พอกลับมาตั้งต้นที่โรงแรมได้ ครอบครัวของเราก็ออกตระเวณไปเก็บภาพต่อที่สะพานเก่า ก่อนที่จะย้อนกลับไปที่ กองแลน หรือ Pai Canyon เพื่อเก็บภาพช่วงพระอาทิตย์ตก โดยกองแลนนี้จะมีลักษณะคล้ายกับแพะเมืองผี แต่มีขนาดเล็กกว่า ที่สำคัญ ผมไม่ค่อยเห็นคนไทยไปเที่ยวที่นี่สักเท่าไร ตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปเมื่อหลายปีก่อน ก็มีคนไทยคือผมกับภรรยาเท่านั้น ที่เหลือก็เป็น ฝรั่งหลากหลายเชื้อชาติ บวกญี่ปุ่นอีกนิดหน่อย และคราวนี้ก็เหมือนกัน คือมีพวกเราเป็นคนไทยกลุ่มเดียว ที่เหลือก็เป็นชาติอื่นหมด
และดูเหมือนบนกองแลน พระอาทิตย์จะตกช้าเป็นพิเศษ เพราะเราต้องรอนานเกือบชั่วโมง เพื่อให้แสงอาทิตย์ได้ตามที่ต้องการ จากนั้น พวกเราก็รีบลงมาก่อนที่จะฟ้าจะมืดสนิท เพราะการเดินลงจนเนินช่วงที่ไม่มีแสงแล้ว ค่อนข้างอันตราย จากนั้น พวกเราก็กลับไปทานมื้อค่ำในเมือง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคิวของร้าน บ้านปาย ที่มีประตูไม้บานเฟี้ยมเก่าๆ ประดับอยู่ที่หน้าร้าน และเป็นร้านที่ผมกับภรรยาเคยมาทานกันเมื่อตอนที่ไปเที่ยวปายในครั้งที่แล้ว
ร้านบ้านปาย มีอาหารหลายชนิดที่อร่อยมากๆ ตั้งแต่อาหารไทย อาหารอิตาเลียน และสเต็ค ทำให้เจ้าตัวเล็กของผมติดใจเอามากๆ แถมราคายังไม่แพงมากนัก เช่น ปลาทับทิมทอดราดพริก ราคาจานละร้อยแปดสิบบาท เนื้อนุ่มในกรอบนอก อร่อยเชียว นึกถึงแล้วยังน้ำลายสออยู่เลยครับ
จบจากมื้ออร่อย พวกเราก็กลับไปที่โรงแรม เพราะมีนัดกับทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมให้เตรียม โคมลอย ให้พวกเรา แม้ว่าจะไม่ตรงกับเทศกาลใดๆ แต่ในเมืองก็ยังมีร้านขายโคมลอยเหล่านี้ ให้กับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราได้มีกิจกรรมที่งดงามได้เล่นกันในตอนดึก
|