Contact us / Join us
ออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน Interior design Thailand |
www.bareo-isyss.com เป็น web magazine ที่ update รายเดือนเพื่อผู้อ่าน ทัศนะและความคิดเห็นใดๆ ของผู้ประพันธ์ หรือผู้สนับสนุน
|
สำหรับในซัมเมอร์นี้ หลายคนคงเตรียมตัวแพ็คกระเป๋าเพื่อออกลั้ลลาไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรือทะเลแต่ก่อนที่จะปิดล็อคกระเป๋าออกเดินทาง เราขอนำเสนอให้คุณพาเพื่อนๆ ผู้แสนน่ารักใส่กระเป๋าเอาไว้เป็นเพื่อนแก้เหงายามนั่งชิลล์อยู่ริมทะเลหรือใต้ต้นไม้ริมลำธารสักแห่งที่คุณไป อาจจะเป็นหนังสือสักเล่มที่จะมาช่วยให้ฮอลิเดย์ของคุณในครั้งนี้ได้พักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ไงล่ะ
|
ต้นไม้ใต้โลก
ถ้าเอ่ยถึง ทรงกลด บางยี่ขัน หนอนหนังสือเด็กแนว (ร่วม) นิตยสาร a day คงไม่มีใครไม่รู้จัก บก.คนเก่ง ผู้มากคม ความคิดคนนี้และยังฝากฝีไม้ลายมือในการเขียนมาหลาย เล่มไม่ว่าจะเป็น “โปรดอ่านใต้แสงเทียนเพราะผมเขียน ใต้แสงดาว”รวบรวมสารคดีท่องเที่ยวสไตล์ความเรียงที่ แสนซึ้งและอบอุ่นหรือ“ดาวหางเหนือทางรถไฟ” ที่เป็น บันทึกเรื่องราวระหว่างสองข้างทางรถไฟที่มีอะไรให้น่าจดจำมากมายตลอดการเดินทางและคงจะพลาดเล่มนี้ไปไม่ได้จากพ็อคเก็ตบุ๊คยอดนิยม“สองเงาในเกาหลี” ที่มาสู่ จอเงินกับหนังอารมณ์กวน “กวน มึน โฮ” ที่ทำรายได้ไป ถล่มทลายเช่นกัน
|
|
ดูเหมือนว่าพลังความคิดพลังในการเขียนของชายหนุ่มผู้นี้มีอย่างล้นเหลือ นอกจากนั้นเขายังเป็นนักเขียนที่รู้จักต่อยอด ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาไม่ให้เสียเปล่าเลย เหมือนเช่น “ต้นไม้ใต้โลก” เล่มนี้ที่กล่าวถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมรอบกาย ได้อย่างน่ารักน่าหยิกแต่แฝงไปด้วยความคมคายก็เพราะทรงกลดไม่ได้ยกเมฆเขียนมาจากไหน หากแต่กลั่นออกมาจาก ประสบการณ์ของเขานั่นเองจากการที่เคยทำงานคลุกคลีในด้านนี้มาก่อน โดยเริ่มจากการเป็นประธานชมรมอนุรักษ์ สภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของมหาวิทยาลัยผ่านค่ายและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมมาหลากหลายรูปแบบจน กระทั่งทำงานเป็นนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมสังกัดศูนย์เศรษฐศาสตร์นิเวศคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงได้เดินทางทั่วประเทศ จึงได้กลายมาเป็นต้นไม้ใต้โลกที่เราเห็นอยู่นี่เองต้นไม้ใต้โลก เป็นหนังสือที่รวบรวมความคิด ของคนที่อยากจะเปลี่ยนโลก 100 วิธี แต่ที่ไม่ธรรมดาคือเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีวิธีที่สนุกสนานแฝงอารมณ์ขันและซุกซน แต่ก็มีความสร้างสรรค์และความหวังดีให้กับโลกใบนี้ของเราอย่างแท้จริงและดูเหมือนจะเป็นลายเซ็นของทรงกลดไปแล้วกับ สไตล์การเขียนที่อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็เจ็บๆคันๆแกมประชดประชันอย่างน่าเอ็นดูแต่ถ้าอ่านดูก็จะรู้ว่าแต่ละประเด็นที่ ทรงกลดหยิบยกมานำเสนอนั้นผ่านกระบวนการคิด การกลั่นกรองเป็นอย่างดีหลายเรื่องภายในเล่มนั้นร่วมสมัยและง่ายพอที่ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการพิทักษ์โลกได้(ด้วยวิธีแปลกๆและน่าสนุกมาก)จากคำถามที่ยิ่งใหญ่คำถามหนึ่ง เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้จริงหรือ? ยกตัวอย่างเช่นกลุ่ม “โจรปลูกต้นไม้” ทีทำไมเป็นวัยรุ่นต้องพ่นกำแพงเป็นมลพิษ ทางสายตาให้กับเมืองเท่านั้นละหรือในเมื่อชอบความตื่นเต้นพวกเขาก็ออกมาลักลอบปลูกต้นไม้ในที่ที่เขาไม่ได้ให้ปลูกกัน หน่อยดีกว่าไหม ได้ตื่นเต้น ได้สนุก แถมยังรักษ์โลกด้วย หรือเรื่อง “นโยบายกำจัดป้ายประกาศ” ที่เรามักเห็นกันอยู่บ่อยๆว่า ห้ามติดป้ายประกาศ แต่ก็ยังมีป้ายโฆษณามักง่ายมาปิดประกาศอยู่นั่นแหละจนเลอะเทอะไปทั้งกำแพง มาแนวนี้ต้องเจอ สติ๊กเกอร์ปราบเซียนพิมพ์คำว่า “ยกเลิก” ไปปะทับเสียเลยเป็นไง แสบไหมล่ะ คราวหน้าคงหนี ไม่กล้ามาแปะอีกแหน่ะ ส่วนอีก วิธีที่เหลือคุณต้องอ่านเองภายในเล่มบอกใบ้ว่าในทุกตอนมีคำปิดท้ายเท่ๆคมๆรอคุณอยู่ อีกเพียบ
|
ต้นไม้ใต้โลกให้ไอเดียดีๆกับความคิดกับชีวิตในก้าวต่อไป ของเราบนโลกใบนี้ ไม่ใช่แค่เพียงการกระตุ้นจิตสำนึกด้าน สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็นการให้เราสามารถพลิกแพลงวิธี การแก้ปัญหาได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตามเรา จะเป็นผู้ตัดสินเองว่าวิธีใดดีที่สุดเหมาะสมที่สุดในภายใต้ เงื่อนไขที่เรามีอยู่ ณ ขณะนั้น หลังจากเขียนหนังสือเรื่อง ต้นไม้ใต้โลกก็เกิดแรงบันดาลใจอยากสร้างชุมชนออน ไลน์ในนามเครือข่ายต้นไม้ขี้เหงา (www.lonelytrees.net) เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจในวงการสิ่งแวดล้อมและจัด กิจกรรมเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ เข้าถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม และเข้าใจรู้สึกนึกรักโลกใบนี้ยิ่งขึ้นผ่านการเดินทางการ พูดคุยการทำแคมเปญออนไลน์ร่วมกันและกิจกรรมอื่นๆ ที่ยังจัดหมวดหมู่ไม่ได้คุยกับ ทรงกลดได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
|
|
|
เพื่อนนอน ผู้แต่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
ถ้าท่านเปิดหนังสือขึ้นอ่านในมุ้ง
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นักปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง และศิลปินแห่งชาตินับเป็นปูชนียบุคคลท่านหนึ่งของไทยที่ มีบุคลิกและบทบาทที่หลากหลาย มีชื่อเสียงในหลายๆด้าน โดยเฉพาะการประพันธ์ทางองค์การยูเนสโกได้ ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็น บุคคลสำคัญของโลก ใน 4 สาขาได้แก่ การศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชนในวาระครบ รอบ 100 ปี ชาตกาลในด้านวรรณศิลป์หม่อมราชวงศ์- คึกฤทธิ์มีผลงานหนังสือที่มีชื่อเสียงที่นักอ่านยกให้ เป็นระดับอาจารย์มากมาย ที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น สี่แผ่นดิน, ไผ่แดง, กาเหว่าที่บางเพลง, หลายชีวิต, พม่าเสียเมือง, ยิว, ถกเขมร โดยเฉพาะเรื่องสั้น “มอม” ซึ่งได้ใช้เป็นบทความประกอบแบบเรียนภาษาไทยและมี เนื้อที่ซาบซึ้งกินใจของความรักที่ยิ่งใหญ่ของมอม สุนัขที่ จงรักภักดีต่อนายเสมอที่เรียกน้ำตาทุกครั้งที่ได้อ่านรวมทั้ง ยังรวมเล่มอยู่ใน “เพื่อนนอน” รวมเรื่องสั้นของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ฉบับสมบูรณ์เล่มนี้ด้วย |
|
เมื่อชวน“เพื่อนนอน”หรือเปิดเพื่อนนอนขึ้นมาอ่านเราจะได้รับความรู้สึกราว กับว่ามีผู้ใหญ่ในบ้านใจดีผู้หนึ่ง มานั่งเล่านิทาน ให้ฟังเหมือนดังที่ท่านม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ว่า“ใครซื้อไปอ่านก็เท่ากับมีผมไปนั่งเล่านิทานให้ฟังข้างๆที่นอนฟังเพลินๆแล้วก็หลับไป จะจบหรือไม่ก็ไม่สำคัญ” หากแต่น้อยคนนักจะวางหนังสือลงด้วยเรื่องสั้นที่ กระชับ สนุกสนาน ขบขัน และประชด ประชัน เสียดสีสังคมและการเมืองได้อย่างน่ารักตามมุมมองของท่านผู้เขียนทั้ง23เรื่องที่พาเราโลดแล่นสู่อีกโลกจนยากที่จะหลับลง ในคืนนี้อย่างแน่นอน
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องแรก“กบกายสิทธิ์”ที่จิกกัดสังคมของหนูวิไลวรรณวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อสาวที่ต้องอยู่ในกรอบที่เต็มไป ด้วยระเบียบวินัยของพ่อแม่ หากแต่หนูวิไลวรรณก็อยู่ในช่วงวัยอยากรู้อยากเห็นจึงอยากจะลองแหกกรอบนั้นดูบ้างจนไป เจอกับหนุ่มรูปงามในงานเต้นรำแห่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวก็ดำเนินไปเหมือนนิทานเรื่องเจ้าชายกบที่เราเคยรู้จักหากแต่ หนูวิไลวรรณจะจัดการกับกบและกรอบของพ่อแม่อย่างไรคงต้องไปติดตามภายในเล่มหักมุมอย่างน่าชวนหัวเลยทีเดียวหรือ เรื่อง “คนรู” นิทานเกือบจริงที่ทำเอาคนอ่านลุ้นระทึกตามตาก้อย เด็กน้อยที่นอนป่วยอยู่บนเตียงที่พยายามรบเร้าให้ป้าพรเล่า นิทานให้ฟังจนกลายเป็นผู้เล่าเสียเองในภายหลัง เล่าดีเสียจนนิทานเกือบจริงนี้จริงขึ้นมาได้อย่างน่าขนลุกอีกทั้ง “จนกว่าเพลิงจะมอด” เรื่องราวของรำไพที่นั่งรอพายุชะตาชีวิตตามแต่ที่จะพัดพาเธอไปทางใดซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงความ ทุกข์ที่ตามหลอกหลอนเธอจนกว่าเพลิงจะมอดเหมือนชื่อเรื่องนั่นเองหรือ“เรื่องราชสีห์กับหนู”นิทานอีสปรูปแบบใหม่ที่ท้าย เรื่องจะจบในแบบ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไปอีกสไตล์ที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
และที่พลาดไม่ได้กับเรื่อง“มอม”เรื่องที่ม.ร.ว.คึกฤทธิ์กล่าวไว้ว่า“ถ้าใครจะถามว่าในกระบวนเรื่องสั้นทั้งหมดที่ผมเอามาใส่ไว้ ในเล่มนี้ผมรักเรื่องไหนมากที่สุดผมก็เห็นจะต้องยอมรับว่าผมรักเรื่อง“มอม”มากที่สุดเพราะผมเป็นคนรักหมามาแต่อ้อนแต่ ออก อยู่กับหมามาจนรู้ภาษาหมา พอจะเข้าใจว่าหมานั้น มองโลกด้วยทรรศนะอย่างไร ขณะที่เขียนเรื่อง“มอม”ผมก็ทำใจ เป็นหมาและกล้าพูดได้อย่างไม่อายว่า ขณะที่เขียนเรื่องนั้นผมเสียน้ำตาไม่รู้สักเท่าไรเพราะขณะที่เขียนนั้นผมก็มีความรู้สึก อย่างที่หมาดีๆ จะมีความรู้สึกได้ และได้เขียนไปด้วยความรู้สึกของหมาแท้ๆ” และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ “มอม” กลายเป็นอมตะ เรื่องสั้นที่อยู่ในดวงใจของนักอ่านรุ่นแล้วรุ่นเล่าตลอดมา
แล้วคืนนี้คุณมี “เพื่อนนอน” (เล่มนี้) แล้วหรือยัง.............
|