Contact us / Join us
ออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน Interior design Thailand |
www.bareo-isyss.com เป็น web magazine ที่ update รายเดือนเพื่อผู้อ่าน ทัศนะและความคิดเห็นใดๆ ของผู้ประพันธ์ หรือผู้สนับสนุน
|
แสงเทียนสลัวหยอกล้อกับคานไม้รูปกากบาทที่แขวนระย้าลงมาจากเพดานสูงเสียดในโบสถ์คริสต์เล็กๆ แถบชนบทชานเมือง เกิดเป็นเงาไปมาตามแรงลมดูคล้ายจะส่องประกายเสน่หาดึงดูดผู้คนเข้ามาชื่นชมในยามค่ำคืน และนี่ก็เป็นภาพจินตนาการหากเราพูดถึงโคมระย้า หรือ แชนเดอเลียร์ เสน่ห์ดั้งเดิมของแชนเดอเลียร์ในสมัยนั้นก็พัฒนามาจนเป็นแชนเดอเลียร์หรูหราหลากสไตล์ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่งบ้านในสมัยนี้ Chandelier เป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Candleholder” หรือก็คือเชิงเทียนที่แขวนจากเพดานลงมา ในยุคแรกๆนั้นทำจากไม้รูปกากบาทอย่างง่ายๆ มีเหล็กแหลมไว้ปักเทียนข้างบน นิยมประดับไว้ในโบสถ์ และในคฤหาสถ์ของเศรษฐี ต่อมาได้พัฒนามาใช้โลหะโดยนำมาดัดเป็นลวดลายอย่างประณีตอ่อนช้อย เมื่อลวดลายของโลหะดัดเหล่านี้ต้องกับแสงเทียนเกิดเป็นเงาวูบไหว นี่จึงถือเป็นเสน่ห์ดั้งเดิมของแชนเดอเลียร์เลยล่ะค่ะ
https://fritzfryer.co.uk/c/products/lg/Bronze_Antique_Chandelier.jpg
ในยุคหลังๆก็เริ่มมีการนำกระจก แผ่นทองแดง และหินคริสตัลมาห้อยบนแชนเดอเลียร์ ทำให้ดูระยิบระยับหรูหรามากขึ้น แต่คริสตัลหายากและราคาแพง ช่างทำแก้วในอังกฤษในปี 1676 จึงมีไอเดียนำแก้วมาผสมกับสารตะกั่ว แล้วเจียรจนมีประกายงดงามมากกว่าคริสตัล ในช่วงปี 1700 แชนเดอเลียร์เริ่มมีรูปทรงอ่อนช้อยมากขึ้น เพราะใช้แก้วเป่าจากอิตาลีมาประดับ เรียกว่า สไตล์เวเนเชียน (Venetian Style)
http://colorglamhautecouture.com/images/large/A46-38584.jpg
หลากสไตล์อย่างแชนเดอเลียร์ ในสมัยนี้แชนเดอเลียร์ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างหลากหลาย เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ความนิยม และสไตล์การตกแต่ง ยุคแรกๆ จะเป็นแบบ Classic หรือแบบดั้งเดิม เน้นความหรูหรา โดยการประดับด้วยเม็ดคริสตัลใสพอเมื่อกระทบกับแสงไฟจะส่องประกายระยิบระยับ ประกอบกับลวดลายซับซ้อน ละเอียดอ่อน โครงหรือกิ่งก้านมักทำจากแก้ว ใช้ประดับในสถานที่สำคัญๆ เช่น โบสถ์ พระราชวัง เป็นต้น ความคลาสสิกนี้ช่วยเพิ่มความหรูหราให้ตัวบ้านได้อย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
แบบต่อมาคือแบบ Contemporary เป็นการนำเอาความคลาสสิกแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับแบบปัจจุบัน โดยใช้วัสดุใหม่ๆ มาใช้ เช่น ผ้า กระดาษสา เหล็กโครเมียม ทองเหลืองรมดำ แก้ว เขาหรือกระดูกสัตว์ แต่อาจจะยังพอมีเม็ดคริสตัลให้เห็นอยู่บ้าง รูปทรงค่อนมาทางเรียบๆ ไม่มีลวดลายซับซ้อนเท่าแบบคลาสสิก โดยโครงจะใช้เป็นโลหะ หรือวัสดุธรรมชาติแทน เช่น ไม้ กระดูกสัตว์ พบเห็นได้ตามโถงโรงแรมหรูๆ หรือสถานที่ที่ตกแต่งในบรรยากาศร่วมสมัย
http://st.houzz.com/simgs/8a315f640009693b_4-3731/contemporary-chandeliers.jpg
อีกแบบหนึ่งเป็นการนำแบบคลาสสิกมาบวกความทันสมัยด้วยการใช้วัสดุใหม่ๆ แทนการใช้คริสตัล โดยโครงทำจากเหล็ก ตัวโคมใช้ผ้า หรือแก้วเป่า แชนเดอเลียร์สไตล์ Modern Classic นี้เน้นความเรียบง่าย ดูอบอุ่น แต่มีสีสันมากขึ้น ทั้งยังคงความอ่อนช้อยแบบคลาสสิกเข้าไว้บ้าง
http://community.akanek.com/sites/default/files/25/burgundy_1425-12.jpg
แบบสุดท้ายคือแบบ Modern เป็นแบบที่ถอดความคลาสสิกแบบเดิมๆ ทิ้งแล้วเปลี่ยนมาเป็นความสวยงาม เรียบง่ายแทน ด้วยการตกแต่งดวงโคมน้อยชิ้นเป็นรูปทรงเรขาคณิต ไม่โค้งมนมากนัก และไม่ใช้คริสตัลเลย แต่หันไปใช้วัสดุอื่นแทน เช่น เรซิ่น เหล็ก สแตนเลส เป็นต้น ด้วยรูปทรงที่เรียบง่ายอาจจะดูแข็งเกินไป จึงเหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นส่วนใหญ่แต่ในปัจจุบันก็มีคนส่วนมากนำไป Mix & Match ได้อย่างหลากหลาย
|
http://whatishomeimprovement.com/wp-content/uploads/2012/12/white-modern-chandelier.jpg http://st.houzz.com/simgs/0f31cea50eaf58da_4-6484/modern-chandeliers.jpg
ในปัจจุบันกระแสนิยมของแชนเดอเลียร์ก็กลับมาพร้อมกับการใส่สีลงไปในแก้ว ซึ่งเป็นสีสันการตกแต่งแบบยุคปัจจุบันบวกกับรูปทรงและลวดลายหรูหราของแชนเดอเลียร์ในอดีต แม้กระทั่งสีดำที่ดูไม่ใช่สีมงคลนั้น ในสมัยนี้กลับดูสวยแปลกตาไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ เหมาะกับคนชอบการตกแต่งแนววินเทจ โบฮีเมียน และ คลาสสิก-ชิค ซึ่งเน้นลวดลายเก่ากับใหม่มาผสมผสานกัน
http://www.elledecorationthailand.com/media/content/2013/10/30/E1B43422515C4249949F3F8BC99884BF.jpg
ควรติดตั้งที่ไหนดี ? หากเป็นแชนเดอเลียร์คริสตัล หรือมีสายระย้อยลงมาก็ควรติดตั้งตรงที่ที่ไม่ค่อยมีกระแสลมผ่าน ไม่ติดตั้งใกล้แอร์ หรือพัดลม เพราะลมจะไปทำให้เม็ดคริสตัลสั่นกระทบกัน ทั้งลมยังพาฝุ่นละอองมาด้วย ทำให้โคมหมองเร็ว ซึ่งคงต้องทำความสะอาดกันบ่อยๆ เลยล่ะค่ะ ในปัจจุบันการติดตั้งแชนเดอเลียร์ไม่ได้จำกัดเฉพาะเหนือโต๊ะอาหาร หรือพวกห้องโถงสูงๆ อีกต่อไป แต่ถูกนำมาติดในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ได้อีกด้วย
|
http://www.bloggang.com/data/juthadara/picture/1152328171.jpg
การติดตั้งแชนเดอเลียร์ในห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ ควรติดตั้งให้ห่างจากเตียง เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และเพื่อความปลอดภัยหากโคมหล่นลงมา ทั้งยังไม่ให้แสงจากโคมแยงตาอีกด้วย แนะนำให้มี Dimmer ค่ะ เพื่อปรับระดับแสงไม่ให้ไฟจ้าจนเกินไป
|
ภาพจาก Dreamy Whites และ EranTurgeman
ส่วนการติดตั้งในห้องครัวนั้น ควันจากการประกอบอาหารจะทำให้แชนเดอเลียร์หมองเร็ว จึงไม่ควรเป็นแชนเดอเลียร์ที่มีลวดลายหรือมีสายระย้ามากนัก เพื่อให้สะดวกในการทำความสะอาด
|
http://www.bloggang.com/data/juthadara/picture/1152331678.jpg
หากนำไปแขวนในห้องน้ำ ตรงอ่างล้างมือ ควรแขวนให้อยู่ในระดับสายตาหากมองมาทางอ่างและอยู่ด้านข้าง แต่ห่างจากศรีษะเรา หรือตำแหน่งที่เอนตัวล้างมือ หรือแขวนกลางห้อง แล้วที่สำคัญโคมที่แขวนในห้องน้ำควรเป็นโคมไฟที่มีค่า IP44 ขึ้นไป เพื่อป้องกันความชิ้นหรือละอองน้ำในห้องน้ำได้ อายุการใช้งานของหลอดไฟจะได้ไม่สั้นเร็วเกินไปค่ะ
|
http://www.nosdrift.com/wp-content/uploads/2014/04/76-Cool-Truly-Masculine-Bathroom-D%C3%A9cor-Ideas-With-black-ceramic-tiles-wall-and-white-bathtub-and-wooden-washbasin-and-chandelier-and-modern-toilet-design.jpg
จะติดตั้งอย่างไร ? ถ้าเป็นแชนเดอเลียร์ขนาดเล็ก มีน้ำหนักไม่มากนัก สามารถติดตั้งให้ตรงกับโครงเคร่าบนฝ่าเพดานได้เลยค่ะ ส่วนแชนเดอเลียร์ที่มีน้ำหนักมาก อย่าง Grand Chandelierให้ช่างติดตั้งกับโครงสร้างพื้นคอนกรีตชั้นบน (กรณีติดตั้งชั้นล่าง) หรือใช้โซ่คล้องกับโครงหลังคาเพื่อให้รับน้ำหนักแชนเดอเลียร์ได้ (กรณีติดตั้งชั้นบน)
ภาพจาก Beckwith Interiors
ถ้าฝ้าเป็นพวกยิปซั่มบอร์ด ฝ้าไม้ แล้วซื้อแชนเดอเลียร์มาติดตั้งภายหลังจะทำอย่างไรดี ? อันดับแรกให้พิจารณาโครงเคร่าที่อยู่บนฝ้าว่าจะรับน้ำหนักไหวไหม ถ้าได้ ให้หาแนวโครงเคร่าแล้วติดตั้งตามแนว ไม่ควรยึดไว้กับฝ้าเฉยๆ เพราะการแขวนที่ฝ้าจะรับน้ำหนักในระยะยาวไม่ไหว หากจะติดตั้งในห้องโถงสูงๆ เช่น โบสถ์ ห้องประชุม ในสมัยนี้ก็มีการนำรอกไฟฟ้าเข้ามาช่วยในการนำโคมไฟขึ้นลง เพื่อให้สะดวกในการทำความสะอาดด้วยค่ะ
http://www.bloggang.com/data/t/travelaround/picture/1249573050.jpg
ถึงเวลาเช็ดตัวให้แชนเดอเลียร์ โดยทั่วไปแล้วควรทำความสะอาดแชนเดอเลียร์ทุกหกเดือนถึงหนึ่งปี แต่ถ้าหากติดตั้งในส่วนของบ้านที่สกปรกง่าย เช่น ห้องครัว ก็ต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น หรือบ้านอยู่ใกล้แหล่งที่มีฝุ่นอยู่มาก อาจต้องทำความสะอาดสี่ครั้งต่อปีหรือมากกว่านั้น จะสังเกตได้จากการไม่สะท้อนแสงของคริสตัล หรือแก้ว ปรากฏฝุ่นขึ้น หรือเริ่มขุ่นมัว ก็ถึงเวลาที่จะทำความสะอาดกันแล้วล่ะค่ะ
การดูแลทำความสะอาดแชนเดอเลียร์นั้นทำได้ง่ายๆ มีแค่ 2 วิธีด้วยกันคือ 1. ว่าจ้างบริษัททำความสะอาดที่มีความชำนาญมาจัดการ ในกรณีที่เป็นแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่
http://www.chandelierrestoration.com/images/mainimages/restoremainrev.png
2. การทำความสะอาดเอง อาจจะดูเป็นเรื่องที่ยาก แต่แท้จริงแล้วไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ถ้าเป็นแชนเดอเลียร์แบบคริสตัล ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาเช็ดกระจกทั่วๆไป เช็ดทีละเม็ด แต่ต้องระวังเรื่องเม็ดคริสตัลกระทบกันด้วยนะคะ ส่วนแชนเดอเลียร์หินใช้แค่น้ำเปล่าเช็ดทำความสะอาดก็เพียงพอค่ะ และแชนเดอเลียร์โลหะ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาขัดเงาที่มีขายทั่วไปเช็ดได้เลยค่ะ
http://outdoorchandelier.net/wp-content/uploads/2013/07/how-to-effectively-clean-a-chandelier.jpg
เห็นไหมล่ะคะว่าเสน่ห์และความงามของแชนเดอเลียร์นั้นช่วยเสริมห้องของคุณดูดีมีสไตล์มากยิ่งขึ้น สามารถนำมา Mix & Match กับห้องได้อย่างหลากหลาย ฉะนั้นอย่าพลาดมองหาแชนเดอเลียร์สวยๆ มาประดับไว้ในห้องสักดวงหนึ่งกันนะคะ คราวหน้า Bareo&Isyss จะนำเรื่องราวสาระดีๆ เกี่ยวกับการตกแต่งบ้านมาฝากกันอีก ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ^^
บรรณานุกรม
|