left clusiaceae head clusiaceae2 right clusiaceae

 

 

 

 

      เมื่อพูดถึงใบชะมวง  หลายคนคงนึกถึงหมูชะมวงเลยใช่ไหมคะ  แหมม เป็นเมนูอร่อยเด็ดของหลายคน รวมทั้งคาราเมลด้วยวันนี้คาราเมลก็จะมาพูดถึงส่วนประกอบในเมนูอร่อยเลิศนี้อย่างใบชะมวง  รวมทั้งส่วนอื่นๆของต้นชะมวงอีกด้วย  ไปทำความรู้จักกับชะมวงกันเลย!

 

 

clusiaceae1

http://frynn.com/wp-content/uploads/2014/01/%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%871.jpg

 

      ชะมวง จัดอยู่ในวงศ์ CLUSIACEAE (GUTTIFERAE) เช่นเดียวกับกระทิง ติ้วเกลี้ยง ติ้วขน บุนนาค มะดัน มะพูด มังคุด รงทอง ส้มแขก และสารภี   จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นทรงพุ่มรูปกรวยคว่ำทรงสูง มีความสูงของต้นประมาณ 5-10 เมตร ลำต้นเกลี้ยงและแตกกิ่งใบตอนบนของลำต้น กิ่งย่อยผิวเรียบ เปลือกลำต้นเป็นสีดำน้ำตาลมีลักษณะขรุขระ แตกเป็นสะเก็ด

 

 

 

 

clusiaceae2

http://frynn.com/wp-content/plugins/bj-lazy-load/thumb.php?src=http%3A%2F%2Ffrynn.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2014%2F01%2F%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%87.jpg&w=570

 

      ส่วนเปลือกด้านในเป็นสีชมพูถึงแดง มีน้ำยางสีเหลืองขุ่นไหลเยิ้มออกมาจากเปลือกต้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและการตอนกิ่ง พบทั่วไปตามป่าชื้นที่ระดับต่ำ เป็นไม้ที่ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี  ส่วนใหญ่พบที่ภาคใต้  และภาคตะวันออกอย่างจังหวัดจันทบุรีและระยอง

      รู้กันไหมคะว่าทุกส่วนของต้นชะมวงนั้นมีประโยชน์นานัปการ  ส่วนประกอบที่มีประโยชน์  ได้แก่  ใบ  ยอดอ่อน  ดอก  และลูกอ่อน  ซึ่งจะให้สรรพคุณแตกต่างกันไปไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าส่วนใดมีสรรพคุณอย่างไรบ้าง

 

 

 

clusiaceae3 clusiaceae4

 

      ยอดอ่อนและใบอ่อนซึ่งมีรสเปรี้ยว ใช้แก้ไข้ กัดฟอกเสมหะ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิต แก้ไอ แก้กระหายน้ำ  ส่วนรากก็สามารถใช้แก้ไข้ แก้ร้อนใน ถอนพิษ แก้บิด ลดเสมหะ  ด้านใบใช้เป็นยาระบายท้อง แก้ไข้ กัดฟอก กัดฟอกเสมหะ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิต แก้ไอ แก้กระหายน้ำ

 

 

ชะมวงต้านมะเร็ง

 

 

clusiaceae5

 

      รู้กันหรือเปล่าคะว่านอกจากชะมวงจะมีสรรพคุณแก้ไข้ต่างๆแล้ว  ชะมวงยังออกฤทธิ์ต้านมะเร็งและต้านแบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหาร  (Helicobacter  pylori)  อีกด้วย  ซึ่งค้นพบสารนี้เมื่อปีที่แล้วนี่เองค่ะ ที่สำคัญค้นพบครั้งแรกในโลกโดยนักวิจัยชาวไทยค่ะ  แหม~ คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกนะคะ ><ซึ่งสารที่ได้จากใบชะมวงนี้เราตั้งชื่อว่า“ชะมวงโอน(Chamuangone)”  เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการค้นพบที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

 

 

 

clusiaceae6

 

 

 

 

      จากการวิจัยใบชะมวงนั้นถือว่าเป็นพืชที่ออกฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหารได้ดีที่สุด  (จากพืชทดลอง 22 ชนิด)  ทั้งยังศึกษาวิจัยนำไปใช้ยับยั้งเชื้อโปรโตซัว  Leishmania  Major  ได้อีกด้วย  ซึ่งเชื้อนี้เคยแพร่ระบาดในภาคใต้ของเรา  เขาจึงนำสาร “ชะมวงโอน” ไปทดสอบกับเซลล์มะเร็งปอดและเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว  ซึ่งผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ  และตอนนี้ก็กำลังพัฒนาเป็นยาต้านมะเร็งที่ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น  ในอนาคตเชื่อว่าประเทศไทยของเราคงได้มียาต้านมะเร็งกันอย่างแน่นอน

 

      มาถึงสิ่งที่หลายคนรอคอยแล้วล่ะค่ะ  ใบชะมวงซึ่งมีรสเปรี้ยว นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง ใบชะมวงไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะในภาคใต้เท่านั้น ทางภาคตะวันออก เช่น ในจังหวัดจันทบุรีและระยอง ก็มีอาหารพื้นบ้านเลื่องชื่อ คือ แกงหมูชะมวง  และคาราเมลได้เอาสูตรที่นำเอาใบชะมวงมาทำอาหารมาฝากด้วยค่ะ  วันนี้เสนอเมนู  กระดูกหมูต้มใบชะมวง

 

 

 

 

clusiaceae7

 

 

      อาหารชามนี้ ประโยชน์หลักๆ ก็คือโปรตีนที่ได้จากกระดูกหมู แต่ถ้าเราเลือกกระดูกหมูอ่อนก็จะได้ประโยชน์ในด้านที่ว่าเราสามารถจะได้แคลเซียมจากกระดูกอ่อน นำไปเสริมกระดูกของเราเองด้วย สำหรับเมนูนี้เด็กๆ สามารถรับประทานได้เนื่องจากรสชาติไม่จัดจ้านมากนัก เด็กก็จะได้รับแคลเซียมในการสร้างเสริมความเจริญเติบโต อาจจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นสูงเร็วขึ้นแล้วกระดูกมีความหนาแน่นมากขึ้น สำหรับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ การได้แคลเซียมก็จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน เพราะว่าถึงจุดหนึ่ง คนเราก็จะมีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะฉะนั้นอาหารเมนูนี้ก็จะช่วยเสริมสร้างกระดูกได้เป็นอย่างดี

 

ส่วนประกอบเครื่องปรุงกระดูกหมูต้มใบชะมวง

 

- ใบชะมวงหั่น 8 ใบ
- กระดูกหมู 400 กรัม
- หอมแดงทุบ 3 หัว
- ข่าแว่น 1½ ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ทุบ 2 ต้น
- เกลือ 2 ช้อนชา
- น้ำสะอาด 1 ถ้วยชาม

 

 

วิธีทำกระดูกหมูต้มใบชะมวง

 

1. เริ่มจากนำใบชะมวงที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด ฉีกเอาเส้นกลางใบออก หั่นหรือฉีกให้เป็นชิ้นเล็ก
2. ตั้งหม้อแกง ใส่น้ำต้มจนน้ำเดือด แล้วใส่กระดูกหมู ต้มจนกระดูกหมูสุก
3. ใส่ ข่า ตะไคร้ หอมแดง และเกลือ
4. เคี่ยวจนกระดูกหมูเปื่อย
5. ต้องระวังไม่ให้น้ำเดือดจัด เดี๋ยวน้ำแกงจะขุ่น
6. ขณะเดียวกันถ้ามีฟอง ก็หมั่นตักฟองออกทิ้ง ก็จะได้น้ำซุปใสน่ารับประทาน
7. เมื่อกระดูกหมูเปื่อยได้ที่ ใส่ใบชะมวงลงไป แล้วเคี่ยวต่ออีกระยะหนึ่ง
8. ตักชิมดู หากน้ำซุปออกรสเปรี้ยวดีแล้ว ยกลงตักเสิร์ฟ

 

จาก....โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ


 

 

     เมนูนี้สำหรับ 4 ที่  ลองทำทานกันในครอบครัวคงดีไม่น้อยเลยล่ะค่ะ  ยังมีเมนูอื่นๆที่เราสามารถนำเอาใบชะมวงมาเป็นส่วนผสมได้อีกด้วย  อาทิเช่น ใบชะมวงยำกับปลากระป๋อง  แกงหมูชะมวง  ขาหมูต้มใบชะมวง  ต้มส้มปลาเนื้ออ่อนกับยอดมะขามใบชะมวง  แกงส้มใบชะมวงปลา  ปลากระทิงผัดใบชะมวง เป็นต้น

 

     โหหหห ชะมวงมีประโยชน์เยอะมากจริงๆนะคะ  นำมาทำเป็นอาหารเพื่อให้กินง่ายอีกด้วย   รู้อย่างนี้แล้วเวลาทานอาหารที่มีใบชะมวงอย่าเพิ่งรีบเขี่ยออกนะคะ  ใบชะมวงนั้นกินง่าย  ไม่ขมแถมยังเปรี้ยวนิดๆ  พร้อมทั้งสรรพคุณช่วยชลอมะเร็งอีกด้วย  อย่างนี้ต้องรีบออกไปหาซื้อแกงหมูชะมวงของโปรดมาทานบ้างซะแล้ว  ผู้อ่านทุกท่านก็อย่าลืมมองหาอาหารที่มีใบชะมวงมาลองทานกันบ้างนะคะ เมนูอาหารอร่อยๆ ควบคู่ไปกับได้ใส่ใจสุขภาพ  ห้ามพลาดเลยนะคะ

 

 

 

 

ตอนนี้ก็หมดเวลาของคาราเมลแล้ว  กลับมาพบกับเรื่องดีๆ มีสาระกันได้อีกในเดือนหน้า  ที่ Bareo&issysที่นี่ที่เดียวเลยค้า

 

 

 Contact us / Join us

ออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน Interior design Thailand

www.bareo-isyss.com เป็น web magazine ที่ update รายเดือนเพื่อผู้อ่าน ทัศนะและความคิดเห็นใดๆ ของผู้ประพันธ์ หรือผู้สนับสนุน
ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะอันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดแจ้ง หรือไม่แน่ชัดใน www.bareo-isyss.com มิได้มาจาก บริษัท บาริโอ จำกัด และบริษัทในเครือแต่อย่างใด
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

Bareo-Isyss รับออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน Interior design Thailand