่างผืนป่าและก้อนเมฆ สนามเด็กเล่นในอุทยานแห่งนี้จึงกลายเป็นพื้นที่รื่นรมย์สำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่รักความสนุกสนาน ในขณะเดียวกันก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

 

cr. inhabitat.com

 

      6. Woods of Net (ญี่ปุ่น)

 

cr. Katsuhisa Kida / FOTOTECA

 

      ศาลาไม้ขนาดใหญ่กลางผืนหญ้าสีเขียว ตั้งอยู่ในเขตพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ จ.ฮาโกเน่ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยผลงานการร่วมมือของบริษัทวิศวกรโครงสร้าง TIS & PARTNERS กับ Toshiko Horiuchi (Toshiko Horiuchi Macadam) ศิลปินชาวญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญในการประดิษฐ์สิ่งทอให้กลายเป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อสร้างสนามเด็กเล่นโครเชต์ที่เกิดจากการถักด้วยมือทั้งหมด ให้เชื่อมกันจนกลายเป็นผ้าผืนยักษ์แล้วแขวนขึ้นบนเพดานในลักษณะตาข่าย ที่สามารถให้เด็กน้อยขึ้นไปปีนป่ายเล่นข้างในได้

 

cr. theiff.org

 

      โครงสร้างของศาลาเป็นการนำไม้ท่อนมาต่อกันทั้งหมด 589 ชิ้น โดยได้แรงบันดาลใจและเทคนิคในการสร้างมาจากวัดไม้เก่าแก่ของญี่ปุ่นในเมืองเกียวโตและนารา ซึ่งมีมานานกว่า 1,000 ปี ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ ที่ Horiuchi อยากให้รู้สึกว่าเหมือนเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับตั้งแคมป์ ที่ปล่อยให้เด็กๆ เล่นเพลินอยู่ด้านใน ซึ่งในที่นี้หมายถึงด้านบนของตาข่าย ในขณะที่ผู้ใหญ่นั่งล้อมอยู่ด้านนอกและพูดคุยกันระหว่างรอ คล้ายกับการไปแคมป์ไฟ

 

cr. lvshedesign.com

 

      ทั้งสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในของแต่ละสถานที่ แค่มองแล้วก็รู้สึกได้ถึงความสนุกสนานทะลุออกมาจากภาพเลยใช่ไหมคะ น่าทึ่งมากเลยที่สามารถออกแบบให้มีเอกลักษณ์แถมยังมากประโยชน์ได้ขนาดนี้ ถ้าสถานที่ไหนมีสถาปัตยกรรมสวยๆ และการออกแบบภายในที่น่าสนใจอีก รับรองได้เลยว่าบาริโอไม่พลาดที่จะนำมาให้ทุกคนได้ชมกันอย่างแน่นอนค่ะ 🙂