เชื่อว่าหลายคนเคยเห็นปราสาทสวยๆ ที่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับ Hollywood มามากมาย ซึ่งแต่ละที่นั้นสวยงามราวกับเทพนิยาย จนบางครั้งสิ่งที่ปรากฏอยู่บนจอหนังก็ทำให้เราสับสนได้ว่าสถานที่แห่งนั้น “มีอยู่จริงหรือเปล่า?” หรือเป็นเพียงภาพลวงตาที่ผู้กำกับฉากทำให้คนดูเคลิ้มไปกับบรรยากาศของหนังเท่านั้น
แต่เอาเข้าจริงๆ ถ้าปราสาทเหล่านั้นมีจริง ความประทับใจจากหนังจะผลักดันให้คนดูเดินทางตามรอยฉากสวยๆ สัมผัสบรรยากาศและจินตนาการว่าเป็นตัวละครนั้นๆ (มีใครเคยมโนบ้างคะ 555) วันนี้ Karuntee จึงขอบินลัดฟ้าพาแฟนๆ บาริโอไปตามรอยหนังชมปราสาทสวยๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย แต่มันมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ แพ็คกระเป๋าตามมาได้เลยค่า..
Pembroke Castle ปราสาทในหนังสุดโรแมนติก “Me Before You” (2016)
เรามาเริ่มจากหนังรักโรแมนติกที่ครองใจใครหลายๆ คนจนยกให้เป็นหนังรักในดวงใจอย่างเรื่อง “Me Before You” กันเป็นเรื่องแรกค่ะ สิ่งที่ทำให้คนจดจำได้ไม่แพ้หนังก็คือ ปราสาทเพมโบรค (Pembroke Castle) ประเทศอังกฤษ ซึ่งปรากฎขึ้นในฉากที่วิล เทรย์นอร์ (พระเอก) พาเอมิเลีย คลาร์ก (นางเอก) ไปเที่ยวนอกบ้านของเขา ในเรื่องนี้ผู้กำกับตั้งใจฉายให้คนดูเห็นภาพบรรยากาศของปราสาทได้โดยรอบที่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม แต่ยังคงไว้ซึ่งความ Contrast กันระหว่างปราสาทอันใหญ่โตที่ล้อมรอบด้วยหมู่บ้านเล็กๆ
แม็คอัลไพน์ผู้กำกับของเรื่องเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้จักปราสาทเพมโบรคในเวลส์ตะวันตกเฉียงเหนืออยู่ก่อนแล้ว เป็นเรื่องยากนะครับที่จะหาปราสาทหินที่ล้อมรอบด้วยหมู่บ้านแบบนี้ ที่นั่นมีทุกอย่างที่ผมต้องการนำเสนอในงานของผมเพื่อถ่ายทอดภาพมุมกว้างภายนอกบ้านของครอบครัวเทรย์เนอร์ รวมถึงความแตกต่างขัดแย้งกับบริเวณโดยรอบ” เรียกได้ว่าเป็นโลเคชั่นที่แทบจะถอดออกมาจากบทประพันธ์เลยทีเดียว มิน่าล่ะทันทีที่หนังเข้าฉายปราสาทเพมโบรคจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ใครๆ ก็อยากไปสัมผัสด้วยตนเอง
Longford Castle ปราสาทแสนวุ่นวายของเจ้าหญิงมีอา ใน Princess Diary II (2004)
เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่เพิ่งถูกค้นพบว่าเธอเป็นถึงเจ้าหญิงรัชทายาทของประเทศเล็กๆ ในยุโรป จากนั้นเธอจึงได้เดินทางไปที่ปราสาทเพื่อเข้ารับตำแหน่ง และจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายและความรักเริ่มต้นขึ้นที่นี่
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ปราสาท Longford ถูกใช้เป็น “ปราสาท Genovian” ที่นี่เจ้าหญิงมีอาและยายของเธออาศัยอยู่ Longford เป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่และมีอาณาเขตกว้างขวาง มีพื้นที่ประมาณ 160 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ริมฝั่ง แม่น้ำ Avon ทางตอนใต้ของ Salisbury , Wiltshire ประเทศอังกฤษ
รูปแบบของปราสาทเป็นอาคารที่มีหลายชั้นดีไซน์เป็นรูปสามเหลี่ยมและมีหอกลมอยู่ในแต่ละมุม สามเสาแทนพระบิดาพระบุตร และพระจิต ภายในประกอบด้วยห้องโถง ห้องครัว ห้องอบไอน้ำ ห้องนั่งเล่นหลายห้อง รวมทั้งห้องนอน ส่วนภายนอกถูกล้อมรอบไปด้วยสวนผลไม้ ดอกไม้และสวนครัว
ปราสาท Nottingham Castle จากนิยายเรื่อง Robin Hood
นิยายเรื่อง Robin Hood หรือ ตำนานวีรบุรุษขวัญใจคนจน มีจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับปราสาท Nottingham แสนสวยสไตล์นอร์มัน ที่ตั้งอยู่ในเมือง Nottingham เป็นสถานที่จองจำโรบิน ฮู้ด ซึ่งถูกผู้ครองเมืองจับไป และโดนขังไว้ที่คุกภายในดันเจี้ยนหรือหอคอยแห่งปราสาท เนื่องจากโรบิน ฮู้ดปล้นสะดมคนรวยมาช่วยคนจน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้โรบิน ฮู้ด กลายเป็นวีรบุรุษที่ชนะใจผู้คนทั่วไป และเมื่อข่าวที่โรบินถูกจับรั่วไหลออกไป เขาได้รับการช่วยเหลือจากเมอรี่ เมน (หน่วยปล้นร่วม : Merry Men) หลบหนีไปทางถ้ำและอุโมงค์ใต้ปราสาทเพื่อกลับไปสู่ป่าเชอร์วู๊ด (Sherwood)
ปราสาทแห่งนี้สร้างจากหินทราย (Sandstone Castle) เมื่อปี ค.ศ.1067 ในสมัย William the Conqueror หรือ พระเจ้าวิลเลี่ยมผู้พิชิต ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของคลอง Nottingham บริเวณใจกลางของตัวเมือง ประเทศอังกฤษ และยังกลายเป็นสถานที่ส่วนสำคัญในตำนานโรบินฮู้ดของชาวอังกฤษ ปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเกี่ยวกับ รูปปั้น งานแกะสลักไม้ ภาพวาดและประวัติของโรบินฮู้ดมากมาย ค่าเข้าชมปราสาทแห่งนี้จ่ายเพียงคนละ 5.50 ปอนด์ หรือ ประมาณ 275 บาท สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี หรือ คนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จ่ายคนละ 4 ปอนด์ หรือ ประมาณสองร้อยบาทเท่านั้น โดยเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทุกวันระหว่างช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนตุลาคม และในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เปิดบริการเฉพาะวันพุธถึงวันเสาร์เท่านั้นนะคะ
Verona Italy บ้านของจูเลียต ใน Romeo & Juliet (1996)
ถึงสถานที่แห่งนี้จะไม่ใช่ปราสาทแต่ความงดงามก็ขึ้นชื่อว่าเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายเลยทีเดียวค่ะ นั่นก็คือเมืองเวโรน่า ประเทศอิตาลี ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามและโรแมนติก เป็นเมืองแห่งความรักของอิตาลี และเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก มีความสำคัญทางศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงสถาปัตยกรรมอายุเป็นร้อย ๆ ปี ซึ่งทางรัฐบาลยังคงรักษาสภาพเดิมของสถานที่เก่าแก่อยู่ ที่สำคัญยังเป็นเมืองที่ถูกใช้ถ่ายทำบทละครในตำนานอย่าง Romeo & Juliet รวมถึงเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักในภาพยนตร์เรื่อง Letters to Juliet (2010) (เรื่องราวของหญิงสาวที่ตามรอยความรักของโรมิโอและจูเลียต หวังให้ความรักของตนเองสมหวัง)
Casa di Giulietta (บ้านของจูเลียต) เป็นจุดเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก สถานที่ที่ถูกใช้เป็นบ้านของจูเลียต ในปัจจุบันบ้านหลังนี้มีจุดเด่นคือ กำแพงที่เต็มไปด้วยการเขียนข้อความบอกรักและคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรักต่าง ๆ ทั้งเขียน แปะ เพ้นท์ รวมถึงกุญแจคล้องประตู เพราะต่างเชื่อกันว่าคู่รักที่ได้เขียนข้อความและคล้องกุญแจร่วมกันจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต เมื่อเข้าสู่บริเวณด้านในบ้านจะมีจุดเด่นอยู่ 2 แห่งคือ
Cr. www.pinterest.com
รูปปั้นของจูเลียตซึ่งถูกสร้างขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง และมีความเชื่อว่าถ้าใครได้จับหรือสัมผัสตรงหน้าอกของจูเลียตพร้อมอธิษฐานจะเจอกับรักแท้ในไม่ช้าก็เร็ว
Cr. Benvenuto Limos
และแลนด์มาร์คสำคัญอีกที่หนึ่งสำคัญก็คือ ระเบียงบ้านธรรมดาที่อยู่บนชั้น 2 ยื่นออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ที่โรมิโอพบกับจูเลียตเป็นครั้งแรกและยังเป็นจุดสำคัญของฉากที่โรมิโอได้สารภาพรักกับจูเลียตนั่นเอง ทุกวันนี้ระเบียงแห่งนี้กลายเป็นโลเคชั่นสุดฮอตที่นักท่องเที่ยวมักไปถ่ายรูปกันจนหัวบันไดไม่แห้งเลยล่ะค่ะ
Duart Castle ปราสาทกลางเกาะที่สก็อตแลนด์ ใน The Entrapment (1999) !
Duart Castle (ปราสาทดูอาร์ต) ที่ดูโดดเดี่ยวนี้ ตั้งอยู่บนโขดหินที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของมัลล์เกาะ Mull ประเทศสก๊อตแลนด์ เป็นปราสาทของตระกูลแมคคลีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ในช่วงยุคกลาง ซึ่งปราสาทแห่งนี้เป็นศูนย์กลางตามประเพณีของตระกูลแมคคลีน และยังเป็นหนึ่งในเจ็ดของปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นโดยหัวหน้าตระกูลผู้อารักขาชายฝั่งตะวันตกของสก๊อตแลนด์ ทั้งนี้ก็เพื่อส่งข่าวด่วนเตือนการรุกราน ของพวกไวกิ้ง หรือพวกอังกฤษ ปราสาทดูอาร์ตแห่งนี้ได้ถูกกู้คืนจากซากปรักหักพังใน ค.ศ. 1911 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างสวยงามโดย พันเอก Sir Fitzroy Maclean หลังจากถูกทิ้งร้างมา 160 ปี ปัจจุบันเจ้าของที่ดูแลที่อยู่คือ Sir Lachlan Maclean หัวหน้าตระกูลลำดับที่ 28 ของตระกูลแมคคลีน
ปราสาท Duart นี้ ยังถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Entrapment ปี 1999 โดยถูกนำมาใช้เป็นฉากนอกบ้านพักเซฟเฮ้าส์ของ โรเบิร์ต แม็ค แม็คดักกัล ที่แสดงนำโดย ฌอน คอนเนอรี่ (ซึ่งแม่ของฌอน นั้นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูล Maclean)
สำหรับการเยี่ยมปราสาทแห่งนี้ ในช่วงฤดูร้อน คุณจะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษของปราสาทดูอาร์ตได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจโรงละครกลางแจ้ง การเล่นดนตรีเดี่ยว การแสดงพื้นเมืองอย่างการเป่าปี่สก็อตและการเต้นรำของชาวที่ราบสูง นับว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมที่แห่งนี้
Doune Castle จาก Monty Python and the Holy Grail (1975)