บ้านที่ karuntee จะพาแฟนๆบาริโอไปชมในวันนี้เป็นหนึ่งในโครงการ The Palazzo พระราม 3 (สุขสวัสดิ์) ซึ่งนับเป็นบ้านหลังที่ 3 ในโครงการนี้ที่ได้ไว้วางใจให้ Bareo & Isyss เข้ามาดำเนินการตกแต่งภายในแล้วและ Interior Designer คนเก่งของเราก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคยค่ะเพราะได้เนรมิตบ้านหลังงามออกมาในสไตล์ Modern Luxury ที่ดูเรียบหรูแฝงความคลาสสิกเพื่อตอบโจทย์และความต้องการของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี
เริ่มต้นจากการที่เจ้าของบ้านได้ให้โจทย์กับทางทีมงานของ Bareo & Isyss ว่าอยากให้ตกแต่งภายในแบบ Modern Luxury โดยใช้สีหลักคือสีขาวซึ่งเป็นสีที่เจ้าของบ้านชื่นชอบมาใช้ด้วยดังนั้นทีมงานจึงเริ่มต้นจากสีขาวนำมาผสมผสานกับสี Beige,สี Light Goldและ Dark Chocolate มาจับกลุ่มกันจนเกิดเป็น Color Scheme ที่นุ่มและหวานแฝงความหรูหราไว้ในตัวอย่างที่เห็น
เมื่อเข้าสู่ตัวบ้านส่วนรับแขกจะเป็นส่วนแรกที่คอยต้อนรับซึ่งทีมออกแบบของ Bareo & Isyss ก็ได้จัดวางผังแบบเรียบง่ายแต่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้เต็มที่และยังคงความหรูหราตาม Concept ซึ่งมุมรับแขกนี้ดูโดดเด่นขึ้นมาด้วยผนังตกแต่งสำหรับติดตั้งทีวีที่มีความยาวกว่า 5 เมตรผนังด้านหลังบุด้วยผ้าเพื่อสร้างความสมดุลเรื่องเสียงจัดวางในกรอบไม้ตกแต่งสีขาวซ่อนไฟ LED ยาวตลอดแนวฝังลงไปในกรอบกระจกเงาสีชารับกับชุดโซฟารูปตัวแอลสีขาวครีมทอลายกับ Coffee Talbe สี Dark Brown เล่นสีสลับอย่างงดงามและ Side Table ขาเหล็กโปร่งปัดสีทอง
นอกจากนี้เจ้าของบ้านยังเลือกที่จะเปลี่ยนประตูบ้านมาใช้ประตูกระจกกรอบไม้บานใหญ่ซึ่งเป็นสินค้าที่ทางบาริโอเป็นคนออกแบบและผลิตเองเพื่อให้รับกับงานตกแต่งในห้องนี้ทั้งหมด
ถัดจากส่วนรับแขกจะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องของส่วนรับประทานอาหารซึ่งเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 8 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้พนักพิงสูงที่มีเส้นสายที่โค้งหวานแบบคลาสสิคที่มาพร้อมโครงไม้สี Dark Oak และผ้าบุเข้าชุดกับโต๊ะทานอาหารกรุด้วยหิน Arabesgato บนขาไม้สีเข้มและสีทองเขียนลายซึ่งมีความทนทานเหมาะแก่การใช้งานและเนื่องจากเจ้าของบ้านมีความชื่นชอบในการสะสมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆไม่ว่าจะเป็นจานชามแบบโบราณทาง Designer จึงจัดวางตู้โชว์ที่สามารถวางของสะสมทั้งหลายไว้ให้เจ้าของบ้านหรือแขกผู้มาเยือนได้ชื่นชม
ไม่ไกลจากมุมรับประทานอาหารมี Pantry ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานแบบครบครันจัดวางเคาน์เตอร์แบบตัว L พร้อม Island Table ขนาดใหญ่ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานต่างๆในการจัดเตรียมหรือปรุงอาหารได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการทำอาหารทั้งใหญ่หรือเล็กของคุณแม่กับคุณลูกเสริม Stool ไว้อีกด้านหนึ่งสำหรับนั่งจิบกาแฟหรือรับประทานอาหารง่ายๆในวันที่รีบเร่ง
โดย Island Table นี้ยังมีที่เก็บของด้านล่างของโต๊ะเพื่อใช้เก็บข้าวของเครื่องใช้รวมไปถึงตำราอาหารให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้อีกด้วยและด้วยความที่เจ้าของบ้านเป็น Wine Collector จึงต้องมีตู้เก็บไวน์ขนาดใหญ่แบบเปิดโล่งเพื่อให้หยิบใช้สะดวกและสวยงามไปในตัว
และที่พิเศษสำหรับบ้านหลังนี้คือมีห้องดนตรีสำหรับให้ลูกสาวคนโปรดได้ผ่อนคลายกับเปียโนตัวโปรดซึ่งทาง Interior Designer ก็ได้นำแรงบันดาลใจจากคีย์เปียโนมาสอดแทรกตามส่วนต่างๆของห้องเพื่อให้เข้ากับความเป็นห้องดนตรี
แต่ห้องดนตรีนี้ยังมีจุดพิเศษที่ซ่อนอยู่นั่นคือเราสามารถปรับเปลี่ยนห้องดนตรีแห่งนี้ให้กลายเป็นห้องนอนสำหรับรองรับแขกผู้มาเยือนได้อีกด้วยเพียงแค่กางชุดโซฟาติดผนังออกมาก็จะเห็นเตียงนอนขนาด Queen Size ที่ซ่อนตัวอยู่และสะดวกต่อการใช้งานสมกับเป็นบ้านยุคใหม่จริงๆค่ะ
Family areaที่ชั้น 2เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวสำหรับครอบครัวถึงจะมีพื้นที่เล็กน้อยแต่ก็ได้ถูกจัดสรรอย่างพิถีพิถันโดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนทำงานมุมพักผ่อนและตู้หนังสือทำให้เหมาะสมต่อการใช้งานง่ายๆแต่ครบถ้วน
เส้นสายสีเงินที่คาดอยู่ตามส่วนต่างๆช่วยแต้มความหรูหราและสร้างความลงตัวให้กับห้องสีขาวสะอาดแห่งนี้ได้อย่างดีเลยค่ะ
ถัดจากมุมพักผ่อนไปอีกนิดจะพบกับห้องนอนใหญ่ที่เป็นประธานของบ้านโดยทีมออกแบบได้บรรจงจัดวางพื้นที่อย่างเหมาะสมเริ่มด้วยส่วนนอนส่วนพักผ่อนส่วนแต่งตัวและห้องน้ำครบทุก Functionผสานเข้ากับ Color Scheme สี Navy Blue ที่หรูหราตัดเป็นลาย Diamond กับเส้นสายสี Light Cream, Beige และแต้มด้วย Silver Brush ตามจุดต่างๆสร้างความประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็น
นอกจากนี้การที่ Designer ได้เลือกใช้ Wallpaper สี Dark Chocolate เป็น Background ยังช่วยขับความงามของห้องให้โดดเด่นขึ้นอย่างได้ผล
ส่วนมุมชั้นวางของทางดีไซเนอร์เลือกที่จะวางตู้โชว์ซึ่งได้ออกแบบให้มีชั้นวางไม่เยอะเพื่อให้ดูไม่อึดอัดและมีลูกเล่นในการใช้กระจกเงาติดตามขอบชั้นทำให้สิ่งของดูสวยงามและหรูหรามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนห้องแต่งตัวที่จัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วนอย่างสวยงามที่ยังคงใช้สี Navy Blue ตัดกับสี Light Cream และกระจกเงาบานใหญ่เพื่อเพิ่มมิติให้กับห้องและนอกจากจะมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่แล้วยังมีตู้สำหรับจัดวางกระเป๋าสะสมใบโปรดใน Collection ต่างๆของเจ้าของบ้านทำให้มีความสุขทุกครั้งที่เข้ามาและง่ายต่อการเลือกใช้อีกด้วยค่ะ
ออกจากห้องนอนใหญ่มาต่อกันที่ห้องนอนคุณแม่ของเจ้าของบ้านซึ่งชื่นชอบสีของท้องฟ้าเป็นพิเศษดีไซเนอร์จึงได้นำมาใช้เป็นโทนสีหลักของห้องนี้เกิดเป็นสี Sky Blue ที่ขับให้เด่นด้วย Navy Blue และใช้สี Beige เป็นสีพื้นฐานเมื่อนำมาจับคู่กับงานแบบกึ่งคลาสสิคแล้วทำให้เกิดห้องที่งดงามลงตัวและมีชีวิตชีวาไม่น่าเบื่อ