home HeadAndo
HeadAndo1
.

 

ANDO

สวัสดีค่ะ แหม ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะคะ ทุกคนสบายดีกันรึเปล่าเอ่ย ช่วงนี้อากาศร้อน (ร้อนแบบร้อนมากๆ ร้อนสุดๆ เลยอ่ะนะ...) ระวังเป็นลมแดด หวัดแดดกันด้วยนะคะ แฮ่!! และแน่นอนค่ะ...กลับมาวันนี้ มีรึเราจะกลับมามือเปล่า... วันนี้ เรามีภาพสวยๆ มาฝากให้ดูกันให้หายร้อนไปเลยค่ะ
โอ้...
ภาพข้างบนเมื่อกี้เป็นภาพของสถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่า “Church of Light” ค่ะบอกตามตรงโดยส่วนตัวแล้วรู้สึก ชอบโบสถ์หลังนี้มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่มาหรือสไตล์สุดเก๋ของโบสถ์หลังนี้ก็เอาใจเราไปหมดหน้าตักเลยล่ะค่ะ

โบสถ์หลังนี้จริงๆ แล้วเป็นโบสถ์ที่ เอ่อ เอาชัดๆ เลยก็...พื้นที่ก็แคบ งบก็แทบไม่มี...ค่ะ และเพราะอุปสรรคเร่ื่องงบ ประมาณเนี่ยล่ะค่ะทำให้ไม่สามารถที่จะซื้อรูปปั้นพระเยซูเจ้าและไม้กางเขนมาวางได้ผู้ออกแบบโบสถ์หลังนี้จึงออกแบบ ให้กำแพงโบสถ์เจาะเป็นรูปไม้กางเขนไปซะเลย และความคิดแบบนี้ก็ออกมาดูดีจนน่าขนลุกค่ะ...ขนลุกจริงๆ นะคะ เวลาที่แสงผ่านช่องรูปไม้กางเขนเข้ามา สาดส่องมาถึงผู้คนที่อยู่ภายใน ให้ความรู้สึกขลังมากจริงๆ ค่ะ...

แหม พูดมาถึงตรงนี้เริ่มอยากจะรู้จักผู้ออกแบบโบสถ์หลังนี้กันรึยังคะ? แต่ไม่ว่าจะอยากรู้หรือไม่อยากรู้เราก็จะขอพูดถึง เขาล่ะ เพราะจริงๆ แล้ว “เขา” เนี่ยล่ะค่ะคือหัวข้อหลักที่เราอยากจะมานำเสนอในวันนี้ค่ะคงมีบางคนเคยได้ยินชื่อนี้กันมา บ้างแล้วนะคะ...
Tadao Ando (ทาดาโอะ อันโดะ)

 

 

1 2
.

 

โอ้...
ภาพข้างบนเมื่อกี้เป็นภาพของสถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่า “Church of Light” ค่ะบอกตามตรงโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบ โบสถ์หลังนี้มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่มาหรือสไตล์สุดเก๋ของโบสถ์หลังนี้ก็เอาใจเราไปหมดหน้าตักเลยล่ะค่ะ

โบสถ์หลังนี้จริงๆ แล้วเป็นโบสถ์ที่ เอ่อ เอาชัดๆ เลยก็...พื้นที่ก็แคบ งบก็แทบไม่มี...ค่ะ และเพราะอุปสรรคเร่ื่องงบประมาณ เนี่ยล่ะค่ะทำให้ไม่สามารถที่จะซื้อรูปปั้นพระเยซูเจ้าและไม้กางเขนมาวางได้ผู้ออกแบบโบสถ์หลังนี้จึงออกแบบให้กำแพง โบสถ์เจาะเป็นรูปไม้กางเขนไปซะเลย และความคิดแบบนี้ก็ออกมาดูดีจนน่าขนลุกค่ะ...ขนลุกจริงๆ นะคะ เวลาที่แสงผ่าน ช่องรูปไม้กางเขนเข้ามา สาดส่องมาถึงผู้คนที่อยู่ภายใน ให้ความรู้สึกขลังมากจริงๆ ค่ะ...

แหม พูดมาถึงตรงนี้เริ่มอยากจะรู้จักผู้ออกแบบโบสถ์หลังนี้กันรึยังคะ? แต่ไม่ว่าจะอยากรู้หรือไม่อยากรู้เราก็จะขอพูดถึง เขาล่ะ เพราะจริงๆ แล้ว “เขา” เนี่ยล่ะค่ะคือหัวข้อหลักที่เราอยากจะมานำเสนอในวันนี้ค่ะคงมีบางคนเคยได้ยินชื่อนี้กันมา บ้างแล้วนะคะ...

 

 

 

 

 

 

 

Tadao Ando (ทาดาโอะ อันโดะ)

เขาคนนี้เป็นเจ้าของรางวัลสาขาการออกแบบมากมายค่ะ อาทิ รางวัล Pritzker Architecture Prize ปี 1995, Denmark’s Carlsberg Architectural Prize ไปจนถึงเหรียญเกียรติคุณอีกมากมายจากหลายประเทศ
ตั้งแต่ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ สหรัฐอเมริกาไปจนถึงอังกฤษ ทั้งยังได้รับเชิญให้ไปเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย
ชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก

 

 

 

 

 

Note

3

 

4

 

 

 

 

ฟังดูแล้วเขาเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล
เลยนะคะแต่ถ้าลองมองย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงหลังสงคราม โลกครั้งที่สอง...ช่วงวัยเด็กของเขานั่นเองค่ะ ทาดาโอะ อันโดะ เกิดและโตที่เมืองโอซาก้า เมืองที่เป็น ศุนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมของประเทศทำให้เขา คุ้นชินกับชีวิตที่มีระเบียบวินัยความขยันอดทนและความรับ ผิดชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แต่สิ่งที่เขาแตกต่างจากคนญี่ปุ่นทั่วไปก็คือเขาเป็นคนเขตคัน ไซค่ะ...อ้าว แล้วยังไงล่ะ? จริงๆแล้วโดยวัฒนธรรมการดำรงชีวิตแล้วชาวคันไซจะมี ลักษณเด่นในการแสดงอารมณ์ออกมาอย่างตรงไปตรงมา และมีความกระตือรือล้นมากกว่าชาวโตเกียวค่ะ

.

 

ในวัยเด็กของทาดาโอะ บ้านของเขาสร้างจากไม้และกระดาษ หลังจากกลับจากโรงเรียนก็วิ่งเล่นในนาข้าวเรียกได้ว่าเขา ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ ค่ะ พอโตขึ้นมาหน่อยเขาก็สนใจในการทำโมเดลไม้พวกเรือและเครื่องบิน เขาก็เลยไปทำงาน
เป็นลูกมือของช่างไม้แถวบ้าน ทำให้เขาเป็นคนที่ทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบ

แต่เมื่อเขาขึ้นชั้นมัธยมปลายเขากลับ คลั่งไคล้การชกมวยมากขนาดไปสอบได้ใบประกาศรับรองการเป็นนักมวยอาชีพแต่ หลังจากเรียนจบก็ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจ...เขากลับเลือกที่จะสมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานเขียนแบบในสำนักงานสถาปนิก
แห่งหนึ่งโดยที่เขานั้นไม่มีปริญญาสักใบและอาศัยการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองซะงั้น...

เขาศึกษางานสถาปัตยกรรมโดยเขาเดินทางไปดูวัดศาลเจ้า บ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและเริ่มออกเดินทางไปต่างประเทศ หลายแห่งในยุโรป อเมริกาไปจนถึงแอฟริกาเพื่อดูสถาปัตยกรรมเลื่องชื่ออีกมากมายรวมไปถึงการอ่านหนังสือเกี่ยวกับ สถาปนิกชื่อดังทั่วโลก โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้น 6 ปี...

ทาดาโอะ อันโดะเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดในวัย 28 ปี พร้อมเปิดบริษัทของตัวเองในชื่อ Tadao Ando Architect & Association โดยสไตล์งานของเขานั้นจะเน้นความเป็น Modern ที่เรียบง่ายรวมถึงความกลมกลืนกับธรรมชาติก็เป็นอีก หนึ่งปัจจัยสำคัญในการออกแบบของทาดาโอะ อันโดะ

วัสดุที่เขานิยมใช้ในงานสถาปัตยกรรมของเขามีเพียง “ไม้ กระจกและคอนกรีต” ที่เน้นความเป็นตัววัสดุออกมาให้เห็น อย่างชัดเจน ภายใต้แนวคิดที่คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์บวกเข้ากับความเป็นตัวของตัวเองของ ทาดาโอะ อันโดะ ทำให้งานของเขาออกมาแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

 

5
.

 

ภาพด้านบนนี้เป็นหนึ่งในผลงานแรกๆ ของทาดาโอะ อันโดะที่มีชื่อว่า “Row House in Sumiyoshi” ค่ะ

จุดหลายจุดที่เรียงตัวกันเป็นแถวสวยงามนั้นไม่ใช่ว่าเขาออกแบบให้เจาะรูในภายหลังหรอกค่ะแต่เป็นธรรมชาติของการ หล่อคอนกรีตปกติแล้วเมื่อคอนกรีตอยู่ตัวแล้วผู้รับเหมาก่อสร้างจะเอาโครงที่ใช้หล่อออกแล้วจากนั้นก็จะโป๊ะคอนกรีต กลบรูที่เห็นกันอีกทีจนผนังอาคารของเราเนียนสวยแล้วจะทาสีหรือทำอะไรต่อมาก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง

แต่สำหรับทาดาโอะ อันโดะแล้วเขาเลือกที่จะปล่อยมันไว้อย่างนั้น ไม่โป๊วคอนกรีตปิดรู ไม่ทาสี ไม่มีการเดคอร์เรตตกแต่ง ใดๆ ทั้งสิ้น แหมแต่ดูแล้วก็เก๋ไปอีกแบบและยังแสดงออกถึงความบ้าบิ่นของตัวทาดาโอะ อันโดะอีกด้วย

ในปัจจุบันนั้นผลงานทางสถาปัตยกรรมของทาดาโอะ อันโดะมีมากกว่า 100 แห่ง ถ้าจะให้ยกมาพูดถึงทั้งหมดก็คงไม่ไหว แน่ๆ เพราะงั้นในวันนี้เราจะขอยกเอาผลงานเด่นๆ เก๋ๆ มาแนะนำให้รู้จักกันสัก 3-4 แห่งก็แล้วกันนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Hyogo prefectural museum of art

หอศิลป์ที่รวบรวมรูปปั้น หนังสือภาพ ภาพพิมพ์และ ภาพวาดแนวทันสมัยทั้งของในและนอกประเทศญี่ปุ่นรวม
เข้าไว้มาก มาย เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปีค.ศ.2002 ตั้งอยู่ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นและที่เด่นที่สุดก็คือ
นี่เลยค่ะ...บันไดวนคอนกรีตที่ดูธรรมดาแต่กลับให้ความ
รู้สึกกิ๊บเก๋อย่างบอกไม่ถูก

 

 

6
.

 

Koshino house

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พักอาศัยของ คุณ Koshin ดีไซน์เนอร์ชื่อดังท่านหนึ่งโดยความพิเศษของบ้านหลังนี้ก็คือเป็นบ้านที่ มีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสองลูกค่ะ ทำให้ทาดาโอะ อันโดะใช้ลักษณะตรงจุดนี้มาสร้างเป็นลูกเล่นโดยสร้างบ้านหลังนี้ให้เป็น สเต็ปลงมา ถ้าพูดตามเขาเลยก็คือ “คล้ายถ้ำ” ค่ะ...สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น อาจจะนึกภาพกันไม่ออกถ้ายังไงไปดูภาพ กันให้กระจ่างกันเลยดีกว่าค่ะ

 

 

7
.

 

Rokko housing one

อืม...จะเรียกว่าอะไรดีล่ะคะ...จะว่าบ้านก็ใช่ จะว่าคอนโดก็ไม่เชิง...คล้ายๆ กับหมู่บ้านกลายๆ ล่ะมั๊งคะเพราะเป็นสถานที่ ที่รวมบ้านหลายๆ หลังมาอยู่ติดๆกันจนกลายเป็นสถาปัตยกรรมตามรูปที่เห็นเนี่ยล่ะค่ะ แอบคล้ายเมืองเล็กๆ อยู่หน่อยๆ ด้วยนะคะเราว่า...แต่เอาตามตรง ตอนแรกที่เห็นแอบรูสึกว่าคล้ายๆ มาชูปิกชูยังไงก็ไม่รู้น่ะค่ะ

 

 

8

 

 

9
.

 

และที่ขาดไปไม่ได้เลยค่ะ...
Modern art museum of Fort Worth
พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ในเมือง Fort Worth ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดทำการในวันที่ 14 ธันวาคม ปี 2002 เรียกได้ว่า เป็นผลงานที่ทำให้ทาดาโอะ อันโดะได้รับการยอมรับอย่างเป็นสากล กลายเป็นหน้าเป็นตาของชาวญี่ปุ่นไปเลยทีเดียวค่ะ

 

 

10
.

 

เฮ้อ...ยังมีอีกงานสถาปัตยกรรมของทาดาโอะ อันโดะอีกหลากหลายแห่งเลยนะคะที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู่จัก
ผู้ชายคนนี้มากขึ้นไปอีก แต่ถ้าจะให้เอามาแนะนำกับทุกแห่งก็คงไม่ไหว ไว้โอกาสเหมาะๆ ได้พูดถึงทาดาโอะ อันโดะ อีกครั้งเราจะเอาสถานที่เจ๋งๆ มาแนะนำอีกนะคะและสำหรับเดือนนี้ก็คงจะจบเรื่องราวของเขาแค่นี้ล่ะค่ะ รักษาสุขภาพ
ด้วยนะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่ะ

 

 

 

 Contact us / Join us

ออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน Interior design Thailand

www.bareo-isyss.com เป็น web magazine ที่ update รายเดือนเพื่อผู้อ่าน ทัศนะและความคิดเห็นใดๆ ของผู้ประพันธ์ หรือผู้สนับสนุน
ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะอันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดแจ้ง หรือไม่แน่ชัดใน www.bareo-isyss.com มิได้มาจาก บริษัท บาริโอ จำกัด และบริษัทในเครือแต่อย่างใด
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

Bareo-Isyss รับออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน Interior design Thailand