เพราะเข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้า โลกที่หมุนวนเร็ว และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไม่มีสิ้นสุด ทำให้สังคมต้องหมุนตาม ทุกอย่างดูรีบเร่ง รวดเร็ว จนบางครั้งคนเราก็รู้สึกอยากให้การดำเนินชีวิตช้าลง ซึ่งอาจมีความสุขมากกว่าการทำทุกอย่างแข่งกับเวลาแบบสังคมปัจจุบันนี้ก็ได้
เรายังเชื่อว่า “ความเงียบสงบ” เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ มนุษย์จึงมีวิธีการต่างๆ มากมาย เพื่อขจัดความวุ่นวายจากสังคมปัจจุบันให้พ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่กระทั่งการหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาอ่าน ก็สามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
ซึ่ง “การอ่านหนังสือ” เพราะนอกจะทำให้ผู้คนมีความรู้มากขึ้น วิธีนี้ยังช่วยทำให้คุณมีสมาธิและผ่อนคลายอารมณ์ได้ดีและดึงความคิดไปสู่ห้วงจินตนาการที่สนุกสนานอีกด้วย และจะเห็นได้ในปัจจุบันว่ามีการตกแต่งและจัดทำห้องสมุดหรือร้านหนังสือให้สวยเก๋และเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และดึงดูดให้คนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น วันนี้ Karuntee จะพาทุกคนไปท่องดินแดนของนักอ่านเหล่านี้กันว่าจะชวนดึงดูดให้ผู้คนมาอ่านหนังสือกันได้อย่างไรบ้างและช่วยทำให้คุณผ่อนคลายได้ขนาดไหน ไปดูกันค่ะ….
มากันที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมแหล่งการเรียนรู้กันก่อนค่ะ
หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร (Bangkok City Library)
Cr. bk.asia-city
Cr. i.pinimg
หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร (Bangkok City Library) หอสมุดแห่งใหม่ที่ถูกใจชาวกรุงยิ่งนัก เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์รวมหนังสือกว่า 40,000 เล่มแล้ว ยังโดดเด่นด้วยรูปทรงอาคารสไตล์คลาสสิคสีเหลืองอ่อน แม้ตึกแห่งนี้จะเคยเป็นอาคารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่ภายในก็ถูกรีโนเวทให้สวยงามรวมสมัย กลายเป็นห้องสมุดเพื่อประชาชนแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางกรุงรัตนโกสินทร์
สำหรับการตกแต่งอาคารแห่งนี้แบ่งออกเป็น 4 ชั้นด้วยกัน ชั้นที่ 1 เป็นหนังสือทั่วไป อย่างหนังสืออาหาร สุขภาพ การท่องเที่ยว และหนังสือใหม่ล่าสุด รวมไปถึงหนังสือเสียงและอักษรเบรลล์ สำหรับผู้บกพร่องทางสายตาและการได้ยิน ชั้นที่สอง หรือชั้น M ถูกจัดเป็นโซนหนังสือเด็กและวรรณกรรมเยาวชน รวมไปถึงพื้นที่สำหรับเด็กๆ เพื่อการเรียนรู้ ส่วนชั้นที่ 3 คือ โซนหนังสือนวนิยายและเรื่องสั้น วรรณกรรมต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก และชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ 4 เป็นโซนของการจัดนิทรรศการหมุนเวียน รวมหนังสือหายาก พระราชนิพนธ์และหนังสือพระบรมราชจักรีวงศ์
จุดเด่นของที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวอาคารเท่านั้น แต่หอสมุดแห่งนี้ยังได้จัดพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับผู้พิการโดยได้จัดโซนห้องสมุดสำหรับคนพิการด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องฉายหนัง โซนสำหรับเด็กโดยเฉพาะ และมุมร้านกาแฟ เป็นต้น โดยทุกชั้นจะมีโต๊ะ เก้าอี้ โซฟาให้เลือกนั่งกันได้ตามใจชอบ จะนั่งอ่านหรือนอนอ่านก็สามารถทำได้ (แต่อยู่ในมารยาทที่ดีด้วยนะคะ) ที่สำคัญคือมี Wi-fi และปลั๊กไฟพร้อมบริการให้ด้วยค่ะ
เวลาทำการ อังคาร-เสาร์ 08.00-21.00 น. อาทิตย์ 09.00-20.00 น. ปิดทุกวันจันทร์
Open House at Central Embassy
Cr. soimilk (Embassy)
Cr. arch2o
มาที่ห้องสมุดบนห้างสรรพสินค้าสุดหรู “Open House at Central Embassy” ที่ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ท่ามกลางพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร กับฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์คนดังที่เคยสร้างผลงานอันลือชื่ออย่าง YouTube Space Tokyo Office, Google Japan Office, Ginza Place นั่นก็คือ Astrid Klein และ Mark Dytham แห่ง Klein Dytham architecture (KDa) สตูดิโอ multi-disciplinary design จากประเทศญี่ปุ่น สำหรับ concept ในการตกแต่งนั้นผู้ออกแบบต้องการให้ห้องสมุดแห่งนี้มีสเปซ เต็มไปด้วยความสบายและความสนุกเหมือนได้อยู่บ้าน จึงเน้นออกแบบพื้นที่โปร่ง สบายตา แต่บรรยากาศคละคลุ้งไปด้วยความอบอุ่น โดยได้ผสมผสานต้นไม้สีเขียวทั่วทั้งบริเวณ อีกทั้งยังได้จัดวางพื้นที่กิน ดื่ม นอน เล่น ในลักษณะเปิดโล่งต่อเนื่องเชื่อมถึงกัน (Open Plan) บวกกับเลือกใช้ผนังกระจกใสโดยรอบ ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์และตึกสูงด้านนอกได้อย่างเพลินตา ในขณะเดียวกันดีไซเนอร์ชาวยุ่นยังได้สอดแทรกเทคโนโลยีกับงานแฮนด์คราฟต์เข้าด้วยกันไว้ตามฝ้าเพดานของ OPEN HOUSE
แม้จะอยู่บนห้างสรรพสินค้าแต่ห้องสมุดแห่งนี้ก็ถูกแบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยได้รวบรวมหนังสือมากมายจากหลายศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือศิลปะ ดีไซน์ ภาพถ่าย ทำอาหาร นวนิยาย ตลอดภาษาศสตร์ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฯลฯ รวมกว่า 20,000 เล่ม และยังมีพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศอีกด้วย สำหรับคนทำงานก็มี Co-Thinking Space สำหรับนั่งทำงาน ประชุม และอ่านหนังสือโดยเฉพาะ รวมถึงมี Wi-Fi ความเร็วสูงให้บริการด้วยค่ะ
เปิดให้บริการทุกวัน อาทิตย์-พฤหัสบดี 10.00-22.00 น. ศุกร์-เสาร์ 10.00-24.00 น. ที่ชั้น 6 เซ็นทรัลเอ็มบาสซี
ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ Thailand Creative & Design Center (TCDC)
Cr. Archdaily
Cr. Archdaily
ฮิปสเตอร์หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับไปรษณีย์กลาง ย่านบางรัก ที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการออกแบบแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เรียกได้ว่าคลาสสิกถูกใจเด็ก Gen Z สุดๆ ไปเลยค่ะ ในส่วนของอาคารแห่งนี้มีขนาดกว่า 9,000 ตารางเมตร กินพื้นที่ประมาณ 5 ชั้น ออกแบบโดยหมิว จิตรเสน อภัยวงศ์ และพระสาโรชรัตนนิมมานก์ ในสไตล์ brutalist ที่ได้รับอิทธิพลมาจากงานสถาปนิกชาวอิตาลีและเยอรมัน ทำให้ด้านหน้าอาคารมีลักษณะใหญ่โต เหมือนกล่องขนาดใหญ่ และรูปแกะสลักครุฑที่ดูแข็งแรง ในขณะที่ภายในถูกตกแต่งให้เป็นโซนการเรียนรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ (TCDC) ที่แตกต่างกันไป มีทั้งหนังสือหลากหลายประเภทกว่า 50,000 เล่ม ที่ถูกจัดหมวดหมู่ไว้อย่างเป็นระเบียบ เช่น วารสาร นิตยสาร และมัลติมีเดียด้านการออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโซน Creative Room สำหรับทำเวิร์กช็อปงานออกแบบ พื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน แถมด้วยมุมรับลมเย็นๆ วิวสวยๆ ของกรุงเทพแบบพาโนราม่า ให้คุณได้ผ่อนคลายกันค่ะ
TCDC (อาคารไปรษณีย์กลางเก่า) ตั้งอยู่ที่เขตบางรัก เปิดทำการตั้งแต่เวลา 10.30 น.-21.00 น. วันอังคาร -วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ค่าบริการ 100 บาทต่อวัน
ห้องสมุดเนลสันเฮย์ (Neilson Hays Library)
Cr. Travelfish
Cr. flickr
หากใครเคยดูละครเรื่องนางอาย เวอร์ชั่นล่าสุด คงจะคุ้นตาดีกับห้องสมุดแห่งนี้ ที่สวยงามให้ Feel เหมือนอยู่ในอาคารแถบยุโรป ก็เพราะว่า “ห้องสมุดเนลสันเฮย์” นี้ ตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ความรักของคุณหมอ Thomas Heyward Hays ที่มีต่อนาง Jennie Neilson Hays ภริยาของเขา ซึ่งจากเดิมที่แห่งนี้เคยเป็นสมาคมห้องสมุดกรุงเทพ (The Bangkok Library Association) )
สำหรับห้องสมุดแห่งนี้ Thomas Heyward Hays ได้มอบหมายให้มาริโอ ตามานโย สถาปนิกชาวอิตาเลียน คนเดียวกับที่ออกแบบพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นผู้ออกแบบ โดยอาคารแห่งนี้หลายคนขนานนามว่าเป็น “พระราชวังขนาดย่อ” เนื่องจากการออกแบบสไตล์นีโอ คลาสสิก หลังคาทรงโดม ที่หัวเสาทุกต้นสลักลวดลายสวยสด และงดงามทั้งความสมมาตร เส้นสายในการออกแบบ นอกจากนี้ตัวอาคารยังเลือกใช้ตะปูทองเหลืองสำหรับยึดชั้นหนังสือเพื่อไม่ให้เกิดสนิมในภายหลัง เพิ่มความคงทนแก่การตกแต่งภายใน ไปจนถึงการคัดสรรกระเบื้องหลังคา ที่ล้วนแต่เป็นวัสดุที่ดีที่สุด ฐานรากใช้ระบบคอนกรีตประเภทแผ่ฐานรับน้ำหนัก เพื่อป้องกันความชื้นและระบายลมได้ดี ห้องใหญ่ทั้ง 3 ห้องที่บรรจุชั้นหนังสือสร้างด้วยระบบผนัง 2 ชั้น เพื่อให้อากาศถ่ายเท ช่วยระบายความชื้น และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือใต้ตัวตึกได้ออกแบบเป็นบ่อน้ำเพื่อให้ความเย็นภายในอาคาร แต่ปัจจุบันใช้วิธีติดแอร์สร้างความเย็นแทนแล้ว
จุดประสงค์ของการจัดตั้งห้องสมุดแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงไว้รองรับคนรักการอ่านเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมสำหรับชุมชน เป็นแหล่งค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยและภูมิภาคศึกษา และโปรแกรมศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ อาทิ Story Time ที่จัดทุกเช้าวันเสาร์ นิทรรศการศิลปะ คอนเสิร์ต เวิร์กช็อป ละคร และงาน Annual Book Sales อีกทั้งยังมี “โรทันดา แกลเลอรี่” แกลอรี่เล็กๆ ที่เอาไว้จัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินหมุนเวียนกันไปไม่ซ้ำกันค่ะ
ชมห้องสมุดสวยๆ อลังการไปบ้างแล้ว ต่อไปเรามาดูร้านหนังสือกึ่งห้องสมุดและยังกึ่งคาเฟ่นั่งชิลอีกด้วย ซึ่งเป็นแหล่งรวมคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสงบและความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ มาดูกันว่ามีร้านหนังสือเก๋ๆ ที่ไหนบ้าง…
ร้านก็องดิด’ Bookshop& Library Café
Cr. Dreamguide
Cr. bk.asia-city