ในศตวรรษที่ 21 มีตึกสูงที่ทั้งสวย แปลกตา และยังทันสมัยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเป็นเพราะเมื่อเวลาผ่านไป ศิลปะก็ย่อมพัฒนาและเปลี่ยนแปลงให้มีความสอดคล้องกับยุคสมัย ความโมเดิร์นจึงเพิ่มตามมา แถมพ่วงมาด้วยฟังก์ชั่นสุดล้ำและการใช้งานที่ครบครัน สะดวกสบาย จนบางที่ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คทางด้านสถาปัตยกรรมที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต และบทความนี้เราได้รวบรวมสิ่งก่อสร้างที่มากความสวย ทรงคุณค่า มาให้คุณได้ชมกันค่ะ
cr. dezeen.com
1. The Eye of Binhai (ประเทศจีน)
งานสถาปัตยกรรมในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่นั้นมีการพัฒนาและก้าวหน้าอยู่ตลอด เราจึงได้พบกับการสร้างตึกรูปทรงแปลกๆ และแตกต่างจากที่อื่นๆ มาให้ผู้ชมได้ฮือฮากันเป็นประจำอย่างมากมาย และล่าสุด ห้องสมุดที่บรรจุหนังสือได้เยอะที่สุดในโลกเพิ่งถูกเปิดตัวขึ้น โดยได้ชื่อว่าห้องสมุด The Eye of Binhai ตั้งอยู่ในย่านปินไห่ เทศบาลนครเทียนจิน
The Eye of Binhai หรือหลาย ๆ คนเรียกสั้น ๆ ว่า The Eye เป็นห้องสมุดที่เต็มไปด้วยความทันสมัย และการออกแบบตกแต่งที่สวยงาม ฝีมือนักออกแบบจาก MVRDV ประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับทีมนักออกแบบ Tianjin Urban Planning and Design Institute จากเทศบาลนครเทียนจิน โดยใช้เวลาก่อสร้างและตกแต่งนานถึง 3 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ห้องสมุดมีทั้งหมด 5 ชั้น ภายในสามารถบรรจุหนังสือได้กว่า 1.2 ล้านเล่ม จุดเด่นของห้องสมุดแห่งนี้คือการใช้เทคนิคตกแต่งบนเพดาน ให้เป็นภาพหนังสือที่จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้ดูว่าที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหนังสือนั่นเอง แต่หนังสือส่วนใหญ่จะมีแค่หน้าปกที่ถูกพิมพ์มาเพื่อใช้ตกแต่งห้องสมุด ส่วนตัวเล่มฉบับจริงจะถูกเก็บไว้ในห้องเก็บหนังสือภายในอาคาร
cr. dezeen.com
นอกจากนี้ภายในอาคารยังมีห้องนั่งเล่น คอมพิวเตอร์ และห้องสำหรับการจัดประชุม เฉลี่ยรวมพื้นที่มีมากกว่า 34,000 ตารางเมตร สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของห้องสมุด The Eye of Binhai คือการออกแบบทรงกลมขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งทำหน้าที่เป็นหอประชุม ที่มีความจุได้ 110 คน มีลักษณะเหมือนม่านตา จึงเป็นที่มาของชื่อไม่เป็นทางการ The Eye นั่นเองค่
Cr. architecturalmoleskine.blogspot.com
2. พิพิธภัณฑ์คานาซาว่า (ประเทศญี่ปุ่น)
พิพิธภัณฑ์คานาซาว่า กลายเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นหลังจากที่เปิดตัวได้ไม่นาน ตัวพิพิธภัณฑ์ได้รับการออกแบบตกแต่งที่ล้ำสมัยโดยองค์กรสถาปัตยกรรมชื่อดังอย่าง SANAA ซึ่งมีผลงานในระดับโลกอย่างตึกดิออร์ ในย่านโอโมเตะซันโดะ แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองโตเกียว และพิพิธภัณฑ์ศิลปะลูฟร์-เลนส์ในประเทศฝรั่งเศส
Cr. blog.thechefcharette.com , galinsky.com
รูปแบบของพิพิธภัณฑ์คานาซาว่า มีลักษณะเป็นอาคารรูปทรงกลมแบบแบน ที่รายล้อมด้วยกระจกรอบๆ อาคาร แบบ 360 องศา และมีเพียงทางเข้า-ออกเดียว นิทรรศการที่อยู่ทั้งด้านนอกและด้านในเองก็จะถูกครอบไว้ด้วยกระจกใส ที่สามารถมองทะลุเห็นผ่านทางเดินที่หักมุมเลี้ยวไปมาด้านในได้ โดยจะจัดแสดงผลงานที่เป็นศิลปะร่วมสมัย ในพื้นที่โล่งสำหรับให้ผู้ชมเดินชมผลงานต่างๆ ไปตามทางได้อย่างสะดวก การใช้กระจกเป็นจุดเด่นช่วยดึงความน่าสนใจของผลงานศิลปะ และทำให้พิพิธภัณฑ์มีความสวยงามแปลกตา เข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
Cr. inexhibit.com
3. Phaeno Science Centre (ประเทศเยอรมัน)
จากฝีมือของสถาปนิกหญิงชื่อก้องโลกอย่าง ZAHA HADID ผู้มีผลงานการออกแบบมากมายทั่วทุกมุมโลก อาคารวิทยาศาสตร์ Phaeno Science Centre ในประเทศเยอรมัน ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของเธอ จากการออกแบบแนว Parametric Design ที่เน้นไปที่ความลื่นไหลของรูปทรง ทำให้อาคารแห่งนี้มีจุดเด่นตรงที่ไม่ได้ใช้เสา มีเพียงโคนคอนกรีตเปลือยปลายตัด รองรับจากพื้นจนกลายเป็นผนังสูงขึ้นสู่หลังคาแบบเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้รูปทรงดูล้ำสมัยด้วยนวัตกรรมแบบใหม่
นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของอาคารนี้ก็คือ รูปทรงที่ใหญ่โตและมั่นคงเหมือนกับก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ลำพัง ที่เมื่อสังเกตให้ดีแล้วจะกลายเป็นก้อนคอนกรีตยักษ์เปลือยทั้งหลังที่ดูเหมือนลอยได้จากด้านล่าง นับว่าเป็นการออกแบบที่ละเอียด ประณีตและสวยงามไร้ที่ติจริง ๆ ค่ะ
Pinterest.com
4. Galaxy Soho ปักกิ่ง (ประเทศจีน)
อีกหนึ่งผลงานของสถาปนิกสาวมากฝีมือ ZAHA HADID อาคาร Galaxy Soho ที่ตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง ประเทศจีนแห่งนี้ เป็นตึกดีไซน์รูปทรงแปลกตา ที่อยู่ท่ามกลางเขตอนุรักษ์เมืองเก่า และได้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่ง ด้วยความล้ำสมัยของตัวตึกที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางห้วงอวกาศ ซึ่ง ZAHA HADID ได้ใช้ความโค้งมนตามแนวที่เธอถนัด เชื่อมโยงแต่ละอาคารเข้าด้วยกันด้วยความสมูธของโครงสร้างที่ไร้รอยต่อ สวยทุกมุมมอง
Galaxy Soho เป็นทั้งศูนย์การค้าและสำนักงาน มีขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 328,204 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 50,000 ตารางเมตร ดีไซน์ของอาคารกลม ๆ เตี้ย ๆ ทั้ง 4 หลังคล้ายโดม ถูกดีไซน์ให้เดินถึงกันได้หมด โดยมีส่วนพื้นที่ทางเดินที่เชื่อมเข้าหากันด้วยสะพานลอย ที่ดูดีมีเส้นสายที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับอาคารแต่ละหลังได้อย่างลงตัว ด้วยโครงสร้างที่ดูเคลื่อนไหวระหว่างอาคารแต่ละหลังทำให้มีทางเดินและพื้นที่ค่อนข้างมาก เหมาะกับการเดินช็อปปิ้งทั้งภายนอกและภายในอาคาร
cr. idaaf.com
cr. manager.co.th
5. ตึกดอกบัว (ประเทศจีน)
อย่างที่บอกไปว่าจีนแผ่นดินใหญ่มีสถาปัตยกรรมสวย ๆ แปลก ๆ ให้เราได้ชมกันเยอะ จนเลือกไม่หวาดไม่ไหวเพราะน่าสนใจไปเสียทั้งหมด และหนึ่งในนั้นก็คือตึกดอกบัว หรือ “อาคารวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวนานาชาติหยุนติ่งฮุ่ย” ที่ตั้งอยู่ในเมืองอู่จิน ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบอาคารทรงกระบอก และโครงเหล็กปูกระเบื้องที่ทำเลียนแบบกลีบดอกบัวแดงประกบล้อมรอบ ประกอบด้วยแผ่นปิดที่ทำมาจากเหล็กจำนวน 10 ชิ้น โดยกลีบดอกบัวสามารถเปิด-ปิดประมาณเองได้ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 9 นาที 45 วินาที ส่วนหลังคาเป็นโดมแก้วที่แสงแดดสามารถสาดส่องลอดลงไปยังพื้นล่างได้ สามารถทำความสะอาดได้ตัวเอง ทนต่ออุณหภูมิสูงต่ำได้เป็นอย่างดี
ภายตัวอาคารติดตั้งไฟ LED ที่มีความสว่าง 110,000 Mcd จำนวน 2,000 หลอด และตั้งค่าให้มีการล็อคหลังคาอัตโนมัติ เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นเกินกว่าค่าที่กำหนดไว้ ตึกดอกบัวหลังนี้มีขนาดพื้นที่ราว 5,000 ตารางเมตร สามารถรองรับคนได้ถึง 3,800 คน เป็นศูนย์รวมของที่พัก อาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
arch2o.com
6. Incheon Tri-bowl (ประเทศเกาหลีใต้)
อาคาร Incheon Tri-bowl ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบดีไซน์ด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัยราวกับหลุดมาจากห้วงอวกาศ โดยฝีมือออกแบบของบริษัท Kohn Pedersen Fox Associates (KPF) ซึ่งมีแนวความคิดการออกแบบอาคารมาจากการผสมผสาน ดิน น้ำ และฟ้า รวมออกมาจนได้เป็นอาคารที่มองจากด้านบนแบบ Bird eye’s view จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายคลื่นน้ำ อาคารนี้จะแบ่งการใช้สอยเป็นโรงหนัง โรงละคร ส่วนแสดงนิทรรศการ และสถานที่ให้ผู้คนมาพบปะพูดคุยกันเหมือนสวนสาธารณะทั่วไป เพราะที่อยู่ติดกับ Central Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
Cr. koreatimes.co.kr
Cr. static.panoramio.com
7. จัตุรัส Metropol Parasol (ประเทศสเปน)
จตุรัส Metropol Parasol ในประเทศสเปน ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความแปลกใหม่ เนื่องจากรูปแบบโครงสร้างเป็นไม้ที่ถูกประกอบขึ้นด้วยกาว จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “สถาปัตยกรรมโครงสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
อาคารไม้หลังนี้ออกแบบโดยบริษัท J. MAYER H. architects โดยนำเสนอโครงสร้างไม้แบบรังผึ้งในดีไซน์ร่วมสมัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นร่มเงาและเกิดเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับใช้ประโยชน์ได้สารพัด จัตุรัส Metropol Parasol เป็นอาคารที่มีลักษณะโครงสร้างไม้ซ้อนกันเป็นตาราง สามารถช่วยป้องกันแดดได้ โดยตึกนี้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 26 เมตร โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากทรงเห็ดยักษ์ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงกับจัตุรัสยังมีอาคารที่เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดี ตลาดทางการเกษตร บาร์ ภัตตาคาร และร้านรวงต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ต อีกทั้งด้านบนยังมีทางเดินให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นชมทิวทัศน์ของเมืองได้อีกด้วย
Cr. theredlist.com
8. California Academy of Sciences (ประเทศสหรัฐอเมริกา)
อาคาร California academy of sciences ประเทศสหรัฐอเมริกา หรืออาคารสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งแคลิฟอร์เนีย ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เขียวแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากลักษณะการออกแบบเน้นโครงสร้างของความเป็นธรรมชาติผสานกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิตของคน ทั้งยังมีความพิเศษในส่วนของการจัดสรรพื้นที่การใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านขนาดและการจัดวางผังภายในอาคาร โดยเฉพาะบริเวณหลังคาที่ได้ออกแบบให้เสมือนกับว่าเป็นหลังคามีชีวิต จากการเพาะปลูกพืชพรรณท้องถิ่นในแคลิฟอร์เนีย บนเนินสามเนินที่ดีไซน์ให้ล้อไปกับการจัดแสดงงานภายในอาคารของสถาบัน
Cr. Daily Calendar