book

      แน่นอนว่าการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็มักจะมีหนทางต่างกันไป แต่ถ้ามีวิธีที่จะช่วยสนับสนุนให้การใช้ชีวิตนั้นสะดวกมากขึ้น หลายๆคนก็คงจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน

      หนึ่งในวิธีที่จะทำให้ชีวิตดูง่ายขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่อาจจะนึกไม่ถึงเลยก็คือการเขียน เขียนบันทึก เขียนแพลน หรือเขียนเตือนความจำ ทั้งในแง่ของการจับปากกาเขียนอะไรซักอย่างลงไปในกระดาษ และในแง่ของการรวบรวมข้อมูลในหัวแล้วเขียนออกมาเป็นเรื่องราวสั้นๆบทความวันนี้จึงขอนำเสนอหลากหลายไอเดียการทำแพลนเนอร์และ Journal Book ที่จะช่วยให้ใช้ชีวิตอย่างมีแบบแผนมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนค่ะ

 

 

      Journalเป็นไดอารี่ประเภทหนึ่งที่ใช้บันทึกเหตุการณ์เช่นเดียวกับไดอารี่ได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมประจำวัน นอกจากนี้ยังมีJournal หลายประเภทที่หลายๆท่านอาจจะบันทึกเก็บไว้ เช่น Journalการเดินทางเพื่อบันทึกเรื่องราวการเดินทางของคุณไปทั่วประเทศทั่วโลก หรือ Journalออกกำลังกายที่ช่วยติดตามประเภทของการออกกำลังกายที่คุณทำและสนใจ รวมไปถึงเรื่องราวง่ายๆเช่น สภาพจิตใจของแต่ละวัน รายชื่อภาพยนตร์หรือการแสดงที่ดูในปีนี้ เป็นต้น

      ซึ่งการเขียน Journalbook ก็เปรียบกับการบันทึกที่ช่วยทำให้เราได้กลับมาย้อนทบทวนรู้จักตนเอง รู้จักแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด และหากทำเป็นประจำนอกเหนือจากว่าจะมีทักษะการอ่าน การจดจำที่ดีขึ้นแล้ว เรื่องการจัดการชีวิตส่วนตัวก็จะดีขึ้นอีกด้วย การนำเอาสมุดธรรมดาๆ มาลงมือเขียน วาด และตกแต่งด้วยตัวเอง ใช้งานแทนที่พวก Computer หรือ Applicationบนมือถือที่ใช้กันง่ายๆจะช่วยสะท้อนในอีกแง่มุมของการต้องทำอะไรที่ยากขึ้น และให้เวลากับการทำสิ่งนั้นนานขึ้น ทำให้สิ่งที่เราตั้งใจทำออกมามีประสิทธิภาพและแปรผันกลายเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจไปในที่สุด

 

แพลนล่วงหน้า

      การใช้ชีวิตแบบมีการวางแผน จะช่วยให้การดำเนินไปในแต่ละวันราบรื่นมากขึ้น  อาจเริ่มจากการวางแผนประจำสัปดาห์ว่าภายใน 7 วันนี้มีอะไรที่จะต้องทำบ้าง หรือทำอะไรวันไหนบ้าง เป็นต้น การทำแบบนี้จะช่วยทำให้เราไม่ตกหล่นในรายละเอียดของชีวิต เป็นเหมือนการนำเส้นทางให้กับตัวเอง เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะมีการทำสมุดแพลนเนอร์เป็นของตัวเองกันอยู่บ้าง และสมุดเหล่านี้ก็ยังสามารถแสดงตัวตนของเราได้เป็นอย่างดี

      ไอเดียของการทำมีทั้งเลือกซื้อแบบสำเร็จรูปมาตกแต่งเพิ่มเติมเอง แต่บางท่านชอบที่จะลงมือทำเองทั้งหมดก็จะใช้วิธีเป็นการเขียนตารางวัน เดือน ปี ขึ้นมาเองเลยก็สามารถทำได้ค่ะ

 

Cr.Instagram : bujostudy

 

      วิธีการทำ Journal Book ในรูปแบบสมุดแพลนเนอร์แนะนำให้เลือกใช้วิธีเขียนเป็นตารางวันที่คล้ายๆปฏิทินจะง่ายต่อการบันทึกและการเปิดดูข้อมูลมากที่สุด หรืออาจนำสมุดปฏิทินมาใช้แทนก็สามารถทำได้เช่นกัน

 

Cr.http://eintsein.co.vu

 

      สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดวาดภาพ การนำภาพมาตัดแปะก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้ สามารถเลือกเป็นภาพที่เกี่ยวกับแพลนประจำเดือนนี้ ก็จะได้แพลนเนอร์ในธีมที่ต่างกันไปในแต่ละเดือน

 

CR.thxschool.tumblr.com

 

Cr.journalsanctuary.tumblr.com

 

บันทึกความรู้สึกของวันนี้

      ไอเดียที่อยากจะแนะนำทุกท่านให้ทดลองทำกัน คือการทำ Journal Book ในรูปแบบของการบันทึกความรู้สึกเป็นเสมือนการทบทวนตัวเองในแต่ละวันว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง เรารู้สึกอย่างไรกับวันนี้ การเขียนบันทึกไว้ทุกวันจะเป็นผลดีตอนที่เรากลับมาอ่านและได้นั่งทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่ทำไปมีข้อดี ข้อเสีย และควรปรับปรุงตัวเองไปในทิศทางไหน ซึ่งเป็นไอเดียที่ส่งผลดีต่อตัวเราเองล้วนๆเลยล่ะค่ะ

 

Cr.journalsanctuary.tumblr.com

 

Cr. Instagram :passionplanner

 

      หรือถ้าหากวันไหนคุณรู้สึกแย่ ก็ลองมาคิดค้นหาวิธีแก้ว่าทำอะไรให้ความรู้สึกแย่ๆเหล่านี้หายไป เช่นนอนหลับพักผ่อน อ่านหนังสือคลายเครียด ฟังเพลง ดูหนัง เป็นต้น

 

Cr.fuckyeahbookarts.tumblr.com

 

      การแยกสมุดจดตามความรู้สึกก็อาจทำให้ง่ายต่อการจดบันทึกมากขึ้น เช่นสมุดแห่งความสุข ถ้าได้กลับมาอ่านเมื่อไรก็จะทำให้นึกถึงแต่ละช่วงเวลาที่มีความสุข กลายเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่มาเติมเต็มให้กับชีวิตประจำวันได้มีสีสันเพิ่มมากขึ้น

 

เรื่องนี้ที่ห้ามพลาด

      เรื่องที่ว่านี้หมายถึงทั้งภาพยนตร์ซีรี่ย์ รวมไปถึงหนังสือ แน่นอนว่างานอดิเรกส่วนใหญ่ของหลายๆคนจะต้องมีกิจกรรมที่ช่วยจรรโลงใจ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำ เช่น การนอนอ่านหนังสือ หรือการนอนดูหนังในวันหยุดคงจะเป็นอะไรที่เราเรียกกันว่าฟินมากๆและยิ่งยุคสมัยนี้ก็จะมีเพจที่คอยรีวิว ทำให้เรายิ่งต้องกระตือรือร้นในการตามอ่าน ตามดู แต่ถ้ากลัวที่จะพลาดดูไม่ครบทุกเรื่อง อาจจะลองมาทำตามไอเดียJournal Bookบันทึกเรื่องที่อ่านหรือดูไปแล้ว เพื่อที่จะตามเก็บไปให้ครบทุกเรื่อง เป็นการประหยัดเวลาที่จะต้องนั่งนึกไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ

 

Cr.lifeismessyandbrilliant.com

 

การลิสต์รายการหนังเอาไว้ดูตามเทศกาลก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ เพราะภาพยนตร์บางเรื่องนั้นก็จะให้ความรู้สึกที่เหมาะกับการดูในแต่ละช่วงเวลาต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังถือโอกาสให้คะแนนเก็บไว้ด้วยเลย

Cr.365daysofjournaling-wordpress-com, youtuber :Caitlin’s Corner

 

Cr.www.scrapbook.com

ความคลาสสิคและเสน่ห์ของการดูหนังอีกอย่างหนึ่ง คือการเก็บตั๋วหนังหลังจากการดูหนังเสร็จ  ถ้าหากได้ลองนำตั๋วหนังที่เคยเก็บสะสมอยู่ในกล่องออกมาแปะลงบนJournal Bookท่านจะได้รับความน่ารักจากสมุดบันทึกความทรงจำเล่มใหม่ที่เปิดดูกี่ครั้งก็อดยิ้มไม่ได้

 

My playlists

      บทเพลงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาหลายยุคหลายสมัย และถือได้ว่าเป็นอะไรที่ไม่มีวันตายจริงๆค่ะ เพราะไม่ว่าเพลงนั้นจะอยู่ในยุคเก่าแค่ไหนก็ยังคงมีบางกลุ่มนิยมฟังกันมาจนปัจจุบัน ซึ่งการทำ My playlistsในรูปแบบของ Journal Book นั้น ก็สามารถใช้เป็นการจดไดอารี่ในอีกรูปแบบหนึ่งได้ เป็นการบรรยายเรื่องราวในแต่ละวันผ่านบทเพลง เช่น เมื่อบังเอิญไปได้ยินเพลงที่ชื่นชอบ เราก็อาจจะทำการจดเก็บไว้ หรือหากเรากำลังเศร้า ดีใจ ทุกข์ใจ ก็จดเพลงที่ฟังอยู่ตอนนั้นลงไป เสมือนเป็นการจัดเก็บความทรงจำและความรู้สึกในเวลานั้นๆเอาไว้ เมื่อได้เปิดกลับมาดูเมื่อไหร่ความรู้สึกเดิม ๆ ก็จะย้อนกลับมาด้วยภาพจำที่ชัดเจนขึ้น เหมือนกับการได้ยินเพลงบางเพลงและทำให้คิดถึงบางช่วงเวลานั่นเอง

 

 

Cr.fuckyeahjournalss.tumblr.com

 

ท่องเที่ยวที่ไม่เคยลืม

      ไอเดียสุดท้ายของบทความนี้ เป็นไอเดียของการทำ Journal Bookเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นที่นิยมไม่แพ้การเขียนเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตประจำวันเลยค่ะ การที่เราได้ท่องเที่ยวเป็นเสมือนการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในชีวิต โดยถ้าเปรียบกับการเล่นเกมก็เหมือนเราได้ผ่านด่านไปในเลเวลที่มากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าแต่ละด่านที่ผ่านมานั้นล้วนยังคงอยู่ในความทรงจำของเราเสมอ แต่การช่วยเก็บรายละเอียดให้กับประสบการณ์ในแต่ละครั้งด้วยการทำ Travel Journal Book นั้นจะช่วยเป็นตัวเก็บความทรงจำบางส่วนที่เราทำหายไป แต่เรายังสามารถกลับมาหาอ่านได้ทุกครั้งที่ต้องการ

 

Cr. Instagram :abbeysy

 

      การเลือกใช้รูปถ่ายในทริป ที่เราถ่ายด้วยตนเองมาเป็นองค์ประกอบหลักในTravel Journal Book จะยิ่งช่วยสร้างเสน่ห์และทำให้หวนคิดถึงเวลา ณ ตอนที่ถ่ายได้เป็นอย่างดีหรืออาจจะเลือกใช้เป็นโปสการ์ดที่ได้มาจากสถานที่ต่างๆที่ได้ไปท่องเที่ยว โดยสามารถเขียนส่งกลับมาหาตัวเองที่บ้าน นอกจากจะได้โปสการ์ดสวยๆมาติด Journal Book แล้ว การรอคอยโปสการ์ดจากต่างแดนก็ยังเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย

 

Cr. amybphotography.com

 

Cr. websta.me

 

      เชื่อว่าหลายๆท่านคงเริ่มสนใจที่อยากจะทำ Journal Book เป็นของตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว ในท้ายบทความนี้จึงขอมาแชร์หัวข้อในเรื่องๆต่างๆที่น่าสนใจ หวังว่าคงจะเป็นแนวทางในการเริ่มต้นของใครหลายๆ คนได้นะคะ

 

หัวข้อ Journal Book ที่น่าสนใจ

  • ผู้คนใหม่ๆที่ประทับใจเพื่อที่จะได้เก็บคนที่เรารู้สึกดีตั้งแต่เจอครั้งแรกไว้ในความทรงจำ

  • เตือนความจำเพื่อไม่ให้ลืมความสำคัญในทุกๆเรื่องในชีวิต

  • สิ่งที่วาดฝันเพื่อพยายามทำบางสิ่งเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เราต้องการ เช่นการตั้งใจทำงานเก็บเงินซื้อรถคันแรก

  • คำพูดที่ทำร้ายใจผู้อื่น เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขตนเอง และไม่ทำร้ายจิตใจคนที่สนทนาด้วยบ่อยๆ

      สุดท้ายแล้วการคอยเขียน คอยบันทึกเรื่องราวส่วนตัวเกี่ยวกับตัวเอง ย่อมเกิดผลดีเสมอ นอกจากจะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างง่ายขึ้นจากการทำอะไรเป็นขั้นตอนยังเป็นเสมือนการทำความรู้จักกับตนเองให้มากขึ้น ได้ทบทวนตัวเองอยู่ในทุกๆวัน ก็จะช่วยพัฒนาให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นนั่นเองค่ะ

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

www.inboxjournal.com

www.pinterest.com