หากจะพูดถึง ‘Loft Style’ นั้นก็คงจะจำกัดความได้ว่าเป็นสไตล์ที่มีแปลนที่เปิดโล่งเพดานสูงหรือที่เราเรียกกันว่าพื้นที่ ‘Double Volume’ มีหน้าต่างบานใหญ่เพื่อรับแสงจากภายนอกและเน้นความดิบของวัสดุและอาคาร เช่น ผนังปูนเปลือย ผนังอิฐ ก่อรวมไปถึงการโชว์คานเหล็กหล่อหรือคานไม้เพราะเดิมที Loft ถือกำเนิดจากทางฝั่งยุโรป โดยเริ่มจากการการดัดแปลงโรงงาน โกดังหรือห้องใต้หลังคาให้กลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ทำให้รู้สึกไม่อึดอัดจากการตกแต่งภายในที่มากเกินไป ภายหลังได้นำมา ปรับปรุงและลดทอนความดิบลงจนทำให้เกิดเป็นเสน่ห์ของสไตล์ที่เรียกว่า ‘Loft’

      New project ในเดือนนี้เราได้เลือกโปรเจคที่เอาความเป็น Loft มาผสมผสานกับความหรูหราและทันสมัย… ท่ามกลางเมืองที่พัฒนาและเจริญก้าวหน้าอย่างย่านบางใหญ่ เป็นทำเลที่ตั้งของบ้านพักอาศัยขนาด 305.35 ตร.ม. ซึ่ง เจ้าของบ้านเป็นครอบครัวที่มีสมาชิก 3 คนด้วยกัน โดยบ้านหลังนี้จะมีทั้งหมด 3 ห้องนอน…1 ห้องสำหรับแขกผู้มาเยือนและอีก 2 ห้องสำหรับสมาชิกภายในครอบครัว

 

 

      การดึงเอาธรรมชาติของวัสดุมาใช้ในงานออกแบบอย่างไม่ปกปิดในโปรเจคนี้เป็นการนำความ Loft มาใช้แต่เพื่อทำให้ บรรยากาศน่าอยู่และทันสมัยมากขึ้น ดีไซน์เนอร์จึงทำการเบรคผนังเสมือนปูนเปลือยด้วยลามิเนตไม้สีน้ำตาล ซึ่งความเป็นไม้นั้น จะช่วยทำให้บรรยากาศภายในดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น อีกทั้ง Living room แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีโทน สีที่เป็น Earth Tone เพื่อทำให้ห้องนี้ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเหมาะแก่การใช้เวลาว่างร่วมกันในครอบครัว

 

 

      ไฮไลท์ของบ้านหลังนี้คือโซน Foyer ซึ่งได้ใช้พื้นที่แบบ Double Volume หรือการเปิดโล่งรวมพื้นที่ความสูงของสองชั้นเข้า ด้วยกัน ทำให้พื้นที่กลายเป็นโถงกว้างเพดานสูงที่มีกระจกบานใหญ่ทั้งเพื่อให้แสงส่องผ่านและเพื่อเผยทิวทัศน์ที่สวยงามจากสวน ด้านนอก ทำให้พื้นที่ในชั้นหนึ่งเสมือนเป็นลานอเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมเล็ก ที่ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมภายในครอบครัวหรือ กิจกรรมที่เชิญเพื่อนสนิทมิตรสหายมาร่วมด้วยก็ทำให้บ้านหลังนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น

 

 

      สำหรับบริเวณ Pantry ก็ความรู้สึกกลมกลืนด้วยการเลือกใช้พื้นผิววัสดุจากธรรมชาติทั้งผนังที่ตกแต่งด้วยหิน ฝ้าระแนงไม้ ลามิเนตลายปูนเปลือยขัดมัน รวมไปถึงหน้าบานตู้ลอยที่เป็นลามิเนตลายไม้เมื่อหรูหราจาก texture ของหินผนวกกับผนังลายปูน เปลือยก็ทำให้เกิดความรู้สึกเย็นดีแต่ก็มีความอบอุ่นของไม้ก็เข้ามาช่วยให้เกิดความสมดุลและลงตัว

 

 

      ห้องพักรับรองแขกบริเวณชั้น 1 นั้นเป็นห้องที่ต้องการความเงียบสงบและผ่อนคลายการเติมบรรยากาศอบอุ่นผ่านพื้นไม้ รวมไปถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลายไม้จะช่วยผ่อนความเย็นเยือกของผนังปูนเปลือยลงมาให้เหมาะสมและทำให้แขกสามารถ พักผ่อนได้อย่างสบายใจ

 

 

      นอกจากนี้ภายในห้องพักรับรองแขกก็ยังมีโซนแต่งตัวให้ผู้มาเยือนได้ใช้งานอีกด้วยโดยบริเวณนี้จะแฝงลูกเล่นบนหน้า บานตู้เสื้อผ้า โดยการกระจกเงาที่ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมสลับแพทเทิร์นไปมา นอกจากเพื่อความสวยงามแล้วกระจกเงายังช่วยให้ พื้นที่เล็กๆ ดูกว้างมากขึ้นอีกด้วย

 

 

      ที่บริเวณทางเชื่อมชั้น 2 นั้นยังคงเป็นพื้นที่ Double Volume เดียวกับบริเวณชั้นล่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้เมื่อมองลงไปก็ จะเห็นพื้นที่ชั้นล่างและสวนสวยในมุมสูงผ่านกระจกบานใหญ่ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่พื้นชั้นล่างสุดจรดฝ้าเพดานชั้นบน ซึ่งเป็นเสน่ห์ และสิ่งที่สามารถหาได้จากบ้านสไตล์ Loft เท่านั้น ทางเชื่อมนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างห้องนอนทั้งสองฝั่งที่ถูกคั่นกลางด้วยโซนที่นั่ง เล็กๆ ที่เปิดโล่งทว่าเป็นส่วนตัว ในยามกลางวันมีแสงสว่างเพียงพอและมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม

 

 

 

      Master Bedroom นำเอาความทันสมัยจากการใช้ materials เป็นลามิเนตไฮกลอสสีเทาที่สร้างเงาสะท้อนและแพทเทิร์นที่ เล่นระดับสร้างลูกเล่นให้กับห้องนอน รวมไปถึงเตียงนอนที่ถูกยกระดับขึ้นมาเล็กและซ่อนไฟไว้ที่ฐานเตียงทำให้ห้องมีกลิ่นอายของ ความ Luxury แต่ยังแฝงไปด้วยความอบอุ่นจากไม้ที่ถูกเลือกนำมาใช้เสริมให้ห้องน่าอยู่มากขึ้น

 

 

 

      ในส่วนของห้องนอนอีกห้องหนึ่งนั้น เป็นห้องนอนที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่หนักแน่น ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์ของเจ้าของห้องที่ เป็นหนุ่มมาดขรึมได้เป็นอย่างดีลวดลายของไม้เข้ามาเติมเต็มสัมผัสธรรมชาติให้ห้องโดยรวมไปถึงความโดดเด่นของระแนงไม้ บริเวณหัวเตียงทำหน้าที่เป็นจุดนำสายตาที่สร้างมิติของห้องให้ดูน่าค้นหามากขึ้น

 

 

      ผลลัพธ์ของ Loft Luxury…สไตล์ที่ผสานความดิบของการใช้วัสดุและลวดลายธรรมชาติเข้ากับความหรูหราและทันสมัย ทำให้เกิดเป็นบ้านที่ให้บรรยากาศความเป็นอิสระและผ่อนคลายแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและทันสมัยแห่งนี้นั่นเอง