ก้าวเข้าสู่เดือนที่ 3 ของปีอย่างรวดเร็ว ใครที่ยังไม่ได้ทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ก็อาจจะเริ่มมีความเครียดและกดดันตัวเองอยู่บ้าง แต่อย่าเพิ่งเครียดจนเกินไป บางทีเราอาจจะต้องการแรงบันดาลใจอะไรใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตอยู่ก็ได้ หาเวลาว่างสักวันไปเดินเล่นตามแกลอรี่ แหล่งงานศิลปะ ให้ศิลปะช่วยเยียวยาจิตใจ และความตึงเครียดจากงานบ้างก็น่าจะเป็นไอเดียที่ไม่เลวค่ะ
ในบทความนี้เราจะมาแชร์สถานที่อาร์ต ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงที่วุ่นวายอย่างกรุงเทพมหานครค่ะ ใครจะเชื่อว่ากรุงเทพของเรามีแหล่งรวมงานศิลปะอยู่มากมายเรียกได้ว่า หลายสิบแห่งเลยทีเดียวค่ะ แต่ละแห่งก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบโจทย์คนเสพย์ศิลป์ในแต่ละ Life Style ลองใช้ข้อมูลที่ได้จากเราไปเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนะคะ
1. The Jam Factory
เปิดมาด้วยแกลอรี่ของคนรุ่นใหม่ “คุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค” สถาปนิกชื่อดัง ผู้ซึ่งเป็นคนรีโนเวทโกดังและโรงงานเก่า ให้กลายเป็นสถานที่อาร์ต ๆ แห่งใหม่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาและท่าเรือคลองสานโดยภายในประกอบไปด้วย ร้านหนังสือ Candide Books – ร้านกาแฟ li-bra-ry ,แกลอรี่ภาพ The Jam Factory Gallery และร้านอาหาร The Never Ending Summer โดยบางอาทิตย์ก็ยังมีตลาดงานคราฟท์เก๋ๆ ชื่อว่า The Knack Market ให้มาเดินชิลล์พร้อมกับฟังมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินสายติสท์อีกด้วย
ใน The Jam Factory Gallery ก็จะมีงานศิลปะจากศิลปินทั่วทุกมุมโลกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาโชว์ตลอดทั้งปี ในวันที่เราไปมีงานแสดงผลงาน 感0 – KANZERO EXHIBITION BY Watabokuศิลปินญี่ปุ่นผู้ซึ่งมีเอกลักษณ์การวาดภาพจากผู้หญิงวัยมัธยมในอุดมคติ และเป็นการแสดงผลงานในประเทศไทยเป็นครั้งแรกด้วย ถือว่าประทับใจมากเลยแหละ
สถานที่ตั้ง:
จากหน้าคลองสานพลาซ่า เดินตรงผ่านเข้าไปในตลาดเรื่อยๆ จนเจอร้านวัตสัน จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปตามซอย The Jam Factory จะอยู่ด้านขวามือ
เวลาทำการ:
เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 11.00 น.– 20.00 น. ทุกวัน
เช็คข้อมูลตารางจัดงานแสดงศิลปะ:
https://www.facebook.com/TheJamFactoryBangkok/
2. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครหรือหอศิลป์กรุงเทพนั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองตรงข้ามห้างมาบุญครองและสยามดิสคัฟเวอรี่ เดินทางสะดวกแค่ลงรถไฟฟ้าที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ เป็นอีกหอศิลป์ดี ๆ ที่เข้าถึงง่ายและสะดวกมาก เล่าถึงภาพลักษณ์ภายนอก ตัวตึกมีทั้งหมด 10 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน ภายในประกอบไปด้วยห้องแสดงงานศิลปะ ห้องประชุม ห้องสตูดิโอ ห้องอเนกประสงค์และโซนร้านค้า สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั้งจัดสัมมนา แถลงข่าว แสดงละครหรือดนตรีและที่ขาดไม่ได้คือจัดนิทรรศการงานศิลปะในพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร
นอกจากนิทรรศการต่าง ๆ ที่น่าสนใจแล้ว ร้านค้าภายในหอศิลป์กรุงเทพก็ยังน่าสนใจอีกด้วย ทั้งสินค้าและไอเดีย ถ้าใครสนใจงานสไตล์นี้เรียกว่าอาจจะช็อปจนกระเป๋าแบนไม่รู้ตัวได้เลย
สถานที่ตั้ง:
บริเวณสี่แยกปทุมวัน หัวมุมถนนพระรามที่ 1 และถนนพญาไทตรงข้ามมาบุญครอง และ สยามดิสคัฟเวอรี่, มีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ
เวลาทำการ:
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 10.00 น.– 21.00 น. ในวันอังคารถึงวันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์)
เช็คข้อมูลตารางจัดงานแสดงศิลปะ:
Website: www.bacc.or.th
3. Café Gallery
10ml. Café Gallery แกลอรี่เล็กๆ ที่เกิดจากคุณกวาง-สิรินาฐ เจ้าของนามปากกา ‘SIRI’ ที่ต้องการสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ ๆ ให้ได้มีสถานที่ไว้โชว์ผลงานนั่นเอง ที่นี่ซ่อนอยู่ในซอย วิภาวดี 16/6 ซึ่งนอกจากจะเป็นแกลอรี่แล้ว ยังเป็นคาเฟ่ที่ให้ทุกคนได้มาจิบกาแฟพร้อมเสพงานศิลป์ได้อย่างลงตัว ในบางวัน ก็มีWorkshop สอนศิลปะง่าย ๆ ที่ชั้น 3 และที่บอกว่าง่าย ก็คือง่ายจริง ๆ เพราะคุณกวางอยากให้การวาดรูปกลายเป็นเรื่องสนุก ขอแค่คุณชอบมันก็พอส่วนของแกลเลอรีก็เปิดกว้างให้ใครก็ได้ ที่มีความฝัน มีแรงขับเคลื่อนที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ มาแสดงงาน คุณอาจจะไม่ต้องมีแฟนคลับ ไม่ต้องมียอด Followers ขอแค่มีความตั้งใจก็สามารถเข้ามาคุยเพื่อจัดนิทรรศการเล็กๆ ได้
ที่นี่เป็นเหมือนคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ที่กำลังเติบโตและเป็นกำลังทางด้านศิลปะของบ้านเรา ใครที่กำลังหมดไฟ ลองไปลง Workshop หรือแค่ไปลองเดินดูนิทรรศการจาก 10ml. Café Gallery เราว่าจะทำให้ได้พลังใจกลับมามากขึ้นแน่นอน
สถานที่ตั้ง:
เข้าซอยวิภาวดี 16สังเกตทางขวามือ แกลอรี่จะอยู่ในซอยวิภาวดี 16/6 เดินขึ้นเลียบอาคารพาณิชย์มาจนถึงหลังสุดท้าย
เวลาทำการ:
เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 10.00 น.– 20.00 น. ในวันอังคารถึงวันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์)
เช็คข้อมูลตารางจัดงานแสดงศิลปะ:
https://www.facebook.com/10mlcafegallery/
4. RCB Galleriaat River City Bangkok
อีกหนึ่งสถานที่ที่เซอร์ไพร์สเรามาก ๆ คือRCB Galleria ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงผลงานของศิลปินไทยมามากมายนับไม่ถ้วน หลบตัวซ่อนเร้นอยู่ในชั้น 2 ของศูนย์การค้า River City Bangkok ย่านท่าน้ำสี่พระยาภายใต้การออกแบบสถาปัตยกรรมของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ร.อ. กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา
ภายในเปิดให้ศิลปินรุ่นใหม่นำผลงานมาจัดแสดง โดยจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละช่วง โดยช่วงนี้เป็นนิทรรศการของศิลปิน คุณธีธัช ธนโชคทวีพร ที่ถ่ายทอดผ่านงานศิลปะในงาน “รูปสนทนาที่ถูกบันทึก” เป็นภาพวาดที่ใช้สีสันและอารมณ์แสดงออกถึงตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ River City Bangkok ยังมีส่วนแสดงงานที่เปิดให้เข้าชมได้อีกหลายส่วน ทั้งผลงานภาพวาดและศิลปวัตถุรวมทั้งของแต่งบ้านสไตล์แอนทีคให้ได้เลือกชมกันอย่างจุใจด้วย
สถานที่ตั้ง:
ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าน้ำสี่พระยา
เวลาทำการ:
เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 10.00 น.– 22.00 น. ทุกวัน
เช็คข้อมูลตารางจัดงานแสดงศิลปะ:
https://www.facebook.com/RiverCityBangkok/
5. หอศิลป์ร่วมสมัย ราชดําเนิน
พูดถึงหอศิลป์ในกรุงเทพ อีกหอศิลป์หนึ่งที่เรามีโอกาสได้แวะเวียนไปบ่อย ๆ ก็คือ หอศิลป์ร่วมสมัย ราชดำเนิน ซึ่งอยู่ถัดจากอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ไม่ถึง 100 เมตรบนเส้นราชดำเนิน อาคารหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนินเป็นหนึ่งในอาคารสิบห้าหลัง ริมถนนราชดำเนิน ซึ่งถูกสร้างขึ้น ระหว่างปี 2480 ถึงปี 2491 ในยุคของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จนในปี 2533 สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้ริเริ่มโครงการปรับปรุงอาคารแห่งนี้ขึ้น เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทางศิลปะแห่งใหม่ให้ศิลปินใช้จัดแสดงผลงานและกิจกรรมสร้างสรรค์ด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
ส่วนมากหอศิลป์ร่วมสมัยฯ จะแสดงผลงานของศิลปินรุ่นใหญ่ ระดับศิลปินแห่งชาติ แต่ก็มีบางโอกาสที่ศิลปินหน้าใหม่จะได้จัดแสดงนิทรรศการที่นี่อยู่ไม่น้อย
จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ส่วนจัดแสดงผลงานกว้างขวางกินพื้นที่ทั้งชั้น 1 และ 2 อีกทั้งยังมีห้องสมุด และห้องจัดสัมมนา ไว้รองรับการเปิดตัวนิทรรศการรูปแบบต่างๆไว้ได้อย่างครบถ้วนแต่ละชั้นมีความหลากหลาย ทั้งขนาด ความสูง ระบบแสงสว่าง และชนิดของผนัง โดยผู้ใช้หรือภัณฑารักษ์ สามารถเลือกใช้พื้นที่ และออกแบบวิธีการชมนิทรรศการเพื่อเชื่อมต่อห้องต่างๆเหล่านั้น ให้เหมาะสมกับนิทรรศการ หรือกิจกรรมได้หลายแบบ
อีกทั้งในชั้นที่ 3จะเป็นที่ตั้งของ ศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน แห่งแรกของภูมิภาคอาเซียน เป็นส่วนที่ผู้เข้าชมสามารถทดลองเล่นกับกราฟิกต่างๆ ได้อย่างสนุกสนาน เรียกว่าครบรสทั้งได้ชมงานศิลป์ที่หาชมยากจากศิลปินแห่งชาติ และยังได้รับความสนุกสนาน เป็นตัวเลือกที่ดีของวันหยุดนี้จริงๆ
สถานที่ตั้ง:
ถนนราชดำเนินกลาง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หอศิลป์ราชดำเนินไม่มีบริการที่จอดรถ แนะนำให้นำรถยนต์ไปจอดที่ลานจอดรถวัดราชนัดดา วัดเทพธิดาราม วัดมหรรณพารามวรวิหาร หรือลานจอดรถข้างศาลเจ้าพ่อเสือที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
เวลาทำการ:
เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 10.00 น.– 19.00 น. ในวันอังคารถึงวันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์)
เช็คข้อมูลตารางจัดงานแสดงศิลปะ:
https://www.facebook.com/rcac84/
6. GOJA Gallery Café
ในความวุ่นวายของย่านพระโขนง เราพบสถานที่สงบ ๆ ที่เป็นทั้งคาเฟ่และแกลอรี่แห่งนี้ได้จากความบังเอิญ ความบังเอิญเมื่อหลายปีที่แล้ว เราอยากได้แผ่นซีดีของศิลปินวงหนึ่งซึ่งมีขายแค่ที่นี่ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้จัก Gallery ฮิป ๆ แห่งนี้ มองจากภายนอก เราไม่รู้เลยว่าที่นี่แอบซ่อนความเป็นศิลปะและความน่ารักเป็นกันเองเอาไว้ด้วยกัน แถมด้วยสไตล์ที่ติดกลิ่นความญี่ปุ่นผสมกับคาเฟ่แบบไทยๆ ที่ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของร้านไปโดยปริยาย
ที่ GOJA Gallery Café ที่กลางวันดูสงบ แต่กลางคืนก็กลายสภาพเป็นร้านชิลล์ ๆ ที่พร้อมรองรับปาร์ตี้มันส์ ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นทั้งศิลปิน และนักดื่มในเวลาเดียวกัน
นิทรรศการศิลปะที่ GOJA Gallery Café จะถูกสับเปลี่ยนกันไปตามแต่ละช่วงเวลา โดยตอนนี้เป็นนิทรรศการภาพวาดของนัก Skater ชาวญี่ปุ่นสองคนที่มีลายเส้นเท่ห์ ๆ กวน ๆ รวมทั้งยังมีการแสดงดนตรีและดีเจจากต่างชาติที่แวะเวียนกันเข้ามาทำให้ที่นี่ครึกครื้นทุกวันอีก ใครที่กำลังเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ รับรองไปร้านนี้ได้สนุกกับเพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นชัวร์
สถานที่ตั้ง:
อยู่บนถนนสุขุมวิท 71 (ซอยปรีดีพนมยงค์ 3) จากหัวมุมปากซอยเดินเข้าซอยไปเรื่อยๆ ร้านอยู่ทางซ้าย
เวลาทำการ:
เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 15.00 น.– 24.00 น. ในวันพุธถึงวันจันทร์ (หยุดทุกวันอังคาร)
เช็คข้อมูลตารางจัดงานแสดงศิลปะ:
https://www.facebook.com/gojaphrakanong/
7. Yelo House
ย้อนกลับมาที่ใจกลางเมืองอย่างสยามกันอีกครั้ง กับโกดังของคนพันธุ์อาร์ตแห่งใหม่ ในซอยข้างหอศิลป์กรุงเทพฯ หรือซอยเกษมสันต์ 1 ที่เกิดจากโรงพิมพ์เก่าริมคลองแสนแสบที่ปิดตัวลงไปได้หลายปี จนมีคนไปชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ โดยชวนคนรุ่นใหม่สายงานอาร์ตที่มีแพสชั่นให้เข้ามาอยู่รวมกันเป็นคอมมิวนิตี้แห่งใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และเป็นทั้งสถานที่จัด Workshop ต่าง ๆ, ร้านอาหาร Hungry Me & Thirsty You, ร้านกาแฟ รวมทั้งส่วนแสดงงานศิลปะ ทั้งแกลอรี่และperformanceart, Co-Working Space ไปจนถึง สตูดิโอถ่ายภาพก็เกิดขึ้นได้ในที่แห่งนี้
เป็นสังคมที่การันตีว่าเป็นศูนย์รวมทุกแหล่งแรงบันดาลใจเอาไว้ในที่เดียว กับไอเดียการสร้างสังคมแห่งศิลปะที่ไร้ขอบเขต เพื่อเชื่อมโยงศิลปิน ฟรีแลนซ์ เจ้าของธุรกิจ และนักลงทุนให้มาแลกเปลี่ยนไอเดียกัน ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศของเรา อ๋อ! ในบางเวลานอกจากที่นี่จะแสดงงานศิลปะแล้ว ยังมีตลาดนัด Pop Up Market เอาไว้ให้คนที่อยากตามฝัน ศิลปินที่สร้างผลงานอิสระ และ เจ้าของผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลงานขึ้นมาจากความชอบส่วนตัวมาออกร้านค้ากันกว่า 20 ร้าน ไม่แน่ คุณอาจจะได้ไอเดียสดใหม่จากที่นี่ และได้แรงบันดาลใจเพื่อจะกลับไปทำตามความฝัน เหมือนกับศิลปินหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ในงานนี้ก็ได้
สถานที่ตั้ง:
ซอยเกษมสันต์ 1 (หลัง BACC)
เวลาทำการ:
เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 11.00 น.– 20.00 น. ในวันพุธถึงวันจันทร์ (หยุดทุกวันอังคาร)
เช็คข้อมูลตารางจัดงานแสดงศิลปะ:
https://www.facebook.com/yelohouse/
นี่เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งรวมงานศิลป์ที่เราคัดมาให้ทุกท่านได้ลองดูเป็นอีกตัวเลือกในการพักผ่อน แต่จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเดินไปในหนทางไหนของกรุงเทพมหานคร ทั้งตึกรามบ้านช่องอันเป็นเอกลักษณ์ หรือภาพเพ้นท์บนกำแพงก็ต่างมีให้ชื่นชมทั้งสิ้นให้ศิลปะปลอบประโลมจิตใจ และเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ทำสิ่งอะไรใหม่ ๆ อย่างมีพลังในปีนี้นะคะ