Memo_of_Memory

Memo of memory

 

Cr. weheartit.com

 

หากย้อนนึกคิดถึงเรื่องราวในอดีตก็มักจะทำให้เราเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะความทรงจำเมื่อวันวานคือสิ่งที่สวยงามเสมอ ภาพชีวิตวัยมัธยม รอยยิ้มและความสนุกสนานในงานวันกีฬาสี ขนมหลากสีและการละเล่นต่างๆ เช่น กระโดดหนังยาง เป่ากบ ตู้ถ่ายภาพสติ๊กเกอร์ ฯลฯ สิ่งต่างๆ มากมายเหล่านั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจ ซึ่งการบันทึกเรื่องราวต่างๆ นอกจากจะช่วยเตือนความจำ ยังรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้นึกถึงความทรงจำที่ผ่านมา

 

ซึ่งวิธีบันทึกความทรงจำต่างๆ ในชีวิตเรานั้น มีหลายหลายวิธี และการเล่นโซเซียลในปัจจุบันก็ถือเป็นการบันทึกเรื่องราวได้เช่นกัน แต่บทความนี้เราจะพาคุณย้อนไปพบกับวิธีบันทึกความทรงจำตั้งแต่แบบพื้นฐานมาจนถึงการจดบันทึกสมัยใหม่ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างค่ะ

1.สมุดบันทึก

เสน่ห์ของการบันทึก คือ การร้อยเรียงตัวหนังสือที่ถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกนึกคิด ที่เพียงแค่ย้อนกลับมาอ่านก็เหมือนได้หลุดเข้าไปในอดีตและทำให้ยิ้มได้เสมอ ซึ่งการบันทึกที่ส่วนใหญ่พอเจอและมักทำกันบ่อยๆ มักจะเป็น….

 

Cr. weheartit.com

 

ไดอารี่

การเขียนไดอารี่ ก็คือการเขียนบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของครอบครัว โรงเรียน รวมไปถึงเรื่องของความรัก การถ่ายทอดตัวหนังสือบนกระดาษเป็นวิธีการบันทึกความทรงทรงจำที่ลึกซึ้งที่สุดเลยกว่าได้ค่ะ เพราะทุกตัวอักษรที่ไล่เรียงเป็นตัวหนังสือล้วนคัดกรองมาจากความรู้สึกของผู้เขียนล้วนๆ อาจมีการวาดภาพประกอบ ติดสติ๊กเกอร์ และวิธีที่ฮิตที่สุดก็คือโรยแป้งลงบนกระดาษหรือทับดอกไม้สดให้แห้งไปกับหนังสือ ก็ทำให้สมุดบันทึกของคุณมีคุณค่า แม้เวลาจะผ่านไปก็ยังกลับมาอ่านได้อย่างมีความสุขค่ะ

 

Cr. myprimaplanner

 

Friendship

เชื่อว่าวัยรุ่นยุค 90 หรือยุคก่อนหน้า น่าจะคุ้นเคยกับการเขียนเฟรนด์ชิฟ (Friendship) บันทึกลับๆ ฉบับเพื่อนๆ ซึ่งจะมีการหมุนเวียนมาให้เห็นในช่วงปลายเทอมก่อนจบการศึกษา ลักษณะยอดฮิตของสมุดเฟรนด์ชิฟที่เราเรียกติดปากกัน คือ ต้องเป็นกระดาษหน้าเปล่า ไม่มีเส้น คล้ายๆ สมุดวาดรูปค่ะ นั่นก็เพื่อให้เพื่อนๆ ที่เขียนเฟรนด์ชิฟให้เรา สามารถสร้างสรรค์พื้นที่ของตนเองและเขียนบรรยายความรู้สึกของเพื่อนที่มีกับเราได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างรูปแบบการเขียนเฟรนด์ชิฟยอดนิยม เช่น…

 

เริ่มด้วยการเขียนประวัติ บอกชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล แบบละเอียดยิบ ^^ จากนั้นใครเก่งงานศิลป์ก็ละเลงวาดภาพ ใครมีอารมณ์สุนทรีย์ก็แต่งกลอนลงไปด้วย ส่วนคนที่ไม่ถนัดก็ยกเพลงฮิตแห่งยุคมาเขียน ก่อนจะตามด้วยคำอวยพรและความรู้สึกต่างๆ ปิดท้ายด้วยการติดรูปขนาด 4P (บ่งบองอายุคนเขียนมาก อิอิ) เพื่อให้เพื่อนจำเราได้ไม่ลืม แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน นักเขียนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เวลากลับบ้านทีไรชอบหยิบเฟรนด์ชิฟในช่วงมัธยมมาอ่าน ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งอ่านยิ่งคิดถึงและมีความสุขกับช่วงเวลาในความทรงจำจริงๆ ค่ะ

 

Cr. Dearphotograph

 

Cr. dailybeautifulpictures

 

2.ภาพถ่าย

1 ภาพ หลายล้านความหมาย แทนคำพูดต่างๆ มากมาย คนที่ไม่ชอบเขียนหลายคนจึงมักบันทึกความทรงจำด้วยการถ่ายรูป รูปที่ถ่ายกับครอบครัว เพื่อน คนรัก แต่ละรูปจะให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันไป เก็บรวมไว้เป็นอัลบั้ม เมื่อเวลาผ่านไปแล้วหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาในความรู้สึกนึกคิด ทำให้คิดถึงและมีความสุขกับช่วงชีวิตในแต่ละเวลาต่างๆ ได้เช่นกัน ยิ่งปัจจุบันทุกคนมีสมาร์ทโฟนที่ทำให้การเก็บภาพง่ายขึ้น ยิ่งทำให้ภาพความทรงจำของคุณมีมากขึ้น เหงาๆ หรือช่วงที่คิดถึงก็สามารถเปิดดูได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายค่ะ

 

Cr. joom.app

 

3.อัดวิดีโอ

การอัดวิดีโอถือเป็นการบันทึกความทรงจำแบบเคลื่อนไหว ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเหตุการณ์ดูสดใหม่อยู่เสมอ สามารถนั่งเปิดวนดูซ้ำๆ ได้ไม่มีเบื่อ หลายคนจึงนิยมเก็บความทรงจำด้วยวิธีนี้มาตั้งแต่อดีตที่ใช้กล้องวิดีโอเป็นเครื่องมือในการบันทึก มาจนถึงปัจจุบันที่เป็นยุคของสมาร์ทโฟน ซึ่งง่ายต่อการถ่ายและมีพื้นที่ให้เลือกเก็บมากมายหลายช่องทาง เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงโซเซียล อย่าง เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม เป็นต้น

 

4.บันทึกออนไลน์

ทุกวันนี้เป็นยุคของโซเซียลซึ่งมีช่องทางมากมาย เปรียบเสมือนพื้นที่ส่วนตัว ให้เราบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรือความรู้สึกนึกคิด ณ ขณะนั้นๆ และแชร์ให้เพื่อนๆ ของเราได้รับรู้ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการบันทึกในรูปแบบนี้มีทั้งข้อดี คือ รวดเร็ว และสนุกสนาน สามารถกลับมาอ่านเมื่อไรก็ได้หากเราสะดวก ย้อนดูรูปเก่าๆ และกิจกรรมที่เราทำได้ และข้อเสียก็มีมากมายตามมาเช่นกัน หากเล่นแบบไม่คิดถึงผลที่จะตามมา ฉะนั้นช่องทางการบันทึกออนไลน์ควรคิดก่อนโพสต์จะดีที่สุดค่ะ ซึ่งช่องทางการบันทึกออนไลน์ยอดฮิตในปัจจุบันมีดังนี้…..

 

Cr. underconsideration

 

เฟสบุ๊ค

เฟสบุ๊คเป็นช่องทางโซเซียลยอดนิยมอันดับต้นๆ ที่ให้เราได้อัพเดทสถานะต่างๆ ผ่านการเขียน รูปภาพและวิดีโอได้ ข้อดีของการบันทึกผ่านเฟสบุ๊คคืออการไม่จำกัดทั้งตัวอักษรและรูปภาพ หากอยากเขียนเป็นเรื่องราวความรู้หรือสาระต่างๆ จึงสามารถทำได้แบบไม่มีข้อจำกัด และยังสามารถเขียนบรรยายใต้ภาพต่างๆ ได้ ด้วย

 

Cr. twitter.com

 

ทวิตเตอร์

อีกหนึ่งช่องทางโซเซียลยอดนิยมก็คือ “ทวิตเตอร์” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคนชอบ “บ่น” เป็นตัวหนังสือ เพราะสามารถพิมพ์อะไรลงไปก็ได้ พูดลอยๆ หรือคิดอะไรได้แล้วพิมพ์ก็มี แต่ทวิตเตอร์จะจำกัดจำนวนตัวอักษรแค่ 240 ตัวเท่านั้นนะคะ แม้อยากจะเขียนยาวแค่ไหนก็ทำไม่ได้ ฉะนั้นคนที่เล่นโปรแกรมนี้ส่วนใหญ่ต้องคิดไตร่ตรองก่อน เราจึงมักเห็นภาษาสวยๆ อ่านง่าย เข้าใจได้ในหนึ่งโพสต์นั่นเอง

 

Cr. instagram.com

 

อินสตาแกรม

แอปพลิเคชันโพสต์ภาพชื่อดังที่ฮอตฮิตกับแทบทั่วมุมโลก ครองใจคนชอบถ่ายรูป ใครชอบถ่ายรูปหรือถ่ายคลิปวิดีโอสั้นๆ แอปฯ นี้ตอบโจทย์มากๆ เลยค่ะ เพราะสามารถแต่งภาพในแอปฯ ได้ด้วย ที่สำคัญยังสามารถเรียกดูภาพได้โดยเลือกตามวันที่ถ่ายรูป อีกทั้งยังมี IG Story ให้ไลฟ์สถานการณ์สดให้เพื่อนๆ ได้ชมไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ

 

บล็อก

การเขียนบล็อกเป็นวิธีการบันทึกออนไลน์ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงการเขียนบันทึกในสมุดมากที่สุด เพียงแต่เปลี่ยนช่องทางการเขียนเท่านั้นเองค่ะ โดยการเขียนบล็อกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการเขียนบันทึกเรื่องราวในชีวิตประจำวันเช่นเดียวกับไดอารี่ หรือหากใครที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านก็สามารถเขียนบทความสาระต่างๆ ให้ผู้คนเข้ามาอ่านเพิ่มเติมได้ เช่น บทความทางไอที ความสวยความงาม ภาพยนตร์และบันเทิง เป็นต้น

 

 

 

หน้าตาหน้าแรกของบล็อกก็จะประมาณนี้ค่ะ รวมทุกเรื่องที่เราเขียนไว้ จะมี Template ให้เลือกค่ะว่าเราจะให้หน้าแรกเราเป็นรูปแบบไหน….

 

 

ถ้าเปิดเข้ามาในเรื่องที่สนใจ ข้างในก็จะเป็นแบบนี้ เหมือนกับเรามีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเลยค่ะ เขียนได้เพลินๆ สนุกดีค่ะ

 

5.เพลง

เชื่อว่าหลายๆ คนใช้เพลงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ใช้บันทึกความทรงจำ เช่น ถ้าเราได้ยินเพลงนี้ เราจะคิดถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้น ยกตัวอย่างเวลาได้ยินเพลงกว่าจะรัก จะนึกถึงช่วงมัธยมที่มีความสุขสนุกสนานอยู่กับเพื่อนๆ หรือเพลงที่เรามีส่วนร่วมกับใคร เราก็จะนึกถึงคนๆ นั้นเมื่อได้ยินเพลงนั้นดังขึ้น เป็นต้น

 

แล้วแฟนๆ บาริโอล่ะคะมีวิธีการบันทึกความทรงจำแบบไหนกันบ้าง ลองนำมาแชร์กันได้นะคะ เผื่อหลายๆ คนจะนำไอเดียไปหยิบใช้ได้ค่ะ