อิตาลี : โรม, นครอมตะนิ รันดร์ กาล

น้ำพุแห่ง นี้งัย ที่ดังจากการเป็นฉากหนังขาว - ดำ ของ ฮอลลีวู๊ด เรื่อง “ Three Coin in the Fountain” และที่นี่มีความเชื่อกันว่า หากใครโยนเหรียญ 1 เหรียญลงไปในสระน้ำ จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง และถ้าใครโยน 3 เหรียญจะได้แต่งานกับคนอิตาเลี่ยน หวี๊ด ...หวิว

เลยขอผ่านไปน้ำพุ เทรวี่ ซะก่อนดีกว่า ซึ่งคนก็เยอะอีกเหมือนกัน แต่ก็ยังพอมีที่ให้ถ่ายภาพได้บ้าง..

ม้าโรมัน..หน้าตาหล่อเชียว..

จากน้ำพุ เทรวี่ เราก็เดินต่อไปยังวิหารพาเธนอน (คนอิตาเลี่ยนจะเรียกว่า แพนธีออน.. เอ๊ะ..รึว่าเราเรียกผิด เนี่ย.. )

ระหว่างทาง เห็นร้านขายของชำ ขายน้ำ ขายเบ็ดเตล็ด อันนี้เห็นสีสวยดี เลยเก็บมาด้วย..

เจอ Geppetto ด้วย ร้านของแกมีหุ่นไม้ให้ถ่ายรูปเล่นด้วยล่ะ

คุณลุง Geppetto แกนั่งทำงานอยู่ตลอด ตอนที่ลูกสาวแกเดินออกมา พอเห็นพวกเราถ่ายรูปอยู่ แกก็หลบเข้าไป ให้พวกเราถ่ายรูปจนพอใจ .. น่ารักมาก..

ระหว่างทาง จะมีคนมานั่ง paint สีน้ำให้ชมเป็นระยะๆ แต่ขายแพงมาก ภาพนึง ประมาณ ร้อยกว่ายูโร ส่วนใหญ่จะนำไป Copy มาขายเป็นภาพพิมพ์ซะมากกว่า ภาพนึง เหลือแค่ ห้าหรือหกยูโร..ค่อยรับได้หน่อย..

และแล้ว เราก็เดินกันมาถึงวิหารพา เธ นอนกันจนได้ ซึ่งก็คนล้นหลามอีกเช่นเคย..

และแล้ว เราก็เดินกันมาถึงวิหารพาเธนอนกันจนได้ ซึ่งก็คนล้นหลามอีกเช่นเคย..

วิหารแพนเธออน ( Pantheon ) หรือ ที่เราเรียกกันติดปากว่าพา เธ นอน ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่คงสภาพสมบูรณ์มากๆ เป็นวิหารหลังคาโดมขนาดใหญ่ เป็นสุสานของกษัตริย์และคนสำคัญของอิตาลี เช่น กษัตริย์ วิกเตอร์ เอม มานูเอล ที่ 2 และ ราฟาเอล จิตกรชื่อดังผู้เขียนภาพในวาติกัน เป็นต้น

ภายในวิหารบ้าง..

เห็นมีเก้าอี้วางอยู่ เหมือนหน้า เซนต์ ปี เตอร์ เลย เลยถ่ายมาโชว์เก้าอี้กันหน่อย..

แล้วอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าในวิหารไม่มีคนนะครับ ที่จริงแล้วคนเพียบเลย เพียงแต่ผมเลือกมุมเงย จะได้พ้นหัวคนไป ไม่ งั้น ไม่เห็นอะไรแน่..

พอออกมาจากวิหารแล้ว พวกเราก็เตรียมตัวไป โคลอสเซียม กัน ทั้งนี้พอเดินไปสถานีรถไฟ ก็ไปเจอนักไวโอลิน เล่นอยู่หน้าวิหารเก่าอีกหลังหนึ่ง แสงตกพอดี เล่นขอถ่ายมาด้วย..

สำหรับทริปทรหด ในวันแรกยังเหลือ
โคลอสเซียม อีกหนึ่งแห่งครับ ( ทำเวลาดีกว่าทัวร์ซะอีก ..)

และแล้วก็มาถึง โคลอสเซียม จนได้..

โคลอสเซียม ( Colosseum ) เป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน และยังเป็นเครื่องสะท้อนถึงความเลือดเย็น จากการชื่นชอบกีฬาการต่อสู้ระหว่างคนกับสัตว์ หรือคนกับคน เป็นความบันเทิงที่จัดให้มีติดต่อกันยาวนาน ถึง 100 วัน 100 คืน ว่ากันว่ามีเหล่านักสู้ที่เสียชีวิตที่นี่ไม่น้อยกว่า 9,000 ราย

ประตูชัยคอนแสตน ติน อยู่ใกล้ๆ..

เดินไปดู โรมันฟอรุม แต่ค่อนข้างเย็นแล้ว เลยไม่เดินไปไกลนัก พอขากลับไปสถานีรถไฟ พอดีเห็นแสงที่ โคลอสเซียม พอดี ทั้งที่ปาเข้าไปทุ่มครึ่งแล้ว เลยขอสักหน่อย..(ตอนนี้ ลูกๆ บ่นมากแล้ว เพราะเดินมาตั้งแต่เช้า มีงอนอีกต่างหาก)

ปิด trip วันแรกด้วยภาพแล้วกันนะ ครับ..

เห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ น่าตื่นตา ตื่นใจ ไปหมดสมแล้วกับ ประโยคอมตะที่เราได้ยินกันบ่อยๆ คือ “ กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ”

Black 1 | 2