อิตาลี : ทัสคานีที่รัก

ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่ผมกับครอบครัวไปเที่ยวตะลุยในกรุงโรม โดยไปถึงวันแรกก็เข้าที่พัก วันที่สองไปท่องกรุงโรม ส่วนวันที่สามก็ไปเมืองทิโวลีที่เป็นมรดกโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หาอ่านได้ตาม Link นี้นะครับ

ตอนที่ 1
http://www.bareo-isyss.com/16/rome.php

ตอนที่ 2
http://www.bareo-isyss.com/17/rome.php

สำหรับวันที่สี่นี้ พวกเราเริ่มต้นด้วยการเข้าเมืองไปที่บันไดสเปน เพื่อไปแลกเงิน!!!

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเป็นที่แลกเงินของเอกชน ก็จะ Charge แพงมากๆๆๆๆ แถม Rate ยังแย่มากอีกด้วย
Service Charge แถมคิดโน่นคิดนี่จิปาถะ รวมๆ แล้วประมาณ 20% !!!!!!

ผมลองแลกเงินจากที่ดอนเมืองไป 300 USD ได้เงินยูโรประมาณ 237 Euro แต่พอไปที่สนามบิน Fiumicino ของโรม เหลือแค่ 197 Euro เอง

สุดท้าย ผมนึกขึ้นได้ว่าถ้าแลกเช็คเดินทางกับทาง Amex เองแล้วมีบัตรของเค้าด้วยจะไม่โดนชาร์จ เลยตัดสินใจยอมเดินทางเข้าเมืองเพื่อไปแลกที่ศูนย์ของ Amex ที่ตั้งอยู่แถวๆ บันไดสเปน ได้มาที่ 235 Euro ก็ไม่ดีเท่าเมืองไทย แต่ก็ดีกว่าที่อื่นเยอะเลยครับ..

เลยอยากจะแนะนำคนที่จะไปเที่ยวแถบยุโรป ให้แลกเงินจากที่นี่ไปเลยดีกว่าครับ ยิ่งถ้าแลกข้างนอก (ต้องไว้ใจได้ด้วยนะครับ) จะได้ Rate ดีที่สุด..

เอาล่ะครับ หลังจากเสร็จภารกิจแลกเงินแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางไปรับรถที่จองไว้ที่ Hertz อีก ซึ่งพอไปถึง ทาง Hertz ก็มีตุกติกเล็กน้อย คือจะขอเปลี่ยนรถจากัวร์ที่เราจอง ไปเป็นรถ Renualt แถมยังบอกหน้าตาเฉยว่า เกรดเดียวกัน..

ผมเลยโวยกลับไป จนต้องไปนำรถจากัวร์คันงามขับมาให้จากศูนย์ใหญ่ (ซึ่งอยู่ที่บันไดสเปนที่เราเพิ่งจากมา..)
ซึ่งก็ไม่เป็นที่ผิดหวังของเรา เพราะเจ้า Blue Jaguar คันนี้ ให้อารมณ์ในการขับขี่ที่สนุกไม่แพ้รถรุ่นใหญ่ของยี่ห้ออื่นๆ เลยทีเดียว ซึ่งผมก็ได้อาศัยเจ้า Blue Jag คันนี้ ทะยานผ่านทางด่วนไปยังเมืองถัดไปด้วยความเร็วกว่า 200 กม./ชั่วโมง (โม้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)

และด้วย Garmin ก็นำพาพวกเรามาถึงเมืองถัดไป เราลัดเลาะไปเรื่อยๆ เพื่อไปเที่ยวตะลอนในแคว้นทัสคานี นึกๆ ทัสคานีอยู่ส่วนไหนของอิตาลี เมื่อเราอยู่โรมขึ้นเหนือจะไปมิลานทัสคานีจะอยู่ระหว่างกลางพอดี

ที่เมืองนี้ พวกเราเลือกจองที่พักแบบ Farmhouse ชื่อ San Fabiano ซึ่งเราเจอกันหลายแห่ง แต่กลับไม่ใช่สักที จนต้องลงไปถามทาง สุดท้าย จึงไปเจอที่พักที่ตั้งอยู่กลางทุ่งจริงๆ เป็นเมืองเล็กๆ ระหว่างทางจากโรมไป San Gimignano ชื่อว่า Monte d'arbia

"ทัสคานี" เป็นเมืองเล็กๆ วิถีชีวิตพลเมืองทำกสิกรรมเป็นอาชีพหลัก ทั้งไร่องุ่น ไร่ข้าวโพด เวลาขณะนั้นราวหกโมงเย็น อากาศกระเดียดไปทางหนาว มีลมพัดแรง

ซึ่งมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามมาก บวกกับเมืองเล็กเมืองน้อยที่กระจายกันอยู่ทั่วแคว้น..

Tuscany ดินแดนแห่งทัศนียภาพแสนงดงาม ไร่องุ่นเลื่องลือชื่อ มีเมืองหลวง Florence เมืองแห่งศิลปะอารยธรรมระดับโลก

สำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ที่พักแบบ Bed & Breakfast ตามวิลล่า ปราสาทโบราณ คฤหาสน์ในสวนสวย นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอีตาลี และที่สำคัญหากอยากจะรู้จักแดนมักกะโรนีให้ลึกซึ้ง ก็ต้องเข้าให้ถึงครัวนั่นเลย โฉมหน้าของ San Fabiano แต่อันนี้ ไม่ใช่ที่พักของเรา..

จากที่ได้คุยกับเจ้าของที่พัก เค้าบอกว่า San Fabiano เป็นของพ่อเค้าทั้งหมด มีพื้นที่รวมกันกว่าหมื่นเอเคอร์ และในแต่ละเขตที่ดิน จะสร้าง Farmhouse ไว้แทนหมุดเขต..(แสดงว่ารวยจริงๆ)

สภาพภายในที่พักของเรา

บรรยากาศชวนไปเที่ยวพักผ่อนจริงๆครับ
ห้องนั่งเล่นมีเพดานโค้งด้วย ของจริงเลยนะเนี่ย..ภรรยาผมเลยถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย ห้องครัวก็โค้ง..พวกเราจัดการมื้อเช้ากันที่นี่ครับ..

เสริมอีกนิดนึง คือที่พักที่นี่ โดยปกติเค้าให้เช่าเป็นสัปดาห์ โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ทำอาหาร นั่งรถชมทุ่ง ว่ายน้ำ เป็นต้น เราเป็นรายแรก (มั้ง) ที่ขอเข้าพักคืนเดียว แต่ก็ยังประทับใจมากๆ ทั้งสภาพห้อง และอัธยาศัยของเจ้าของ..

และอันนี้เป็นสภาพของเมืองครับ..