ห้องฟอกเลือด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ขอขอบคุณ พ.อ.นพ.อุปถัมถ์ ศุภสินธุ์
รองผู้อำนวยการกองอายุรกรรมและหัวหน้าแผนกโรคไต
ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
และมูลนิธิ โรงพยาบาลเทียนฟ้า

“อโรคยา ปรมา ลาภา”
การไม่มีโรค ย่อมเป็นลาภอันประเสริฐ

 

      คำกล่าวที่เราเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ ในสมัยเด็ก เป็นคำกล่าวที่เป็นอมตะ แต่คงจะมีแค่คนที่เคยประสบ กับโรคภัยอย่างรุนแรง หรือมีโรครุมเร้า และเรื้อรังเท่านั้น ถึงจะเข้าใจคำพูดนี้ได้อย่างลึกซึ้ง…

      แน่นอนว่าคนเราเกิดมา ทุกคนย่อมต้องหวังให้ตนเองได้ประสบกับความสุข ความเจริญ ความร่ำรวย มั่งคั่ง และมีสุขภาพแข็งแรงด้วยกันทุกคน แต่บางครั้ง คนเราก็อาจจะไม่ได้ระมัดระวัง หรือไม่ได้ดูแลตัวเองให้ดี เพียงพอ จนทำให้เกิดโรคภัยมาเบียดเบียน

      แต่การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในปัจจุบัน ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะโรงพยาบาลในยุคนี้ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยไว้คอยรับมือกับโรคต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี โรคบางอย่าง หรือบางอาการก็กลายเป็นโรคเรื้อรังและทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ

      โดยหนึ่งในแผนกของโรงพยาบาล ที่มีหน้าที่รับรองคนไข้ประจำเหล่านี้ ก็คงไม่พ้นห้องฟอกเลือด ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้านั่นเองค่ะ

      ด้วยเหตุที่ห้องฟอกเลือดของโรงพยาบาลพระมงกุฎนี้ ต้องรองรับคนไข้ที่มักจะมากันอยู่เป็นประจำ และแต่ละครั้ง ผู้ป่วยก็จำเป็นต้องนั่งรับการรักษาอยู่เป็นระยะเวลานานในแต่ละวัน จึงทำให้คุณหมอหนุ่มท่านหนึ่งที่ดูแลห้องฟอกเลือดแห่งนี้ มีความคิดที่จะปรับปรุงห้องให้ดูทันสมัย และเหมาะสมต่อการใช้งาน ทดแทนห้องเดิมที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน

      นอกจากจะเพื่อประโยชน์แก่ความสบายตา สบายใจของผู้มารับบริการแล้ว ยังจะเป็นการปรับปรุงในเรื่อง ของประโยชน์ใช้สอยให้เหมาะสมกับปริมาณคนไข้ รวมทั้งยังมีส่วนของห้องประชุมซึ่งใช้ในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์รุ่นใหม่อีกด้วย

      แนวความคิดในการออกแบบของห้องฟอกเลือดนี้ ได้รับมาจาก พ.อ.นพ.อุปถัมถ์ ศุภสินธุ์ รองผู้อำนวยการกองอายุรกรรมและหัวหน้าแผนกโรคไต ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นนายแพทย์ที่ดูแลห้องนี้ โดยท่านต้องการให้ผู้มาใช้บริการได้มีความรู้สึกในเชิงบวก และสบายใจในการเข้ามารับบริการที่ห้องนี้ ท่านจึงต้องการให้ผู้ออกแบบนำเสนอ ความเป็นไปของโลกในยุคอนาคต ที่จะมีการใช้การออกแบบแนวใหม่ และผสมผสานกับเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้ห้องฟอกเลือดแห่งนี้เป็นห้องฟอกเลือดที่ดูดีที่สุดในประเทศเลยทีเดียว

      โจทย์ที่หินของโครงการนี้ เริ่มจากห้องฟอกเลือดแห่งนี้ จะถูกตกแต่งทดแทนห้องฟอกเลือดเดิม แต่มีการเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับปริมาณของผู้มาใช้บริการที่เพิ่มขึ้น และต้องปรับปรุงการจัดสรรพื้นที่ใหม่ ให้เหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน รวมทั้ง มีเวลาที่มีน้อยมากเพียง 60 วัน ในการทำงานเท่านั้น รวมทั้งต้องมีการดูแล และบริหารหน้างานที่ดี มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การทำงานที่หน้างาน ไม่รบกวนการทำงานภายในของโรงพยาบาลเองด้วย จึงทำให้โครงการนี้เป็นโครงการที่ท้าทายแห่งปีเลยค่ะ…

      Bareo & Isyss จึงได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาทำงานในโครงการนี้ โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบ ที่ต้องปรับปรุงพื้นที่การทำงานเดิมที่มีทางเดินที่ว่างและไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งทีมออกแบบนำโดยคุณมยุรี ธรรมกุลางกูร ได้ทำการแยกแนวผนังหัวเตียง ที่เดิมวางอยู่เป็นแถวตรงกลางห้อง ออกมาเป็น 2 แถวแยกจากกัน เพื่อลดพื้นที่ทางเดินให้เหมาะสมต่อการใช้งาน และนำพื้นที่ที่ได้ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยพื้นที่ส่วนกลางระหว่างผนังทั้งสองด้านไว้ จะกลายเป็นห้องเก็บเครื่องมือและห้อง Server และจะย้ายงานระบบต่างๆ เข้ามาอยู่ภายในห้อง เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง และการซ่อมบำรุงในภายหลัง ซึ่งสามารถทำได้สะดวก และไม่รบกวนผู้มารับบริการในระหว่างวันอีกด้วย

      และจาก Concept ที่ได้รับมา ทีมออกแบบจึงได้สรุปแบบให้เป็น Hi-tech Design ที่ใช้เส้นสายและสีสันที่สะอาดตา รวมทั้งมีการออกแบบการให้แสงสว่างที่เหมาะสมต่อการทำงาน โดยไม่รบกวนสายตาของผู้มารับบริการที่มักจะต้องนั่งหรือนอนบนเตียงอีกด้วย ลองมาดูรายละเอียดส่วนต่างๆกันดีกว่าค่ะ

 

 

 

 

บริเวณทางเข้า

      ทันทีที่เท้าก้าวเข้าสู่บริเวณของห้องฟอกเลือด ระหว่างพื้นทางเดินดีไซเนอร์ได้เส้นสีนำสายตาเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ของโรงพยาบาล เพื่อให้สะดวกสบายต่อการใช้งานของแต่ละกลุ่มคน โดยแบ่งออกเป็นสีส้ม สำหรับบุคลากรภายใน เช่นคุณหมอและพยาบาล เพื่อบอกตำแหน่งในการเข้าใช้พื้นที่และการเข้าใช้งาน ส่วนสีฟ้าเป็นทางเดินของผู้เข้าใช้บริการหรือคนป่วย เส้นจะบ่งบอกส่วนที่ผู้เข้าใช้โครงการสามารถเดินและใช้พื้นภายในแผนกได้พร้อมทั้งการใช้โครงสร้างและรูปแบบที่ดูทันสมัย จัดสรรพื้นที่โปร่ง โล่ง สะดวกสบายต่อการใช้งาน เพื่อดึงดูดสายตาและสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นของผู้ใช้บริการ และมีเคาน์เตอร์ด้านหน้าสำหรับติดต่อสอบถามข้อมูล เป็นบริเวณที่อยู่ต่อจากทางเข้า ตัวเคาน์เตอร์มีรูปแบบที่ทันสมัยและสามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง โทนสีหลักคือสีขาวดูสะอาดตา ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์มีการเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้เส้นสายแนวนอน เพื่อเพิ่มมิติและไม่ทำให้ผนังดูเรียบง่ายจนเกินไป เมื่อตัดกับสีฟ้ายิ่งทำให้ส่วนเคาน์เตอร์ดูน่าสนใจ นอกจากนี้ดีไซเนอร์ยังเลือกใช้ไฟตามส่วนต่างๆ เพื่อให้บรรยากาศดูหรูหรา รวมไปถึงได้อารมณ์ความเป็นอวกาศมากขึ้น

 

 

 

ส่วนฟอกไต

      ไม่ไกลจากเคาน์เตอร์ 2 จะเจอกับบริเวณฟอกไต ซึ่งเป็นส่วนที่คนไข้ต้องใช้เวลาอยู่บนเตียงฟอกไตค่อนข้างนาน นอกจากเครื่องมือที่ครบครันและทันสมัย ในแต่ละล็อคทางดีไซเนอร์ได้เพิ่มไฟสำหรับอ่านหนังสือ โดยเลือกวางไว้ตรงผนังด้านหลังเบาะคนไข้สามารถดึงหรือปรับระดับได้ตามที่คนไข้ต้องการ เพื่อป้องกันแสงแยงตาหรือส่องตาคนไข้มากเกินไป คนไข้จะได้ไม่รู้สึกเบื่ออีกต่อไป ส่วนการวางที่นั่งของคนไข้นั้น ดีไซเนอร์ได้ออกแบบพื้นแบบ Fool-Proof Design ซึ่งเป็นการวางระบบ (ปลั๊ก) ไฟฟ้าระหว่างที่นั่ง โดยจัดวางแบบซ้ายชนขวา เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและไม่ให้พยาบาลใช้ปลั๊กผิดฝั่งค่ะ

 

 

 

ห้องประชุม 1

      เพราะห้องประชุมเป็นส่วนที่ต้องใช้สมองและระดมความคิด ทางดีไซเนอร์จึงเน้นการวางระบบพร้อมฟังก์ชั่นที่ทันสมัยครบครันและสามารถอำนวยความสะดวกสบายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเห็นได้จากบริเวณกลางโต๊ะประชุมตัวยาวที่ได้เพิ่มฟังก์ชั่นสำหรับรองรับการใช้งาน โดยสามารถเสียบGadgetทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น Ipad, Iphone, Smart Phone, Notebook, Hard Disk รวมไปถึง SD-Card เชื่อมต่อระบบต่อไปยังจออัจฉริยะขนาดใหญ่ที่อยู่หน้าห้องประชุมส่วนการตกแต่งภายในห้องประชุมเน้นการใช้ผนังตกแต่งและฝ้าที่มีลักษณะโค้งมนเป็นโทนสีขาวเกือบ 90 % สลับกับกระจกกรุบานสีฟ้าให้ห้องดูมีมิติและสะอาดตา พร้อมทั้งสร้างความกลมกลืนให้บรรยากาศภายในห้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วยเพิ่มลูกเล่นจากการใช้แสงไฟที่เป็นสีฟ้า สร้างความน่าสนใจและดูหรูหราทันสมัยตรงตาม concept ที่ต้องการ

 

 

 

ห้องประชุม 2

      ห้องประชุม2 ทางดีไซเนอร์ได้ออกแบบผนังห้องให้มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ หรือ Polygon เพื่อดึงดูดสายตาและทำให้ห้องดูน่าค้นหามากขึ้น โดยเน้นการใช้โทนสีเขียวเป็นหลัก เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายและให้อารมณ์ที่เป็นธรรมชาติในส่วนของเฟอร์นิเจอร์เลือกใช้สไตล์โมเดิร์นดูโดดเด่นและทันสมัยเหมาะแก่การใช้งาน รวมไปถึงโต๊ะประชุมที่ได้เพิ่มฟังก์ชั่นเช่นเดียวกับห้องประชุม 1 เพื่อรองรับการใช้งาน ซึ่งสามารถเสียบ Gadget ทุกชนิดและเชื่อมต่อไปยังจออัจฉริยะ ทำให้ง่ายและสะดวกสบายต่อการนำเสนองานต่างๆ

 

 

 

ห้องพักแพทย์

      ในส่วนของห้องพักแพทย์ทางดีไซเนอร์ได้เลือกการตกแต่งภายในซึ่งเน้นบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายและเหมาะกับการพักผ่อนโดยใช้โทนสีแดงเพื่อสร้างความตื่นเต้นและยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นสมอง เพิ่มพลังในการทำงานและทำให้รู้สึก active มากขึ้น รวมทั้งใช้สีเหลืองช่วยให้อารมณ์เบิกบานและสีขาวให้ความรู้สึกสะอาด สดใส บริสุทธิ์ เมื่อชุดสีเหล่านี้มารวมกันจะสร้างให้ผู้ใช้งานรู้สึกรื่นเริงและคลายเครียด นอกจากนี้ดีไซเนอร์ยังได้จัดมุมหนังสือและส่วนของคอมพิวเตอร์ รวมไปถึง Pantry เล็กๆ แต่เพิ่มความสุขได้อย่างเต็มเปี่ยม สำหรับคนที่อยากผักผ่อนและทำกิจกรรมที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ รวมไปถึงเอกสารต่างๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นมุมพักผ่อนสำหรับคุณหมอที่ดูแลคนไข้มาอย่างหนักทั้งวันได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ

 

 

Counter (ด้านหลัง)

      เคาน์เตอร์ด้านหลังของห้องฟอกเลือด เป็นจุดบริการขนาดใหญ่ เน้นการออกแบบที่ดูเรียบง่ายและสามารถเข้าถึงได้อย่างเป็นกันเอง โดยแยกเคาน์เตอร์ 2 ฝั่ง เพื่อความสะดวกสบายต่อการบริการ จุดเด่นของบริเวณนี้อยู่ที่การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทันสมัยและง่ายต่อการใช้งาน เน้นโทนสีขาวดูโปร่ง โล่งและสะอาดตา รวมไปถึงการใช้โคมไฟทอดยาวตลอดแนวเคาน์เตอร์ สร้างบรรยากาศให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

      นอกจากจะสวยทันสมันถูกอกถูกใจทั้งคนไข้ พยาบาล คุณหมอแล้วก็ยังเป็นผลงานแห่งปีที่พวกเราชาวบาริโอภูมิใจกันมากค่ะ ที่อย่างน้อยเราก็เป็นส่วนเล็กๆที่ทำให้ผู้ใช้บริการห้องฟอกเลือดทุกคนได้ใช้งานง่ายขึ้นและยังเพลินตาเพลินใจกับความงามของห้องฟอกเลือดแห่งนี้ ที่จะช่วยให้อารมณ์และจิตใจของคนไข้ทุกคนดีขึ้นไม่มากก็น้อยค่ะ…