ปัจจุบันแนวคิดหวนคืนสู่ธรรมชาติกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งการตกแต่งบ้านด้วยวัสดุจากธรรมชราติอย่างไม้หรือหินกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในงานออกแบบ

      การดึงเอากระเบื้องหินเข้ามาสู่งานดีไซน์เป็นสิ่งที่ช่วยให้มนุษย์ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นและหินยังเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ตกแต่งที่อยู่อาศัยเพราะนอกจากความสวยงามแล้วยังมีคุณสมบัติที่คงทนอีกด้วย

ชนิดของหินที่นิยมใช้กับงานออกแบบตกแต่งภายใน

 

 

      หินภูเขา

      ลักษณะ : เนื้อหินมีความแข็งแรงทนทานสูงมีรูพรุนน้อยจึงไม่อมความชื้นและไม่ขึ้นราดำ

      การใช้งาน : นิยมกรุผนังกรุเขื่อนริมน้ำกำแพงรั้วผนังน้ำตกนิยมใช้ในโรงแรมสปาและรีสอร์ท

      ข้อควรรู้ : สามารถใช้งานได้ยาวนานเหมาะแก่ผู้ชื่นชอบการแต่งบ้านในแบบที่เป็นธรรมชาติ

 

 

      หินกาบ

      ลักษณะ พื้นผิวเป็นลอนคลื่นละเอียดมีความแกร่งสูงรูพรุนน้อยซึมซับน้ำได้ดีอีกทั้งยังมีความเย็นอยู่ในตัว

      การใช้งาน ​: ใช้ปูพื้นและผนังได้ทั้งภายในและภายนนอกบ้านหินที่ใช้ปูพื้นมีทั้งชนิดเป็นแผ่นทรงฟรีฟอร์มและชนิดที่ตัดเป็นแผนสี่เหลี่ยม

      ข้อควรรู้​ : ไม่เหมาะกับพื้นที่เดินเท้าเปล่าเพราะมีลักษณะผิวแหลมคมอาจบาดเท้าได้

      การดูแล หากนำไปกรุบริเวณที่เปียกน้ำอยู่บ่อยๆเช่นผนังน้ำตกริมบ่อน้ำอาจทำให้เกิดคราบสิ่งสกปรกและตะไคร่มาเกาะได้ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการทาน้ำยาเคลือบหินหรือเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบเงาจะช่วยให้ผิวมันเงาและสีเข้มขึ้น

 

 

      หินอ่อน

      ลักษณะ : เนื้อหินจะดูใสละเอียดไม่ดูดซับน้ำและไม่เก็บความร้อน

การใช้งาน : สามารถใช้ได้กับการปูพื้นผนังเคาน์เตอร์ทั้งภายในและภายนอกแต่การใช้ภายนอกหรือส่วนที่ใช้งานหนักหินจะสึกกร่อนเสียหายเร็ว

      ข้อควรรู้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีจำพวกกรดและด่างเพราะจะเกิดรอยด่างบนพื้นผิวได้

      การดูแล : ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำธรรมดาเช็ดทุกวันหรือเช็ดด้วยน้ำยาสำหรับทำความสะอาดหินอ่อนสัปดาห์ละครั้งหากมีคราบสกปรกฝังแน่นให้ใช้น้ำยาขจัดคราบสำหรับหิน  แต่ถ้าขาดการดูแลรักษามานานหรือพื้นเป็นรอยมากๆ แนะนำให้ช่างใช้เครื่องมาขัดลอกผิวหน้าใหม่ค่ะ

 

 

      หินทราย

      ลักษณะ : เนื้อหยาบมีรูพรุนดูดความชื้นได้ดีประกอบด้วยเม็ดทรายและแร่ธาตุต่างๆทั่วไปมี 4 สีคือสีแดงสีเหลืองสีขาวและสีเขียวสามารถนำไปมาแต่งผิวได้หลากหลายแบบ

      การใช้งาน ใช้ตกแต่งผนังและพื้นภายนอกบ้าน

      ข้อควรรู้ ไม่แนะนำให้ใช้ทำพื้นภายในบ้านเพราะเม็ดทรายในเนื้อหินมักหลุดออกมา

       การดูแล : ควรทาน้ำยาเคลือบหินทุกๆ 2-3 ปีหรือถ้าขัดคราบสกปรกและตะไคร่เกาะที่หน้าหินแล้วสีหินเปลี่ยนไปจากเดิมแสดงว่าน้ำยาเคลือบเสื่อมสภาพแล้วให้ทาน้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่แล้วทาน้ำยาเคลือบใหม่

 

 

      หินอัด

      ลักษณะ เป็นการนำหินอ่อนหินแกรนิตหรือหินควอตซ์มาย่อยให้มีขนาดตามต้องการแล้วผสมกับพอลิเอสเตอร์เรซินขึ้นรูปเป็นแผ่นเนื้อหินไม่มีรูพรุนจึงดูดชื้นต่ำกว่าหินธรรมชาติมีความแข็งแรงไม่เกิดรอยด่างง่ายและพื้นผิวเป็นมันวาวจึงดูหรูหรา

      การใช้งาน : เหมาะสำหรับปูพื้นกรุผนังและกรุท๊อปเคาน์เตอร์

      ข้อควรรู้ : ไม่เหมาะกับงานภายนอกบ้านมีทั้งขนาดมาตรฐานและสั่งขนาดพิเศษได้

      การดูแล ในส่วนที่ใช้งานหนักควรปั่นเงาด้วน้ำยาปั่นเงาสัปดาห์ละครั้งและขัดเงาพื้นหินทุกๆ 3 เดือนเพื่อรักษาพื้นผิวให้เงางามเสมอไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดเช่นทินเนอร์น้ำมันสนและน้ำมันซักแแห้ง

 

การนำหินธรรมชาติมาใช้ในการตกแต่งภายใน

      เชื่อว่าใครหลายคนต้องรู้จักหรือคุ้นหูกับเกาะเชจู(Jeju) เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเกาะภูเขาไฟมรดกโลกอีกด้วยและสิ่งที่น่าสนใจก็คือการนำหินภูเขามาใช้ในงานตกแต่งอาคารนั่นเองซึ่งสถานที่เด่นๆมีเราจะแนะนำมีอยู่3 ที่ค่ะ

 

o’sulloc

      พิพิธภัณฑ์ชา (O’Sulloc Tea Museum)  เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของการปลูกชาเขียวคุณภาพสูงเพื่อให้ความรู้และฟื้นฟูวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวเกาหลีที่หายสาบสูญไปตามกาลเวลานั่นเองภายในสถานที่นี้จะโดดเด่นด้วยการออกแบบตัวอาคารและตกแต่งภายในได้อย่างน่าสนใจโดยนำหินเข้ามาประดับเป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามเป็นการตกแต่งที่เด่นชัดในเรื่องของการผสมผสานอย่างลงตัวของลักษณะทางธรรมชาติและความทันสมัยเข้าด้วยกัน

 

 

 

 

จากภาพจะเห็นการตกแต่งที่นำเอาหินเข้ามาเป็นส่วนประกอบอย่างประณีตทำให้เกิดความสวยงาม

Tea Stone

      อาคารคอนกรีตแห่งนี้คือสถานที่ที่รองรับการจัดนิทรรศการและสาธิตพิธีดื่มชาแบบเกาหลีโดยจะได้เรียนรู้วิธีการชงชาตั้งแต่เรื่องอุณหภูมิการเทชาให้ได้ความเข้มข้นที่เท่ากันการเลือกระดับความร้อนในการต้มชาแต่ละแบบที่เหมาะสมซึ่งสถานที่นี้ถูกออกแบบอย่างเรียบง่ายในรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมตั้งอยู่บนเนินเขารายล้อมไปด้วยบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์เน้นความโปร่งโล่งด้วยกระจกใสขนาดใหญ่เพื่อมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสบายตาโดยสถาปนิกที่ออกแบบได้เปรียบเทียบอาคารนี้ว่า”a black ink-stone”

 

 

 

tea stone แห่งนี้ถูกรายล้อมไปด้วยหินภูเขาไฟซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยให้บริเวณพื้นที่รอบๆสวยงาม

 

Innisfree Jeju House

      แบรนด์เครื่องสำอางค์ที่นำส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติอันงดงามบนเกาะแห่งนี้มารังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ความงามที่มีคุณภาพเปรียบเสมือน Experience Center เพื่อให้คนเข้ามาสัมผัสกับความเป็นมาและเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้งconcept คือforest galleryที่ต้องการเปิดโล่งด้วยบานกระจกใสทั้งสี่ด้านเพื่อให้เพลิดเพลินอิ่มเอมไปกับธรรมชาติที่รายล้อมอยู่รอบๆ

 

 

 

 

 

      ในส่วนของโซนต่างๆที่อยู่ภายด้านในเน้นรูปแบบการตกแต่งที่สอดรับกับความเป็นธรรมชาติอย่างไม้ที่ให้ความอบอุ่นตัดกับความแข็งแกร่งที่ดูแล้วสบายตาอย่างหินกลายเป็นความกลมกลืนที่ผสานไปกับสภาพแวดล้อมด้านนอกได้อย่างดี

      ซึ่งทั้ง3 ที่นี้ถือได้ว่าเป็นอาคารที่สร้างความลงตัวในเรื่องของการตกแต่งและภูมิทัศน์ที่งดงามบนเกาะเชจูได้เป็นอย่างดีจนน่าหยิบไปเป็นไอเดียแต่งบ้านเลยล่ะค่ะ 🙂

 

ไอเดียงาน d.i.y จากหิน

      หินนอกจากนำมาสร้างบ้านแล้วยังสามารถนำมาเป็นของใช้ที่เอื้อประโยชน์ได้อีกด้วยนะคะ

 

 

แผ่นหินกันลื่นทนทั้งแดดทนทั้งฝน

      แปลงโฉมพรมธรรมดาๆให้กลายเป็นพรมผืนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ด้วยการนำหินมาแต่งบนพรมเช็ดเท้านอกจากสวยงามแล้วยังช่วยกันลื่นได้อีกด้วยนะคะ

 

 

หินจิ๋วจัดระเบียบสร้อย

      หินก็สามารถเป็นที่แขวนเครื่องประดับอย่างสร้างหรือกำไลข้อมือได้นะคะเพียงแค่นำกาว2หน้าชนิดที่เหนียวแน่นหนึบที่สุดมาเป็นตัวเชื่อมระหว่างหินกับผนังเพียงเท่านี้ก็ได้ที่แขวนเก๋ๆแล้วค่ะ

 

 

แต่งสวยบนโต๊ะอาหารด้วยเจ้าหินตัวน้อย

      นอกจากพรมแล้วก็ยังสามารถนำมาทำเป็นที่วางกาน้ำร้อนหรือเป็นแผ่นรองจานที่ทำให้รู้สึกได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นค่ะ

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

http://www.naibann.com
http://btb.co.th/

X2 Resorts – Luxury by Design


https://www.dezeen.com
https://www.pinterest.com
http://www.jejusori.net/
https://www.osulloc.com