hongkong-sacred-01

ไหว้พระรับพรที่ฮ่องกง

 

 

สวัสดีปีหมู (กุน) แฟนๆ ชาวบาริโอทุกคนค่ะ ปีใหม่แล้วก็ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ และเป็นสิริมงคลนะคะ ส่วนใครที่กำลังเดินสายท่องเที่ยวหรือทำบุญรับโชคดีปีใหม่ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ หรือคนไหนที่กำลังมองหาที่เที่ยวและไหว้พระรับพรไปพร้อมๆ กัน “ฮ่องกง” ก็เป็นประเทศที่น่าสนใจ เพราะไม่ไกลจากเมืองไทยนัก แถมยังมีวัดชื่อดังให้เราเดินสายทำบุญกันมากมายเลยค่ะ

 

ฮ่องกงถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยมีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่ต่างเดินทางมาสักการะบูชา เพื่อขอพรและเสริมสิริมงคลกันมากมาย  ซึ่งในแต่ละวัดจะมีความศักดิ์สิทธิ์และจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น วัดหวังต้าเซียน วัดพระใหญ่ วัดเจ้าแม่กวนอิม  และวัดแชกงหมิว เป็นต้น

 

ใครที่วางแพลนหรือกำลังหาข้อมูลสำหรับไปฮ่องกง Karuntee จะพาแฟนๆ บาริโอไปทำความรู้จักกับวัดเหล่านี้ เผื่อไปถึงจะได้ขอพรและปฏิบัติตัวถูกค่ะ

 

 

วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple)

 

วัดหว่องไทซิน (Wong Tai Sin Temple) หรือคนไทยเรียกกันติดปากว่า วัดหวังต้าเซียน  ผู้คนส่วนใหญ่ที่เดินทางไปไหว้พระขอพรเรื่องสุขภาพ ไม่ให้เจ็บให้จน หลายคนยังมีเป้าหมายหลักคือการขอพรผูกด้ายแดงให้เจอเนื้อคู่ ^^ บอกเลยว่าหลายเสียงเล่ามาว่าศักดิ์สิทธิ์นัก ถ้าทำถูกขั้นตอน ทำมือและจับด้ายแดงถูก จะพบคู่ได้ภายใน 3-6 เดือน ในขณะที่บางคนก็ไม่พลาดจับกระบอกเขย่าเสี่ยงเซียมซีรับคำทำนายด้วย

 

Cr. Cleothailand

 

ขั้นตอนและการจับด้ายแดงที่ถูกวิธี

 

ด้านงานสถาปัตยกรรมแห่งนี้ก็สวยงามสมกับที่คนจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชม โดยเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างลัทธิขงจื้อ ลัทธิเต๋าศาสนาพุทธ  และศาสตร์ฮวงจุ้ย  ผ่านงานดีไซน์ อาทิ กำแพงดิน ซึ่งถือเป็นตัวแทนธาตุดิน เก๋งแปดเหลี่ยม คือตัวแทนธาตุไฟ น้ำพุ ตัวแทนของธาตุน้ำ รวมไปถึงหอจดหมายเหตุ ตัวแทนธาตุไม้ และ เก๋งทองสัมฤทธิ์ อันเป็นตัวแทนธาตุทองนั่นเองค่ะ ซึ่งจะถูกประดับตกแต่งโดยรอบของวัดมีตั้งแต่ทางเข้าวัด ตัวอาคารศาลเจ้าหลัก  ที่สำคัญยังมีงานสถาปัตยกรรมและรูปปั้นเทพเจ้าที่ประดับประดาอยู่ทั่ววัด ไปจนถึงสวนหลังวัดที่จัดออกมาเป็นสวนจีน เรียกกันว่า สวนจีนแห่งความหวังดี “สวนแห่งความปรารถนาดี”( Good Wish Garden) บรรยากาศร่มรื่นสวยงามมากๆ ค่ะ

 

 

ในส่วนบริเวณหน้าวัดก็จะมีร้านค้าเล็กๆ ที่ขายของที่ระลึกหลากหลายให้ลูกค้า เช่น สร้อยกังหัน พวงกุญแจ เครื่องรางต่างๆ เป็นต้น  ส่วนใครที่ยังเลือกซื้อไม่หนำใจบริเวณพื้นที่ด้านข้างตรงประตูทางเข้าวัดก็มีคอมมูนิตี้มอลล์ให้เลือกช้อปด้วยค่ะ หวังต้าเซียนจึงถือเป็นวัดที่ครบครันและทันสมัยมากๆ เลยค่ะ

 

การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า MTR สายสีเขียวไปยังสถานี Wong tai Sin ได้เลย ขึ้นจากสถานีและเดินอีกนิดหน่อยก็จะเจอกับวัดหวังต้าเซียนเลย

 

 

วัดพระใหญ่ (Ngong Ping 360 & Tin Tian Buddha)

 

วัดพระใหญ่หรือคนฮ่องกงเรียกกันว่านองปิง (Ngong Ping 360 & Tin Tian Buddha) ถือเป็นวัดที่ร่ำลือว่าไม่ว่าจะขอพรด้านไหนก็ศักดิ์สิทธิ์สุดๆ ทั้งในเรื่องของสุขภาพ เงินทอง ความสุข สงบ ฯลฯ จุดเด่นของวัดแห่งนี้นอกจากพระรูปใหญ่แล้ว การเดินทางไปยังวัดนองปิงยังถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่เรียกเสียงฮือฮาและหวาดเสียวจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก เพราะกว่าจะเดินทางไปถึงนองปิง ต้องเดินทางด้วยกระเช้าข้ามน้ำ ข้ามเขามากมายหลายลูก แถมไปถึงยังอากาศดีสุดๆ โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม จะหนาวเย็นและมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งวัน ที่สำคัญสามารถมองเห็นวิวสนามบินฮ่องกงจากมุมสูงได้ด้วยค่า

 

บรรยากาศบริเวณเสา The Big Thatched Hut ยามหมอกลงหนา

 

เมื่อลงจากกระเช้าจะพบกับหมู่บ้านนองปิง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่จำลองการใช้ชีวิตของชาวจีน ซึ่งได้แบ่งให้เป็นร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารตกแต่งไว้อย่างสวยงาม พอเดินเข้าไปข้างในก่อนถึงพระใหญ่ จะพบกับประตูทางเข้าหลักสีขาวโดดเด่น สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพภาพเช็คอินสุดๆ โดยเสาหลักนี้เรียกกันว่า The Big Thatched Hut ต่อจากนั้นจะพบกับพื้นที่ฐานวงกลมขนาดใหญ่ที่รอบๆ ปักด้วยธงหลากสี สวยงามพลิ้วไปตามแรงลมที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริเวณกลางวงกลมนั้นจะเห็นผู้คนจำนวนมากมาต่อคิวเข้าแถวเพื่อขอพรพระใหญ่จากด้านล่างนั้นเอง หรือหากใครยังไหว ร่างกายแข็งแรง ก็สามารถเดินขึ้นบันไดจำนวน 268 ขั้นเพื่อขึ้นไปขอพรกับพระใหญ่ด้านบนได้

 

 

“พระใหญ่” เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ยกพระหัตถ์ข้างขวา ส่วนข้างซ้ายแบพาดไว้บนตัก (ซ้าย) นั่งอยู่บนฐานกลีบบัว ซึ่งตัวฐานมีความสูงเท่าตึก 3 ชั้น พื้นที่ด้านในฐานถูกออกแบบให้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และแบ่งเป็นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาและเรื่องราวทางธรรมของพระพุทธเจ้า ในขณะที่ด้านนอกสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้แบบโดยรอบ 360 องศา เมื่อมองลงมาจะได้เห็นธรรมชาติที่สมบูรณ์เขียวขจี เมฆที่ลอยต่ำ และสายหมอกที่ปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่นั้น สวยงามจนเกินบรรยาย จนต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิตค่ะ

 

การเดินทาง สามารถนั่งรถ MTR ไปลงที่สถานี Tung Chung แล้วนั่งกระเช้านองปิงต่อไปอีกประมาณ 25 นาที สำหรับบัตรกระเช้านองปิงแนะนำให้ซื้อจากเมืองไทยไปเลยค่ะ เพื่อความรวดเร็ว เพราะที่ฮ่องกงคนต่อคิวซื้อกันยาวมาก ราคาบัตรอยู่ที่ประมาณ 680 บาทโดยประมาณค่ะ

 

 

วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple)

 

วัดแชกงหมิว  (Che Kung Temple) หรือหลายๆ คนคุ้นเคยกันในชื่อวัดกังหัน ซึ่งเชื่อกันว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดนี้ คือ ช่วยปัดเป่าสิ่งเลวร้ายออกไปจากชีวิต สุขภาพร่างกายแข็งแรง

 

 

บริเวณหน้าวัดจะมีชุดธูปเทียนสำหรับทำบุญขาย โดยตามธรรมเนียมแล้ว ก่อนที่เราจะเข้าไปไหว้พระด้านใน ต้องเขียนชื่อ นามสกุลแลและคำอวยพรลงไปในกระดาษห่อธูปเทียน จากนั้นจึงเข้าไปไหว้ข้างใน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวจะมีพนักงานคอยบอกวิธีการไหว้ที่ถูกวิธีให้ด้วย

 

สำหรับการการไหว้ที่ถูกวิธีคือ ให้ไหว้ฟ้าดินก่อน ปักธูป 3 ดอก ต่อมาเป็นการไหว้เจ้าพร้อมปักธูป 1 ดอก ส่วนธูปที่เหลือให้นำไปปักกลางแจ้ง โดยเหลือไว้ 3 ดอก เพื่อนำไปไหว้แม่ทัพแชกง ตามด้วยการหมุนกังหัน 3 ครั้ง พร้อมตีระฆัง 1 ที เป็นอันครบขั้นตอน

 

 

ในส่วนของงานสถาปัตยกรรมนั้นแม้จะไม่ได้ใหญ่โตนักแต่ก็มีจุดเด่นคือ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ถูกสร้างขึ้นตามสมัยราชวงศ์ถัง บริเวณหน้าประตูทางเข้าสีแดงสด ทั้ง 2 ข้างจะมีรูปปั้นสิงโตตั้งตระหง่านอยู่ รวมไปถึงรูปปั้นแม่ทัพแชกงขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวีรบุรุษคอยปกป้องชาวบ้าน โดยได้ประดิษฐานอยู่ที่แท่นบูชาในโถงบูชาภายในตัวอาคารสีแดง หลังคาสีเขียวดูโดดเด่น ด้านล่างจะมี

 

กังหันสำหรับให้นักท่องเที่ยวหมุน 3 รอบ เชื่อว่าคำขอจะกลายเป็นจริงนั่นเองค่ะ ในขณะที่ด้านนอกตัวอาคารนั้น ได้ถูกตกแต่งด้วยรูปปั้นขนาดใหญ่ยืนอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เหมือนกับคอยคุ้มกันและปกป้องเราตลอดเวลา

 

การเดินทาง สามารถโดยสารรถไฟฟ้า MTR ต่อสายสีฟ้าเพื่อลงที่สถานี Tai wai Exit B แล้วเดินไปอีกประมาณ 10 นาที

 

Cr. i.pinimg

 

วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kwun Yam Temple)

 

วัดเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่ริมอ่าวรีพัลส์เบย์ ตำนานเล่าขานกันมาว่าหญิงใดที่อยากมีลูกให้มาขอพร ณ ที่แห่งนี้ รับรองได้บุตรธิดาสมใจอยาก โดยมีความเชื่อว่าหากอยากได้ลูกชายให้ลูบท้องทางด้านซ้ายของพระสังกัจจายน์ แต่หากอยากได้ลูกสาวให้ลูบท้องทางด้านขวาของพระสังกัจจายน์

 

ส่วนความศักดิ์สิทธิ์เรื่องความรักที่วัดแห่งนี้ก็ศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย เพราะเชื่อกันว่ามีเทพเจ้าแห่งความรักให้ขอพร และหากได้เดินข้ามสะพานที่วัดแห่งนี้จะอายุยาวนานขึ้น 3 ปี

 

นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าให้เดินเข้าวัดด้วยเท้าซ้ายและเดินออกด้วยเท้าขวา จะทำให้ชีวิตก้าวหน้า หากได้ลูบลูกแก้วที่อยู่ในปากสิงโตจะทำให้โชคดี และอย่าลืมไหว้พระขอพรเจ้าแม่ทับทิมให้ช่วยปกป้องรักษาและทำมาค้าขึ้น ส่วนใครที่อยากมีโชคลาภก็ให้ไหว้ขอพรจากเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย

 

Cr. ilovehongkong

 

วัดเจ้าแม่กวนอิมลักษณะตัวอาคารจะเน้นงานสถาปัตยกรรมเป็นแบบจีนผสมผสานกับไต้หวัน หันหน้าออกสู่ทะเล และจุดเด่นสำคัญของวัดแห่งนี้คือภายในเต็มไปด้วยรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ และสถาปัตยกรรม รูปปั้นเทวรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อื่นๆ มากมายที่มีโดยรอบวัด เช่น รูปปั้นไข่หิน ที่ใครได้ลูบ หากเป็นคนโสดจะได้แต่งงาน  รูปปั้นเฒ่าประมงตกปลา ค้าขายร่ำรวย รูปปั้นแพะสามตะวันเบิกฟ้า สัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ยั่งยืน และโชคดี รูปปั้นปลาแห่งความมั่งคั่ง ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะประสบผลสำเร็จ เป็นต้น

 

การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้า MTR ไปลงที่สถานี Central  แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสหมายเลข 260 , 6, 6A, 6x ลงที่ป้าย  Repulse Bay Beach ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที

 

ยังมีอีกหลายวัดในฮ่องกงที่เหมาะกับการไปไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ไว้มีโอกาสดีๆ Karuntee จะมาแนะนำเพิ่มเติมนะคะ สุดท้ายนี้ขอสวัสดีปีใหม่ให้แฟนๆ บาริโออีกรอบ ขอให้มีความสุข คุณพระคุ้มครองนะคะ……