สวัสดีอีกครั้งสำหรับเดือนพฤศจิกายนค่ะ

      หลังจากผ่านเดือนอันแสนเศร้าสำหรับชาวไทยทุกคนมาแล้วแต่เชื่อว่าประชาชนจำนวนมากคงยัง"สะอื้นในอก"และยังคงคิดถึงพระองค์ท่านอย่างมิรู้คลายแต่ไม่ว่าจะโศกเศร้าสักเพียงใดเราก็คงต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อให้สมกับพระดำรัสที่มุ่งหวังจะให้"คนไทยทุกคนรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเองเป็นอย่างดี"

สำหรับเดือนนี้บาริโอจึงได้นำผลงานการตกแต่งภายในมาเสนอเหมือนเช่นเคยโดยเป็นบ้านสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่เน้นเส้นสายที่เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่นในแบบ Style Contemporary ค่ะ

      New Project ในเดือนนี้ท่านใดที่ชอบบบรยากาศที่อิ่มอุ่นแล้วละก็ ห้ามพลาดเลยล่ะค่ะ เป็นบ้านที่มีพื้นที่ประมาน 140 ตารางเมตร พื้นที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินความจำเป็นสำหรับครอบครัวขนาดกลาง ถูกออกแบบจัดแบ่งส่วนต่างๆภายในบ้านให้เกิดเป็นสัดส่วนมากขึ้น และถึงแม้ว่าพื้นที่จะไม่มากแต่ไม่ทำให้บรรยากาศนั้นถูกจำกัดไปตามพื้นที่เลยล่ะค่ะ

      ความอบอุ่นใจที่แฝงอยู่ในรูปแบบสมัยใหม่  เมื่อก้าวเข้ามาภายในบ้านแล้วทำให้สัมผัสถึงความรู้สึกนั้นได้ทันที โทนสีช็อคโกแลตที่เข้ามาส่งเสริมให้บรรยากาศภายในห้องเกิดความอิ่มสบาย พร้อมกับความรู้สึกที่ Soft ลงด้วยสีครีมที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห้องในบริเวณของผนังโทรทัศน์  ประจวบพอดีกับมิติที่หลากหลายด้วยการเลือกใช้กระจกผสมผสานกับลายเส้นตรงตัดไปมา ทำให้ภายในบ้านดูเคลื่อนไหว สร้างมุมมองที่ไม่น่าเบื่อ  เป็นองค์ประกอบที่รวมกันอยู่ใน Living room ได้อย่างลงตัว

      เดินถัดมาเพียงเล็กน้อยจะพบกับ Dining Room ที่มีโต๊ะรับประทานอาหารตั้งอยู่บริเวณส่วนกลางของบ้าน เสมือนเป็นศูนย์รวมคนในบ้าน การได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษ ขณะกินข้าวยังสามารถมองภายในรอบบ้านได้อย่างไม่อึดอัดสายตา เพราะแต่ละห้องของบ้านทางดีไซน์เนอร์ได้ทำการคิด วิเคราะห์แบ่งสรรในเรื่องของพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องมีกำแพงกั้นให้เกิดเป็นสัดส่วนเสมอไป การเปิดโล่งสามารถใช้วิธีแบ่งสรรด้วยการจัดวางที่มีแบบแผน และยังช่วยเพิ่มอากาศถ่ายเทได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ในส่วนของตัวโต๊ะรับประทานอาหาร Top เป็นหินสีขาวรูปทรงเรียบง่ายตัดกันกับเก้าอี้สีเทาเพื่อสร้างความโดดนเด่นให้กับบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี

      สลับมาอีกด้านหนึ่งพบกับ Pantry ซึ่งจริงๆแล้วในส่วนของ Partry นั้นมักจะเป็นพื้นที่เล็กๆที่ซ่อนความน่ารักไว้อย่างไม่รู้ตัว เป็นบริเวณที่ครอบครัวที่ใช้ชีวิตแบบเร่งรีบจะสามารถนั่งทานอาหารเช้าแบบง่ายๆได้ในบริเวณนี้ นั่งคุยกันก่อนไปทำงานสร้างเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ดีไม่น้อย เคาน์เตอร์บาร์เลือกใช้ตัว Top เป็นหินเทียมสีดำตัดกับส่วนของตู้ไม้ย้อมสีขาวทางด้านล่าง เพิ่มความน่าสนใจด้วยการซ่อนไฟให้เกิดแสงเงา  พร้อมกับฟังก์ชันเสริมบริเวณด้านข้างสามารถใส่หนังสือหรือสูตรทำอาหารไว้ในตู้นี้ได้อีกด้วย

      เดินถัดเข้ามาในส่วนด้านหลังของ Living room ซึ่งเป็นช่วงเชื่อมต่อก่อนจะพาขึ้นไปยังชั้น 2 ของบ้าน ดีไซเนอร์เลือกใช้กระจกเงาติดเพิ่มเติมบริเวณตู้ ช่วยลดความหนาเทอะทะและเพิ่มมิติไม่ให้เกิดความอึดอัด  มาพร้อมกับบันไดที่ถูกใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ภายใต้บันไดสามารถใช้เป็นที่เก็บของเพื่อความเป็นระเบียบและสะดวกต่อการเลือกใช้งาน เป็นการใช้พื้นที่ใต้บันไดให้เกิดประโยชน์โดยไม่ทิ้งพื้นที่ไว้ให้ศูนย์เปล่า

      ขึ้นบันไดมาถึงชั้น 2 ของตัวบ้านจะพบกับบรรยากาศที่แตกต่างจากชั้นล่างอย่างชัดเจน พบความมีชีวิตชีวา และสนุกสนานมากขึ้นแต่ยังคงคอนเซ็ปของความโปร่งโล่ง ลดความอึดอัดทางสายตาไว้ได้อย่างดี

      ที่โดดเด่นของ Family Room นี้คือความ ปลอดโปร่ง สะอาดตา แต่ไม่น่าเบื่อจำเจ เน้นอากาศถ่ายเทสะดวกสามารถรับแสงของธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม และยังสามารถใช้งานจากแสงของธรรมชาติที่ส่องเข้ามาโดยไม่ต้องเปิดไฟภายในบ้าน ก็สามารถอยู่กันได้อย่างสบายๆ เป็นการลดการใช้งานพลังงานไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี บรรยากาศที่สนุกสนานมีความสดใสเพิ่มชีวิตชีวาให้กับห้อง Family room แห่งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนอารมณ์ที่หลากหลายทำให้ไม่น่าเบื่อ เสมือนเรามองเห็นเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้กำลังมีความสุข ยิ้ม และหัวเราะไปพร้อมกับทุกคนในครอบครัว

      ผนังทีวีตกแต่งด้วยกระจกเงาเพิ่มลูกเล่นและสร้างมุมมองที่หลากหลาย ตู้ด้านล่างโดดเด่นด้วยสีขาวเข้ากันกับตู้วางหนังสืออีกด้านของห้องที่เลือกใช้สีขาวเช่นกัน สามารถช่วยลดทอนความจัดจ้านของสตูสีชมพูไปได้มากทีเดียว เกิดเป็นความลงตัวที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

      ปิดท้ายบ้านบรรยากาศอบอุ่นสบายๆหลังนี้ด้วยห้อง Master Bedroom บรรยากาศชวนให้น่าพักผ่อน ผ่อนคลายไปกับโทนสีครีมที่เลือกใช้ บริเวณหัวเตียงออกแบบเป็นฉากทำมาจากลามิเนตลายไม้ สร้าง Texture ที่เป็นธรรมชาติเพื่อโน้มน้าวความรู้สึกรอบๆตัวให้เหมาะแก่การนอนพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพิ่มลูกเล่นด้วยผนังไม้ย้อมสีขาว เซาะร่องให้เกิดมิติที่ไม่เรียบจนเกินไป

      อีกด้านของ Master Bedroom เป็นมุมทำงานที่ดูสะอาดตาเน้นใช้สีขาวกับบริเวณนี้เกือบทั้งหมด ในส่วนของชั้นวางของตู้ที่อยู่ทางด้านบนและด้านล่างจะมีหน้าบานปิด ช่วยปรับเปลี่ยนความรู้สึกระหว่างช่องว่างของชั้นวางของไม่ให้ดูรกสายตาจนเกินไป ในช่วงของชั้นวางของนั้นผนังด้านหลังเป็นลามิเนตลายไม้และยังมีการซ่อนไฟสร้างมิติให้กับของที่ใช้ตั้งโชว์ให้ดูน่าดึงดูดขึ้นมา

      มาถึงส่วนสุดท้ายของห้องนี้ เป็นมุม Closet ที่ใช้สำหรับเก็บเสื้อผ้า บริเวณหน้าบานของตู้ถูกกรุด้วยลามิเนตลายไม้เพื่อให้การออกแบบเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งห้อง ทั้งบริเวณหัวเตียง มุมทำงาน และตู้เสื้อผ้า ถูกเชื่อมโยงกันด้วยลวดลาย Textureไม้ และเพิ่มความหรูหราน่าค้นหาให้กับมุมนี้ด้วยการทำขอบสีทองให้กับตู้เสื้อผ้า เกิดเป็นเสน่ห์ของความเรียบง่ายที่แฝงกลิ่นอายความหรูหราไว้อย่างบางเบา

      ไม่ว่าบ้านจะมีพื้นที่มากหรือน้อยเพียงใดเราก็สามารถทำบ้านให้อบอุ่นและน่าอยู่เหมาะสมขกับการใช้งานตามแบบของเราได้เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีครอบครัวที่เอื้อเฟื้อเกื้อกูลและรักใคร่ปรองดองกันก็จะยิ่งทำให้บ้านกลายเป็นสวรรค์ส่วนตัวได้โดยง่ายสำหรับการตกแต่งภายในนั้นจะช่วยเติมบรรยากาศของบ้านให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นได้อย่างไรก็ดีขอให้ทุกๆบ้านมีความสุขโดยถ้วนหน้ากันส่วนใครมีแผนจะตกแต่งภายในเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อกับเราได้นะคะ

...สวัสดีค่ะ...