We wish you a Merry Christmas
We wish you a Merry Christmas
We wish you a Merry Christmas
And a Happy New Year

      Ho Ho Ho ….. สวัสดีเพื่อนๆชาวบาริโอทุกๆคน และขอต้อนรับเข้าสู่เดือนธันวาคม 2557 เดือนส่งท้ายเทศกาลแห่งความสุขที่หลายๆคนรอคอยครับ  เริ่มต้นด้วยเพลง We Wish You a Merry Christmas คงเดาไม่ยากใช่ไหมว่าบทความนี้บียอนจะพูดถึงเรื่องราวอะไร  ก็คงต้องเป็นเรื่องราวเทศกาลคริสต์มาสที่จะมาถึงนี้ แหละครับ ^^

      เมื่อพูดถึงวันคริสต์มาส ชาวบาริโอนึกถึงอะไรกันบ้าง???  ต้นคริสต์มาส ?  ซานตาครอส ? ของขวัญ? กวางเรนเดียร์ ? ปาร์ตี้ ? ครอบครัว ? คนรัก?  เด็กๆ ? ของกินแสนอร่อย ? คำอวยพร ? สโนว์แมน ? หรือ หิมะ ????  ^_______^     หลายๆสิ่งที่พูดมาก็ล้วนแล้วแต่ที่จะมอบความสุขให้กับเรา แต่บียอนว่าอย่างบ้านเราคงต้องพับเก็บเรื่องหิมะเอาไว้ก่อน 555  จริงไหม??   สำหรับบียอนแล้วสิ่งแรกที่แว๊บ!! เข้ามาในหัวเลยคือ ต้นคริสต์มาสและซานตาครอส เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ที่ดูโดดเด่น เห็นภาพมากที่สุด แต่วันนี้บียอนจะมาพูดถึงเรื่องของต้นคริสต์มาสครับ

      เพื่อนๆเคยสงสัยไหมว่า เอ๊ะ!! ทำไมเราถึงต้องมีต้นคริสต์มาส ต้นที่มีสีเขียวๆ รูปทรงแหลมๆ ประดับไฟและของตกแต่งดูสวยงามเต็มไปหมด ถ้ายังไม่ทราบวันนี้บียอนขอไขข้อข้องใจของตัวบียอนเองและหลายๆคนที่อยากจะทราบว่า ทำไมเราถึงมีต้นคริสต์มาสต์ ???

      สัญลักษณ์ประจำวันคริสต์มาสที่สำคัญก็คือต้นสนวันคริสต์มาส ซึ่งต้นไม้นี้เป็นสัญลักษณ์ของต้นไม้ต้องห้ามที่อยู่ในสวรรค์สมัยอาดัมกับอีฟที่ทั้งสองคนไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า

     ในราวศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์มีการแสดงละครที่แสดงถึงความหมายของต้นคริสต์มาสโดยมีต้นไม้ต้นหนึ่งวางไว้ตรงกลางฉากซึ่งหมายถึงต้นไม้ในสวนสวรรค์ต้นนี้นั่นเอง ต้นไม้ที่ใช้ในการแสดงก็มักจะเป็นต้นสนเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาได้ง่ายในประเทศเหล่านั้นและมีการแสดงต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนถึงประมาณศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชในหลายประเทศได้ห้ามไม่ให้มีการแสดง เนื่องจากการแสดงตอนหลังๆนั้นกลายเป็นการเล่นเหมือนลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมืองและศาสนา จากนั้นชาวบ้านก็เริ่มนำเอาต้นไม้มาประดับไว้ในบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและมีการประดับตกแต่งให้สวยงามอย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้

      นอกจากนั้น ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่งคือ มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปพีระมิด ไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดที่ยอดพีระมิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันนี้ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้ เป็นรูปทรงพีระมิด นี่เป็นที่มาของประเพณีปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่สุดยอด ประเพณีนี้ เป็นที่นิยมชมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาส มีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ ก็ยังนิยมทำกันอยู่ เพราะเห็นว่า มีความหมายถึงพระเยซู ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิต  ที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึง นิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า และนอกจากนั้นยังหมายถึง ความสว่างของพระองค์ เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืด ทั้งยังหมายถึง ความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้นั้น ถือเป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนี้ครับ

คริสต์มาส หมายถึง "พิธีมิสซาของพระคริสต์"  จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลอง การประสูติของพระเยซู เป็นวันหยุดทางศาสนาและวัฒนธรรม ประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจัดการเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคม

คริสต์มาส กับ Xmas ต่างกันอย่างไร ?

      คำว่าคริสต์มาสนั้นมาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า เพราะการร่วมพิธีมิสซา เป็นประเพณีสำคัญที่สุด ที่ชาวคริสต์ถือปฏิบัติกันในวันคริสต์มาส คำว่า Christes Maesse พบครั้งแรกในเอกสารโบราณ เป็นภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคำนี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่าคริสต์มาส

      ส่วนคำว่า Xmas ก็มาจากอักษรตัวแรกของชื่อพระเยซูคริสต์ในภาษากรีก ที่มีชื่อว่า “Xristos” โดยคำว่า Xmas เริ่มใช้ครั้งแรกในยุโรปเมื่อศตวรรษที่ 15 และคำอวยพรในวันนี้คือ Merry Christmas ซึ่งคำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบในจิตใจ นั้นเองครับ

ทำไมถึงเทศกาลคริสต์มาสทีไรต้องใช้แต่สีแดง – เขียว??

      จริงๆแล้วนอกจากสี แดง เขียว ที่เราคุ้นชินแล้ว เทศกาลนี้ก็ยังมีสีอื่นๆที่ล้วนแล้วแต่เป็นสัญลักษณ์และมีความหมายที่แตกต่างกันไป สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าแต่ละสีมีความหมายอย่างไร วันนี้บียอนมีคำตอบมาให้ครับ

สีแดง : เป็นสีที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นมากที่สุดและเป็นสีของเดือนธันวาคม ซึ่งตามสัญลักษณ์ตามศาสนานั้น หมายถึง ไฟ, ความโอบอ้อมอารี, เลือดของพระเยซู ซึ่งทรงหลั่งในการถูกตรึงบนไม้กางเขน

สีเขียว :เป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ, ความอ่อนเยาว์และความหวังที่จะมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งก็เปรียบได้ว่าคริสต์มาสนั้นเป็นเสมือนเทศกาลแห่งความหวังด้วย

สีขาว : คือสัญลักษณ์ทางศาสนา ซึ่งได้แก่ แสงสว่าง, ความบริสุทธิ์, ความสุขและความรุ่งเรือง สีขาวคือสีที่มักจะเห็นบนเสื้อคลุมของนางฟ้าคริสต์มาส, เคราของซานตาคลอส, ริมชายเสื้อสีขาวของชุดซานตาคลอส, หิมะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและสะเก็ดของหิมะที่โปรยปรายลงมาในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

สีทอง :เป็นสัญลักษณ์ของแสงอาทิตย์และความสว่างไสว นอกจากนี้ยังเป็นสีของดาวคริสต์มาส,เครื่องประดับ,แสงเทียน,แสงจากหลอดไฟ

      และสำหรับใครที่กำลังจะหาต้นคริสต์มาสสวยๆ มาประดับตกแต่งบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์ที่จะถึงนี้ แต่รู้สึกเบื่อกับต้นคริสต์มาสรูปแบบเดิมแล้วละก็  วันนี้บียอนเลยหยิบไอเดียแปลกๆ แหวกๆ ของการครีเอทต้นคริสต์มาส มาให้แฟนชาวบาริโอได้ดูเป็นแรงบันดาลใจ หรืออาจจะนำไปทำตามดูก็ได้นะครับ ไปเริ่มกันเลยที่ไอเดียแรก

ต้นคริสต์มาสจากสมุดเล่มเก่า

      ไอเดียสุดบรรเจิดที่ใช้กระดาษมาแปะเรียงกันให้ได้รูปสามเหลี่ยม จากนั้น ใช้เชือกล้อมกระดาษ ด้านบนสุดคุณอาจจะเจาะตะปูเพื่อแขวนเชือก แต่ถ้าใครไม่อยากเจาะ บียอนแนะนำให้ใช้เชือกที่มีขนาดเล็กสักหน่อย แล้วใช้กาวสองหน้าติดกับผนังเพื่อที่ความเหนียวของกาวจะได้รับน้ำหนักเชือกไหว  ส่วนด้านล่างก็ประดับตกแต่งตามใจชอบ จะวางไฟประดับด้านล่างแล้วนำของขวัญมาวางก็ดูดีไม่น้อยเลยล่ะครับ

ต้นคริสต์มาสจากตู้เก็บของ

      ไอเดียนี้ถือเป็นไฮไลต์ที่บียอนเองรู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษ ดูแปลกตา และจัดออกมาได้ดูสวยงามเปลี่ยนต้นคริสต์เดิมๆที่ดูพลิ้วไหว ให้ดูเป็นต้นคริสต์มาสที่ดูแข็งแกร่งจากอุปกรณ์ที่จัดวาง การทำก็น่าจะไม่ยากเท่าไร เพียงแค่ต้องหาอุปกรณ์อะไรก็ได้ที่มีสีเขียวและขาว อย่างในภาพก็จะมีพวก หนังสือ กล่อง กระเป๋า แจกัน แนะนำให้จัดจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน เริ่มจากสีเขียวแล้วค่อยแซมด้วยสีขาวด้านข้าง ตอนจบอย่าลืมหาสัญลักษณ์รูปดาวมาวางด้านบนด้วยนะ จะได้ดูเป็นต้นคริสต์มาสแบบสมบูรณ์ครับ ^^

ต้นคริสต์มาสจากแผ่นไม้

      ไอเดียสุดเรียบง่าย แต่สวยสะดุดตา ด้วยแผ่นไม้ที่ตัดออกมาให้มีลักษณะเป็นต้นคริสต์มาสทาสีขาว จากนั้นนำไปวางพิงกับผนังเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่แสงไฟจากด้านหลังต้นคริสต์มาส แต่งด้วยเชิงเทียนเพิ่มความโรแมนติกให้เข้ากับบรรยากาศในช่วงเทศกาลคริสต์มาสครับ

ต้นคริสต์มาสจากบันไดพับ

      หาบันไดที่มีอยู่ในบ้าน มาประดับตกแต่งด้วยไฟประดับ เพิ่มความสวยงามด้วยสายรุ้ง หรือ ของตกแต่งห้อยให้สวยงาม แต่บียอนขอแนะนำว่าอย่าห้อยเยอะเกินไปนะครับ เพราะจะทำให้ดูรกขึ้นได้ เพิ่มการจุดเทียนให้ดูอบอุ่นยิ่งขึ้นก็ดีนะครับ

ต้นคริสต์มาสจากไฟประดับ

      ไอเดียนี้ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ หลายๆคนน่าจะเคยทำ วิธีทำก็ไม่ยากเท่าไร หาสก๊อตเทปมาแปะกับสายไฟร่างให้เป็นรูปต้นคริสต์มาส จากนั้นก็นำ ดาว หรือลูกบอลมาประดับตามแนวเส้น วางของขวัญลงบนพื้นด้านหน้าแค่นี้ก็ได้ต้นคริสต์มาสสวยๆมาประดับกันแล้ว แต่บียอนแนะนำว่าไม่เคยเสียบไฟไว้ข้ามคืนนะ ใช้เสร็จก็อย่าลืมถอดปลั๊กด้วยละเพื่อความปลอดภัยนะครับ

      เห็นไอเดียแบบนี้แล้วบียอนก็คันไม้คันมือ อยากจะทำต้นคริสต์มาสขึ้นมาบ้าง เพื่อนๆดูแล้วก็อย่าลืมลองทำต้นคริสต์มาสในสไตล์ตัวเองกันดูนะครับ หนึ่งปีมีหนึ่งครั้งเองเนอะ ลองทำกันดูบียอนคิดว่าน่าสนุกเชียวล่ะ ^^  สำหรับเรื่องราวของต้นคริสต์มาสนี้คงจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆหลายๆคนได้ศึกษากันดูนะครับ ทุกอย่างย่อมมีเรื่องราวความเป็นมา และถึงแม้เทศกาลคริสต์มาสจะไม่ใช่เทศกาลของไทยเรา แต่เราก็สามารถจัดเพื่อสร้างความสนุกสนานได้ให้กับเรา เพื่อนฝูง หรือแม้ครอบครัวเราได้ครับ สำหรับวันนี้ Merry Christmas and happy new year นะครับทุกคน สวัสดีครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก

blog.th.88db.com
th.wikipedia.org
Stories Behind the Great Traditions of Christmas โดย Ace Collins
Pinterest.com