โดยปกติแล้วขั้นตอนมาตราฐานของการออกแบบและตกแต่งภายใน มีดังต่อไปนี้
1. ขั้นการให้คำปรึกษาและขอข้อมูลสำหรับการออกแบบของโครงการจากเจ้าของโครงการ เพื่อทำการสรุปความต้องการขั้นต้นของลูกค้า หรือ เจ้าของโครงการ โดยในขั้นตอนนี้อาจจะมีการพบปะพูดคุยระหว่างนักออกแบบและลูกค้ามากกว่า 1 ครั้งเพื่อปรับความเข้าใจต่างๆ ให้ตรงกัน และบ่อยครั้งที่ลูกค้าใช้ การพูดคุยในขั้นตอนนี้เพื่อพิจารณาตัวนักออกแบบตกแต่งภายใน ว่าสามารถทำงานด้วยกันได้หรือไม่น่าเชื่อถือเพียงใด และมีความสามารถหรือรูปแบบของงานตรงกับความต้องการของลูกค้าหรือไม่ และในทำนองเดียวกันนักออกแบบตกแต่งภายใน ส่วนใหญ่ก็จะใช้ขั้นตอนนี้ ในการพิจารณาว่าจะรับงานของลูกค้ารายนั้นหรือไม่ ด้วยเช่นกันในขั้นตอนนี้ นักออกแบบตกแต่งภายใน บางท่านอาจจะคิดค่าบริการบ้าง (แต่ไม่มากนัก) แต่โดยส่วนใหญ่มักจะไม่คิดค่าบริการแต่อย่างใดดังนั้นลูกค้า ควรจะสอบถามก่อนว่าจะต้องเสีย
ค่าใช้จ่ายในการขอคำปรึกษานี้หรือไม่ ่เพื่อจะได้ไมต้องมีปัญหากันภายหลัง
2. ขั้นการวางผังและนำเสนอแนวความคิดในการออกแบบขั้นต้น (Lay-out and Conceptual Design) ขั้นตอนนี้นักออกแบบตกแต่งภายใน จะทำการวางแนวความคิดในการออกแบบคร่าวๆให้กับลูกค้าทำการ พิจารณารูปแบบการออกแบบ (Style) รวมทั้งแบ่งพื้นที่ ใช้สอยคร่าวๆ (Zoning) หรือวางผังพื้นที่ใช้สอย อย่างง่ายๆ (Lay-out Plan) เพื่อให้ลูกค้าทำการพิจารณาการแบ่งพื้นที่ทั้งหมดว่าตรงกับความต้องการใช้งานจริง ของลูกค้าหรือไม่ ทั้งนี้ นักออกแบบตกแต่งภายในส่วนใหญ่ มักจะนำเอาหนังสือหรือนิตยสารเกี่ยวกับการ ตกแต่งภายในต่างๆ มากนำเสนอให้กับลูกค้า เพื่อช่วยในการตัดสินใจอีกด้วย
ดังนั้น ในขั้นตอนนี้ลูกค้าจะได้ทราบแนวทางและรูปแบบ คร่าวๆ ของงานออกแบบ ที่จะได้รับการพัฒนาในขั้นตอนต่อไป
3. ขั้นการพัฒนาแบบร่างขั้นต้น ขั้นตอนนี้ นักออกแบบตกแต่งภายในจะนำแนวความคิดในการ
ออกแบบและผังพื้นที่ในการใช้สอยที่ได้ผ่านการอนุมัติ จากลูกค้าแล้วมาพัฒนาเป็นแบบร่างอย่างง่ายๆ
เพื่อให้ ลูกค้าเกิดจินตภาพ ได้ว่างานออกแบบทั้งหมดจะออกมาเป็นอย่างไร โดยนักออกแบบจะทำการ
นำเสนอเป็นภาพ Sketch หรือ Perspective หรือ Model ก็ได้
เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว ลูกค้าจะเริ่มเข้าใจและมองเห็น หน้าตาของงานออกแบบ ที่นักออกแบบจะพัฒนาในขั้นตอนต่อไป และลูกค้าอาจจะขอปรับแบบได้ แต่ไม่ควรจะแก้ไขแบบจนผิดไปจาก แนวความคิดใน การออกแบบและผังที่ได้วางเอาไว้ เพราะจะทำให้นักออกแบบ ต้องกลับไป เริ่มต้นใหม่ทั้งหมดนอกจากนี้ บริษัทออกแบบหลายแห่งมักจะกำหนดจำนวนครั้งใน การขอแก้ไขแบบในขั้นตอนนี้ไว้ไม่เกิน 2 ครั้ง เพื่อให้งานออกแบบไม่ยืดเยื้อ และแล้วเสร็จในระยะเวลาที่กำหนด
4. ขั้นการพัฒนาแบบร่างขั้นสุดท้าย ในขั้นตอนนี้ นักออกแบบตกแต่งภายในจะทำการพัฒนาแบบ
ต่อจากแบบร่างขั้นต้นโดยนักออกแบบมักจะนำเสนอเป็นภาพ Perspective ที่เสมือนจริงหรือ Model ที่ ใกล้เคียงกับงานออกแบบที่จะออกมามากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าสามารถจินตนาการงานทั้งหมดได้ชัดเจน และในขั้นตอนนี้ลูกค้าอาจจะขอแก้ไขแบบร่างในส่วนรายละเอียดได้บ้าง แต่ไม่มากนักเนื่องจากแบบในขั้นตอนนี้มักจะได้รับการอนุมัติจากแบบร่างขั้นต้นเกือบทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ดี หากลูกค้าต้องการทำการแก้ไขส่วนหลักๆ ในแบบร่างในขั้นตอนนี้ นักออกแบบหรือบริษัทออกแบบ ตกแต่งภายในมักจะขอคิดค่าบริการเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการเพิ่มงานหรือจัดว่าเป็นงานออกแบบใหม่เลยทีเดียว
1 | 2 | 3 Next
|