บรรยากาศของบ้านมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความสุขและความอบอุ่นของครอบครัว ยิ่งได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติผ่านการออกแบบตกแต่งภายในสไตล์คันทรี ได้อารมณ์แบบเรียบง่าย สบายๆ เป็นกันเอง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความฟินก็เกิดขึ้น

      ฮูวว์ เกริ่นมาขนาดนี้หลายคนคงรู้แล้วว่าครั้งนี้ karuntee จะพาไปซอกแซกที่บ้านสวยสไตล์คันทรี อ๊ะ...แต่บ้านสไตล์คันทรีมันก็มีตั้งหลายแบบนะ ทั้งอิงลิชคันทรีที่ดูอ่อนหวาน แบบทัสคานี ชนบทในอิตาลีที่แสนอบอุ่น สไตล์โปรวองซ์สุดโรแมนติกของฝรั่งเศสผ่านผลงานที่ดูอ่อนนุ่ม รวมไปถึงคันทรีไทยๆ บ้านเราก็มีนะเออ

      แถ่น แถ่น แถ่น แถ๊น และครั้งนี้ Karuntee เต็มใจนำเสนอบ้านเดี่ยว สไตล์คันทรีแบบทัสคานี งดงาม จับใจ เหมือนได้หลุดไปอยู่ที่ดินแดนทัสคานี ประเทศอิตาลีจริงๆ เลยค่ะคุณขา ยิ่งพูดจะหาว่าโม้ไปชมบ้านเดี่ยวหลังงามนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ

Foyer

      เยื้องย่างเข้าสู่ตัวบ้านได้แค่นิดเดียว เราก็เจอความวิจิตรตระการตาตั้งแต่โถงทางเข้าบ้านเลยค่ะ แต่โดดเด่นที่สุดคงเป็นในส่วนของ Foyer ซึ่งออกแบบตกแต่งเป็นลักษณะซุ้มโค้ง ดีไซน์หน้าบานเปิด สามารถเก็บรองเท้าด้านในได้ โดยดีไซเนอร์เลือกวางตู้และคอนโซลไม้ไว้ชิดริมผนังทั้ง 2 ฝั่ง สำหรับเก็บหรือวางของ

Living  Room

      บริเวณห้องรับแขก คุณจะสามารถสัมผัสบรรยากาศความเป็นคันทรี สไตล์ทัสคานีได้แบบเต็มๆ เพราะการออกแบบตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุต่างๆ ที่เน้นไม้เป็นส่วนประกอบ รวมไปถึงโทนสีของห้องที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูเป็นธรรมชาติได้อย่างผสมกลมกลืน หากมองจากมุมประตูทางเข้าจะสามารถเก็บภาพบรรยากาศโดยรวมได้อย่างชัดเจน ทั้งความมั่นคง แข็งแรงของเสาที่มีลักษณะเหมือนเสาโรมัน ชุดรับรองแขกแบบครบเซตดูอบอุ่น แถมยังมองเห็นวิวด้านหลังหน้าต่าง ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำค่ะ

Dining  Area

      การตกแต่งภายในมุมรับประทานอาหาร ทางดีไซเนอร์เลือกใช้โต๊ะทรงกลมกับเก้าอี้ไม้ ประดับด้วยโคมไฟสร้างความนุ่มนวล ตู้ปลาขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินและเจริญอาหารมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีตู้โชว์สำหรับวางของที่ระลึกหรืออาจจะเป็นของเก่าที่สะสม เติมแต่งให้บรรยากาศดูเป็นคันทรีมากยิ่งขึ้น

Pantry

      จุดเด่นของบริเวณนี้อยู่ที่การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก แต่ไม่ลืมผสมผสานกับการใช้กระเบื้อง เพื่อให้ส่วนของ Pantry ไม่ดูจืดชืดและน่าเบื่อจนเกินไป เรียกได้ว่าเป็นการตกแต่งที่ช่วยสร้างเสน่ห์ที่ลงตัวได้อย่างยอดเยี่ยมเลยค่ะ

Lodder

      บริเวณโถงบันไดทางขึ้นไปสู่ชั้น 2 ก็ดูยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ของบ้านเลยค่ะ การดีไซน์ราวบันไดให้ดูหรูหรา ประกอบกับโคมไฟแชนเดอเรียพวงระย้างดงาม อีกทั้งยังมีมุมเปียโนอยู่ใกล้ๆ ให้ความรู้สึกแกรนด์ไปอีกแบบ

Home Room

      ห้อง Home เป็นอีกหนึ่งมุมสำหรับพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัว แต่ทางเจ้าของบ้านอยากให้บรรยากาศภายในห้องผสมผสานความคลาสสิกด้วย ดีไซเนอร์จึงเลือกใช้โทนสีดำตัดกับแเดง แบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ พร้อมเพิ่มดีเทลความหรูหราด้วยลายปักทองบนผ้าบุ ผนังด้านบนจำลองให้เหมือนท้องฟ้ามีดาวมากมายระยิบระยับ ได้ความรู้สึกโรแมนติกไปอีกแบบเหมือนกัน ส่วนไฟดาวน์ไลท์ช่วยเพิ่มประกายความงดงามและทำให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น

Guest's Room

      ทางเจ้าของบ้านเลือกสร้างห้องนอนแขกไว้ด้านล่างของตัวบ้าน เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกสบายและดูแลได้ง่าย โดยการออกแบบภายในห้องนี้จะเน้นโทนสีเย็น ดูสบายตาและเหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังเพิ่มดีเทลลูกเล่นคิ้วบัววิ่งรอบห้อง ทำให้ห้องดูหรูหรา เพิ่มสีสัน ไม่เรียบง่ายเกินไป

      โอ้โห...นี่ขนาด karuntee พาไปชมได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น บรรยากาศคันทรีแบบทัสคานียังติดตาตรึงใจได้ถึงขนาดนี้ ถ้าพาไปชมครบทุกซอกทุกมุมจะขนาดไหนนะ ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร อย่าลืมไปหาคำตอบกันได้ใน New Project ครั้งหน้า จะพาไปชมให้จุใจเลยจ้า