สวัสดีค่ะแฟนๆชาวบาริโอทุกท่าน กลับมาพบกับ New Project กันอีกครั้งแล้วนะคะ ยังคงมีเรื่องราวของการออกแบบตกแต่งภายในที่สร้างสรรค์โดยบาริโอ มาให้ทุกท่านที่กำลังติดตามรออ่านได้อ่านกันอย่างเต็มอิ่มอยู่เสมอ เชื่อว่ามีหลายๆท่านคงกำลังตั้งตารอภาคต่อของ New Project กันอยู่อย่างใจจดใจจ่อเลยใช่ไหมคะ? เพราะแค่ชั้นล่างของ Romancing in classical mansion ในเดือนที่แล้วถ้าใครได้ติดตาม ก็คงได้เห็นถึงความอลังการของการตกแต่งสไตล์คลาสสิคโบราณที่น่าตื่นตาตื่นใจจนอดไม่ได้ที่จะต้องรอติดตามภาคต่อกันเลยทีเดียวค่ะ
ในภาคต่อนี้จะเป็นเรื่องราวของชั้นสองภายในแมนชั่นหลังงามที่ได้กล่าวไป ตามมาชมกันเลยดีกว่าค่ะรับรองว่าสวยงามอลังการไม่แพ้ชั้นล่างอย่างแน่นอน ภายในชั้นสองทั้งหมดจะประกอบไปด้วย ห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง และ Function Rooms อีกหลายห้อง เช่น ห้องนั่งเล่น, ห้องพระ, Gym และ ห้องเก็บเสื้อผ้าและกระเป๋า เป็นต้น เมื่อก้าวขึ้นบันไดมาถึงชั้น 2 จากโถงบันไดทางขึ้น จะพบกับห้อง Family หรือห้องนั่งเล่นสำหรับสมาชิกในครอบครัว ที่เน้นการตกแต่งแบบ Classic เช่นเดิม แต่ในส่วนนี้จะลดความหรูหราลงเล็กน้อย เพื่อให้ดูผ่อนคลายมากขึ้น เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน ดูหนังฟังเพลงกันภายในครอบครัว
ในส่วนของ Family room การตกแต่งจะเน้นโทนสี Dark Oak เสริมความหรูหราด้วยสีทองประดับอยู่ในส่วนต่างๆ ดึงดูดสายตาด้วยผนังตกแต่งกรุด้วยกระจกทรง 8 เหลี่ยมเรียงต่อกันเสริมขอบกระจกด้วยกรอบสีทองและสีขาวไล่ชั้นกันตามลำดับ เพิ่มความน่าสนใจให้ผนังตกแต่งได้เป็นอย่างดี และยังคงกลิ่นอายของความคลาสสิคหรูหราด้วยชุดโซฟาหนังแท้พร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางของที่สามารถปรับการใช้งานมาวางเท้าเพื่อเพิ่มความสบายขณะนั่งพักผ่อนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ฝั่งตรงข้ามของชุดโซฟาหนัง พบกับแผงทีวีสุดหรูในรูปแบบที่คลาสสิคประดับด้วยซุ้มโค้งสีทองโดดเด่นสะดุดตา ตัดกับผนังไม้โอ๊คสีเข้ม ซึ่งอยู่ติดกับกระจกใสบานใหญ่ที่สามารถมองทะลุเห็นห้องพระได้และแสงสามารถส่องผ่านให้ความสว่างทำให้ไม่อึดอัดจนเกินไปและยังช่วยให้ดูปลอดโปร่งมากขึ้น
ต่อเนื่องจาก Family room จะเป็นห้องพระ ที่แบ่งพื้นที่ขนาดกระทัดรัดแต่ลงตัว การตกแต่งยังคงเน้นสีทองและสี Dark Oak เช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น แต่บริเวณหิ้งสำหรับประดิษฐานองค์พระประธานของบ้าน จะใช้เป็นหินเทียมสีเข้ม เพื่อดูสง่างามและมีอายุการใช้งานยาวนาน
บริเวณตรงข้ามกับหิ้งพระ ประดับด้วยตู้โชว์แบบโบราณ โดยตู้ Sideboard ล่างจะเป็นตู้ทึบสำหรับเก็บเครื่องบูชาและหนังสือธรรมะต่างๆ ในขณะที่ตู้โชว์ด้านบน ก็สามารถจัดวางของประดับ หรือรางวัลต่างๆ ได้อย่างสวยงาม
เดินถัดเข้ามาจากส่วนของ Family จะเป็นMaster Bedroom จัดว่าเป็นห้องเอกของบ้านอีกห้องหนึ่ง และเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่มาก โดยแบ่งพื้นที่ของห้องออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ส่วนนอน, ส่วนแต่งตัว, ห้องน้ำ และห้องออกกำลังกาย ซึ่งในส่วนของห้องออกกำลังกายเป็นส่วนต่อเติมบนระเบียงเดิมของบ้าน
งานตกแต่งจะใช้แนวคิดของคำว่า “Midnight Classic” ที่เน้นความหรูหรา และประดับประดาไปด้วยรายละเอียดของงาน โดยอยู่บนพื้นฐานของสีดำที่ใช้แสดงแทนความเข้มแข็ง สง่างาม และมีพลัง ในส่วนของหัวเตียงโดดเด่นด้วย Headboard บุด้วยหนังสีเบจ ซ้อนด้วยเตียงนอนทรงยุโรป พร้อมด้วย Bed Bench ในโทนสีเดียวกัน และประดับทั้งสองข้างเตียงด้วย Night Table สีดำตัดขอบด้วยสีทอง รับกับผ้าม่านและของประดับตกแต่งโดยรอบเป็นอย่างดี
ฝั่งตรงข้ามของเตียง เป็น TV Panel พร้อมตู้วางเครื่องเสียง ซึ่งประดับด้วยลายเกลียวสีทองเพื่อเป็นสื่อแทนความรักของเจ้าของบ้านทั้งสอง และนอกจากนี้ทาง Designer ยังได้นำเอาลวดลายของผนัง มากระจายไปยังส่วนต่างๆ เช่น ฝ้าเพดาน และโต๊ะทำงาน ทำให้ห้องดูกลมกลืน และมีความนุ่มนวลซ่อนในผลงานชิ้นนี้
เดินถัดมาทางด้านข้างพบกับส่วนของห้องแต่งตัว จะประกอบไปด้วยตู้เสื้อผ้ายาวรูปตัวแอล เพื่อให้เก็บเสื้อผ้าได้มาก และทำให้การจัดเก็บเป็นระเบียบและสวยงาม โดยใช้หน้าบานขนาดใหญ่แบบเลื่อน ตกแต่งด้วยกระจกเงาและงานปิดทอง รวมทั้งมีโต๊ะแต่งตัวที่มีไฟผนังติดตั้งที่ด้านข้างของกระจก ทำให้การแต่งหน้าเป็นไปอย่างสะดวก และไม่เกิดเงาบัง
นอกจากนี้ทางด้านนอกของห้องนอนที่เคยเป็นระเบียงเดิมของบ้านถูกต่อเติมกลายเป็นส่วนออกกำลังกายที่สะดวกสบายอยู่ภายในบ้าน โดยมีแผงทีวีอยู่ทางด้านหน้าเพื่อสามารถใช้ในการสร้างความ บันเทิง ผ่อนคลายขณะออกกำลังกายได้และเพิ่มความสะดุดตาด้วยการกรุกระจกเงารอบบริเวณแผงทีวี และยังตกแต่งให้ไปในทิศทางเดียวกับส่วนๆอื่นๆของบ้านอีกด้วย
ห้องนอน 2 เป็นห้องนอนที่เล็กลงมาจาก Master Bedroom แต่ยังคงความหรูหราโอ่อ่า และดูมีพลังตกแต่งในรูปแบบคลาสสิคแท้ ที่ใช้ไม้ย้อมสี Dark Chocolate ตัดกับสีทองบนลวดลายแบบ Neoclassic มีความโดดเด่นที่บริเวณผนังหัวเตียงที่ใช้สีอ่อนแตกต่างจากส่วนต่างๆในห้องมาพร้อมกับ Headboard ที่มีการฉลุลวดลายอย่างปราณีตในสไตล์คลาสสิค
ตรงข้ามกับเตียงนอนเป็นซุ้มทีวีที่ช่วยเสริมทัพให้ห้องนี้มีความคลาสสิคโบราณด้วยรูปแบบและลวดลายที่เลือกใช้รวมไปถึงสีทองที่มีส่วนช่วยให้เกิดความหรูหราและสง่างามไปทั่วบริเวณห้องเพิ่มมิติของห้องด้วยการติดกระจกเงาบานใหญ่ไว้ด้านหลังทีวี นอกจากนี้ซุ้มทีวียังถูกขนาบข้างด้วยตู้สำหรับใช้เก็บของและอีกด้านของแผงทีวีจะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับการเสริมความงามมีกระจกบานใหญ่ที่ใช้ในการแต่งหน้าได้อย่างสะดวก
ถัดมาเป็นห้องนอนสุดท้ายของแมนชั่นหลังงามนี้คือห้องนอน 3 มีการตกแต่งแบบ Classic โดยมีการลดทอนรายละเอียด เน้นที่ความอ่อนหวานของสีที่เลือกใช้ ในหลายๆบริเวณถูกตกแต่งด้วยสีขาวช่วยเพิ่มความอ่อนหวานและกลิ่นอายของความละมุนละไมได้เป็นอย่างดี ทำให้งานออกมาคล้ายกับงานสไตล์อังกฤษ ที่หอมกลิ่น Country จางๆ โดดเด่นที่หัวเตียงประดับด้วยวงกลมสีทองตัดกับแผงผนังสีเข้มอย่างเห็นได้ชัด และกลายเป็นจุดรวมสายตาที่ลงตัว
มาถึงในส่วนสุดท้ายของตัวบ้านกันแล้วค่ะคือส่วนของ Walk-in Closet นอกจากตู้เก็บเสื้อผ้าในห้องนอนแล้ว เจ้าของบ้านทั้งสอง ยังพิถีพิถันในการแต่งกาย จึงมีห้องเก็บเสื้อผ้าแยกออกมาต่างหาก ในส่วนนี้ถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่ที่ไม่กว้างมากนักแต่ดีไซเนอร์ได้มีการวางแผนการใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด โดยตรงกลางที่เป็นบริเวณของทางเดินจะอยู่ติดกับกระจกใสที่แสงสามารถส่องผ่านมาได้เป็นอย่างดี ช่วยให้พื้นที่บริเวณนี้ไม่อึดอัดจนเกินไป ขนาบข้างด้วยตู้เสื้อผ้าทั้งสองด้านที่หน้าบานประดับด้วยลายฉลุสีทองเพิ่มความหรูหราในทุกๆรายละเอียดพร้อมกับกรุกระจกเงาซ่อนไว้ด้านหลังของลายฉลุช่วยสร้างมิติให้กับส่วนของ Walk-in Closet ได้อย่างลงตัว