Contact us / Join us
ออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน Interior design Thailand |
www.bareo-isyss.com เป็น web magazine ที่ update รายเดือนเพื่อผู้อ่าน ทัศนะและความคิดเห็นใดๆ ของผู้ประพันธ์ หรือผู้สนับสนุน
|
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนดำเนินเคียงคู่ไปกับ ‘เวลา’ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้ เพราะมันไม่มีตัวตน เป็นแค่สิ่งที่มนุษย์สร้างมันขึ้นมาเพื่อกำหนดกิจกรรมต่างๆ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เราจับต้องกับเวลาได้ก็คือ “นาฬิกา” สักเรือนใช่ไหมล่ะค่ะ หลายๆ คนคงสวมนาฬิกาข้อมือตลอด แล้ววิวัฒนาการของมันกว่าจะมาเป็นแบบที่คุณสวมใส่กันอยู่นี้เป็นยังไงนะ?? เดือนนี้เราจะพาคุณนั่งไทม์แมชชีนกับไปดูวิวัฒนาการของนาฬิกาข้อมือกันค่ะ
|
นาฬิกาข้อมือพัฒนามาจากสปริงนาฬิกาแบบพกพา ซึ่งพบครั้งแรกในศตวรรษที่ 15 ทางยุโรป นาฬิกาแบบพกพาทำขึ้นมาโดยการประดิษฐ์เมนสปริง ช่างนาฬิกาชาวนูเรมเบิร์ก ชื่อปีเตอร์ เฮนเลน (หรือ เฮเล) (ปี ค.ศ.1485-1542) มักถูกเรียกว่าเป็นนักประดิษฐ์นาฬิกา เขาเป็นหนึ่งในช่างฝีมือชาวเยอรมันคนแรกที่ทำ "clock-watches" เป็นนาฬิกาประดับสวมใส่เป็นจี้ซึ่งเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนร่างกาย โดยผูกติดกับเสื้อผ้าหรือใช้คล้องโซ่ห้อยคอ ก่อนหน้านี้มีเพียงแค่เข็มชั่งโมงเท่านั้น หน้าปัดไม่มีกระจกปิด แต่มีฝาทองเหลืองพับเปิดปิดได้ หลังๆก็เริ่มทำเป็นรูปร่างประหลาดๆ เช่น ดาว ดอกไม้ ฯลฯ นาฬิกา "clock-watches" นี้เน้นแค่การดีไซน์รูปร่างเท่านั้น ไม่เน้นความแม่นยำเรื่องเวลาเท่าใดนัก |
พอต้นศตวรรษที่ 16 นาฬิกาก็ได้กลับมานิยมกันใหม่ เมื่อพระนางเจ้าอลิซเบ็ธที่ 1 ได้รับนาฬิกาข้อมือจากเจ้าชายโรเบิร์ต ในปี 1571 นาฬิกาข้อมือจึงกลายเป็นที่นิยมของเหล่าหญิงสาว ในขณะที่ผู้ชายจะใช้นาฬิกาพกพาจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว |
ภายหลังสักประมาณปลายศตวรรษที่ 19 เริ่มมีบริษัทผลิตนาฬิกาข้อมือใช้ในทางทหารชื่อบริษัท Mappin & Webb ต่อมานาฬิกาแบบพกพาก็เพิ่มสายหนังเข้ามา โดยมีบริษัท Swiss ที่ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบนาฬิกาข้อมือในปี 1903 ส่วนวิลส์ดอร์ฟ และเดวิสน้องเขยของเขาก็ร่วมหุ้นธุรกิจผลิตนาฬิกาคุณภาพในราคาที่สามารถซื้อกันได้ในปี 1905 ซึ่งต่อมาก็เปลี่ยนไปอยู่ภายใต้ชื่อบริษัท Rolex นั่น! บางคนถึงกับร้องอ๋อเลยทีเดียว |
ต่อไปมาดูระบบกลไกต่างๆ ของนาฬิกากันบ้างค่ะ มีกี่แบบนา... ไปดูกันเล้ย!
http://4.bp.blogspot.com/_h4zyBesvoJs/S3tvMWlx4qI/AAAAAAAAACs/T4IZd4ztdcs/s320/Watch+10.jpg
- นาฬิกาไขลาน หรือไขลานด้วยมือ (Manual Winding Watch) ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีใช้กันมาแต่ดั้งเดิมโดยอาศัยการไขลานเพื่อดึงให้สปริงลานดึงขึ้น และเมื่อสปริงลานตัวนี้คลายตัว ก็เสมือนการถ่ายโอนพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนๆฟันเฟืองต่างๆของกลไกและทำให้นาฬิกาทำงาน
http://www.rianthong.com/images_products_type/8062007171458.jpg
- Automatic Winding Watch (Self-winding watch) คือนาฬิกาออโตเมติก หรือนาฬิกาไขลานอัตโนมัติ หรือเรียกง่ายๆว่าไขลานและทำงานได้ด้วยตัวเอง นาฬิกาในกลุ่มนี้จะมีตัวโรเตอร์ (Rotor) คอยเหวี่ยงขึ้นลานให้ ขณะที่เราสวมใส่นาฬิกาไว้บนข้อมือตลอด โดยตัวโรเตอร์จะเคลื่อนที่โดยน้ำหนักของตัวเอง หรือ อยู่ในเครื่องหมุนหรือตู้ไขลานนาฬิกา (Watch winder) ซึ่งแรงเหวี่ยงจากข้อมือและตู้ไขลานจะช่วยให้โรเตอร์ทำงานตลอดส่งผลให้เกิดการขึ้นลานตลอด นาฬิกาจึงสามารถเดินได้ตลอดเวลา แต่หากไม่ได้ใส่ ลานก็จะไม่เดิน และจุดสังเกตของนาฬิกากลุ่มนี้ตัวเรือนเบาๆก็จะได้ยินเสียงโรเตอร์สั่นและหมุนดังเป็นเสียงกิ๊กเบาๆ
ระบบมหัศจรรย์นี้คิดค้นโดย อับราฮัมหลุยส์ แพรีเลด์(Abraham Louisperrelet) ในศตวรรษที่ 18 หรือปี 1770 ซึ่งต่อมา บริเกต์ (Breguet) เรียกระบบไขลานด้วยตัวเองนี้ว่า เพอร์เพ็ทช่วล (perpetuelle) หรือที่เราคุ้นกันในรูปศัพท์ perpetual ในปัจจุบัน
Quartz watches นาฬิกาควอตซ์ หรือนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ คือนาฬิกาที่ต้องใช้แบตเตอรี่หรือถ่านช่วยในการทำงานนั่นเอง นาฬิกากลุ่มนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เป็นตัวหมุนเข็มนาฬิกาให้เดินบอกเวลา หรือแสดงเวลาผ่านระบบตัวเลขดิจิตอลบนหน้าปัดแบบ LCD หรือ LED ซึ่งจะใช้พลังงานไฟฟ้าบางส่วนส่งผ่านผลึกควอตซ์แล้วรับสัญญาณความถี่กลับออกมาให้ไมโครเซสเซอร์ประเมินผลออกมาเป็นเวลา และควบคุมการเดินของเข็มอีกทอดหนึ่ง
นาฬิกาควอตซ์เรือนแรก พ.ศ. 2470 เครื่องต้นแบบมีความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 10 วินาทีใน 1 ปีรุ่นหลัง ๆ คลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 วินาทีใน 3 ปี ทำงานโดยวัดการสั่นของผลึกแร่ควอร์ตซ์ที่เกิดจากการกระตุ้นของกระแสไฟฟ้า
http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=375943
ในปี ค.ศ.1929 Warren Morrison ได้ประดิษฐ์ นาฬิกาควอตซ์ ขึ้นที่เป็น นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาประเภทนี้เที่ยงตรงมาก และต่อมาในปี ค.ศ.1980 เป็นช่วงเวลาที่เริ่มนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ ก็มีการประดิษฐ์ นาฬิกาโดยใช้ชิป ( chip ) เป็นส่วนประกอบเพิ่มเติมในกลไกของนาฬิกา ซึ่งนอกจากจะบอกเวลาแล้วยังสามารถเก็บข้อมูลที่จำเป็น และสามารถใช้เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย หลังจากนั้นเทคโนโลยีในด้านการประดิษฐ์นาฬิกาได้ก้าวหน้าเรื่อยมา จนกระทั่งทุกวันนี้เรามีนาฬิกาคอมพิวเตอร์ใช้กันแล้ว
นอกจากระบบภายในของนาฬิกาแล้วที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือหน้าปัดค่ะ ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ 3 รูปแบบ คือ แบบ Analog เป็นแบบเบสิคๆเลยที่ประกอบไปด้วยเข็มชั่วโมงหรือเข็มสั้น เข็มนาทีหรือเข็มยาว และเข็มวินาที
ถัดมาเป็นแบบ Digital ซึ่งเรือนแรกเป็นนาฬิกาแบบพกพาระบบกลไก ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ต่อมาในปี 1920 ก็มีนาฬิกาข้อมือดิจิตอลระบบกลไกเรือนแรกเกิดขึ้น!
ยุคแรกของหน้าจอดิจิตอล LED เริ่มต้นเมื่อปี 1970 โดยบริษัท Pulsar เป็นนาฬิกาที่แสดงเป็นตัวเลขดิจิตอล LED สีแดง ซึ่งในปี 1975 มีราคาแพงมากอยู่ที่ 20$ ผู้บริโภคทั่วๆไปก็ไม่ซื้อกัน จนต้องลดมาเหลือ 10$ ทำให้บริษัทขาดทุนไป 6 ล้านดอลฯ! จึงขายแบรนด์ให้กับบริษัท Seiko
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/1e/PulsarLED.jpg/220px-PulsarLED.jpg
นาฬิกาแบบดิจิตอลนั้นก็ได้มีการพัฒนามาเรื่อยๆ เป็นแบบบอกเวลาชั่วโมง นาที วินาที แม้กระทั่งวันเดือนปี ราคาก็เริ่มถูกลง แถมยังมีหลากหลายรูปแบบอีกต่างหาก แบบสุดท้ายคือแบบเรืองแสง ที่เราสามารถดูนาฬิกาในที่มืดได้ เริ่มมีในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ซึ่งมีส่วนประกอบของเรเดียมและตริเตียมให้เรืองแสงบริเวณขีดบอกชั่วโมง ซึ่งนิยมใช้กับนาฬิกา Analog
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/09/Tritium-watch.jpg/170px-Tritium-watch.jpg
ในปัจจุบันนี้นาฬิกาข้อมือก็มีหลากหลายดีไซน์มากขึ้น เปลี่ยนแปลงไปตามแฟชั่น การใช้งานต่างๆ ใครที่ยังไม่มีนาฬิกาข้อมือไว้ประดับบนข้อแขน ลองมองหานาฬิกาที่เหมาะกับเราสักเรือนดูสิคะ หรือให้เป็นของขวัญกับเพื่อน กับคนรักก็เก๋ไม่เบาล่ะค่ะ
เฮ้ออ~ หมดเวลาของเมลอีกแล้ว คราวหน้ายังมีเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านกันอีกนะคะ คอยติดตามกันได้ที่ Bareo & isyss ที่นี่ที่เดียวเล้ยย วันนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วมาพบกันใหม่น้าค้า ~
|