|
เช้าวันที่ 2 เวลานัดหมายคือ สูตร 7 - 8 - 9
ก็ตื่น 7 โมง ทานอาหารเช้า 8 โมง 9 โมงออกเดินทาง (เหมือนมาทัวร์ค่ะ) วันนี้ตื่นแต่เช้าตื่นเต้นค่ะ ห้องเรา( hana และ ทราย)พร้อมก่อน พี่ maya เลยฝากน้องแบมไปทานอาหารเช้าด้วยก่อน 3 สหายแก๊งนักช็อปพร้อม ลุย! ที่นี่ไม่ต้องใช้คูปองอาหารค่ะ แค่บอกเลยห้องเท่านั้น ทางเข้าห้องอาหารมีพนักงานโรงแรม ยืนเช็คชื่อ เอ้ย! ไม่ใช่ ติ๊คเลขห้องที่เราบอก และด้วยความมั่นใจสุดฤทธิ์ hana ก็บอก one one three เค้าหน้าเหวอมาก เราก็เหวอตอบ อ้าว.. บอกอะไรผิดหรอ มองหน้ากัน สมองยังไม่สั่งการ ศัพท์ที่ท่องเอาไว้ ลืมหมดค่ะ เลยใช้วิธีชะโงกหน้าไปดูโพยเค้าแล้วชี้เอา อิอิ พนักงานเค้าก็คง งง ด้วยแต่ก็ปล่อยผ่าน
อาหารเช้าเป็บบุพเฟ่ มีทั้งนม กาแฟ ไข่ดาว ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว สลัด ขนมปัง... น่ากินทั้งน้าน ก็โซโล่เกือบทุกอย่าง อร่อยมากต้องเป็นข้าวต้มค่ะ เป็นข้าวนิ่มมาก คล้ายๆ โจ๊ก ข้าวละเอียดมากไม่เป็นเม็ด กับน้ำข้นๆ ต่างจากบ้านเราที่ข้าวเป็นเม็ดๆ แล้วน้ำก็ใส๊ใส ก๋วยเตี๋ยวเป็นเส้นเหมือเส้นอุด้งยาวๆ กินกับน้ำแกงและหมูผัดที่วางไว้ข้างๆ ที่ทีแรกเข้าใจว่าเป็นกระเทียมเจียวมองไปมองมาถึงเข้าใจว่าเป็นหมูผัด รสชาติเผ็ดนิดๆ เค็มหน่อยๆ อร่อยค่ะ กินกับข้าวต้มก็อร่อย ได้ความรู้อีกอย่างว่าถ้าอยากได้ไข่ดาวสุกๆ เราใช้วิธีบอกกับพนักงานที่ยืนทอดไข่โดย ทำมือพลิกไปมาเค้าก็เข้าใจว่าเราจาเอาไข่สุก ต่อด้วยสลัดผลไม้ อร่อยมากขอบอก plan สำหรับเที่ยววันนี้ พี่ isyss พี่ maya วางแผนไว้ว่าเราเที่ยวรอบๆ เมืองก่อนให้ร่างกายปรับสภาพ แล้วพรุ่งนี้ค่อยขึ้นเข้าหิมะกัน |
|
|
|
|
|
"สระมังกรดำ" หรือ Jade Spring Park (เฮย หลง ถาน : Hei Long Tan) เป็นที่แรกของวันนี้ มีเรื่องเล่าว่าในอดีตเคยมีคนพบเห็นมังกรดำ ผุดขึ้นมาจากสระนำแห่งนี้ จนเป็นที่เลื่องลือและกล่าวขาน จนชาวบ้านต่างเรียกสระน้ำแห่งนี้ว่า สระมังกรดำ
"สระมังกรดำ" เป็นสวนสาธารณะ ขนาด 11,390 ตารางเมตร ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1737 สมัยราชวงศ์ ชิง(แมนจู) ตั้งอยู่ทางเหนือของลี่เจียง บริเวณเนินเขาช้าง (เซี้ยง ชาน : Xiang Shang ) น้ำในสระเป็นสีเขียวเหมือนหยกเกิดจากหิมะที่ละลายมาจากภูเขาอวี้หลงเซว่ยซาน จากนั้นไหลต่อเป็นลำธารไปหล่อเลี้ยงเมืองลี่เจียง เดินเข้าไปตามทางเดินจะเจอศาลาสำหรับนั่งพัก เป็นจุดแวะถ่ายภาพจุดแรก ได้สระมังกรดำ เป็น foreground มีสะพาน Five-hole Bridge(สะพานห้าโค้ง), ศาลาศาลามีจันทร์(เต๋อ เยว่ โหล่ว : De Yue Lou) ลอยเด่นอยู่กลางน้ำและะมีภูเขาหิมะมังกรหยกเป็น background เรียกได้ว่าเป็นที่ที่ใครมาแล้วต้องถ่าย แหม.. ถ่ายออกมาเหมือน post card ที่ซื้อเลยค่ะ
|
|
|
|
|
|
ร้านน้ำชาระหว่างทางเดินเข้าไป |
|
|
เดินเข้าไปอีกนิดเจอทางแยกขึ้นเนินเป็นวัดเล็กๆ ชื่อ หลง เซิ่น ซื่อ : Longshen Temple หรือ วัดเทพเจ้ามังกร ที่ชาวน่าซีสร้างถวายแก่ เทพเจ้ามังกรที่อาศัยอยู่ในสระหยก ในสมัยจักรพรรดิ์เฉียนหลง ราชวงศ์ชิง(Qing) ทางขึ้นวัดรั้วเป็นโซ่แขวนด้วยพวกกุญแจเต็มไปหมด เพราะมีความเชื่อว่าถ้าคู่รักหนุ่มสาวเอากุญแจมาคล้องร้อยไว้ จะรักกันตลอดไป
|
|
|
|
|
|
ที่มาของเสียงเพลง |
|
|
ได้บรรยากาศสุด เพราะอากาศเย็นประมาณ 20 องศา เดินไปได้ยินเสียงเพลงจากเครื่องกระจายเสียงไป ประหนึ่งว่าเดินกลางทุ่งแล้วมีนักดนตรีพื้นบ้านร้องเพลงคลอกล่อมเราตลอดเวลา เดินไปสุดทางที่ลานแสดงศิลปพื้นบ้านของชนชาติ น่าซี ถึงเพิ่งรู้ว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้เป็นเสียงเพลงที่เค้าร้องและเล่นดนตรีกันสดๆ เพิ่งจบไป ด้านข้างเป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปะตงปา
|
|
|
|
|
|
อักษรภาพ วัฒนธรรมตงปา |
|
|
เดินเข้าไปใน พิพิธภัณฑ์ศิลปะตงปา คล้ายจำลองบ้านคนให้เราเข้าไปชม แต่มีภาพแสดงถึงวิถีชิวิตความเป็นอยู่ ศาสนา ความเชื่อ อักษรโบราณที่เป็นอักษรรูปภาพ ลักษณะคล้ายกับอักษณเฮียโรกลิฟฟิก ( Hieroglyphics ) ของอียิปต์ ที่เขียนเลียนสรรพสิ่งในธรรมชาติ จากวัฒนธรรมประจำถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ มีอักษรภาพ ดนตรี ศิลปะ ตลอดจนประเพณีชีวิตที่สืบทอดต่อกันมายาวนานพันกว่าปีของชนชาติน่าซี หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า วัฒนธรรมตงปา (Dong Ba) ยังมีภาพถ่ายที่เล่าเรื่องราวของบริเวณโดยรอบของสระมังกรดำ, ภาพภูเขาหิมะมังกรหยก ในอดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วยังนอกจากนี้มีอากงคนหนึ่งแต่งองค์ทรงเครื่องชุดใหญ่วางมาดขรึมอยู่หน้าห้องนั่งเขียนอะไรยุกยิกอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ hana หยิบกล้องขึ้นมาจะถ่ายพภาพ โดนเค้าโว้ยวายใส่ ว่าอะไร ไม่รู้ เราก็งงๆ ขำๆ โธ่..ไม่ถ่ายก็ได้ จึงเดินออกจากอาคารพิพิธภัณฑ์มาที่ลานด้านหน้า
|
|
|
|
|
|
เต้นกันแบบไม่มีใครยอมใคร |
|
|
โชคดีจังนักดนตรีเตรียมตัวแสดงอีกครั้งแล้ว นั่งรอละกันจะได้ดูด้วย เริ่มแสดงจากมีนักร้องหญิงคนหนึ่งออกมายืนร้องเพลงคล้ายๆกับที่เราได้ยินตอนแรกแล้วนึกว่าเค้าเพลง cd ซะอีก จบไป 4 เพลง เห็นนักท่องเที่ยวที่เค้ามาเป็นกรุ๊ปขอเพลงด้วย พอดนตรีเริ่มเล่นนักร้องเริ่มร้องกลุ่มนั้นก็ส่งตัวแทนออกมาเต้นลีลาศประกอบ ว้าว!! ได้ดูของแถมอีกต่างหาก จากนั้นมีคุณยายแต่งชุดพื้นเมืองชาว "Naxi" ออกมายืนเรียงกัน เปิดวิทยุทราสซิสเตอร์วางตรงกลางวง จากนั้น เหล่าคุณยายเต้นค่ะ โฮโห สุดยอด...น่ารักมากค่ะ เป็นการเต้นที่นักเต้นมีอายุมากที่สุด น่าจะเกินสองพันปีนะคะ
|
|
|
|
|
|
นี่!! ก็ ออกสเต็ปแบบไม่ยอมแพ้เหมือนกัน |
|
|
แป๊ปๆ จะบ่ายโมงแล้ว พยาธิเริ่มประสานเสียงแล้วค่ะ ซือจี (คนขับรถ) พาไปทานอาหารที่ภัตรคารของลี่เลียง(ว่าไปนั่น) กินข้าวเสร็จ ออกมาพี่ maya เจรจากับซือจีว่าจะไปหาที่ถ่ายภาพ ซือจีได้ยินดังนั้นจึงพาไปที่หนึ่ง ชื่ออะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่ค่าเข้าแพงมาก 80 หยวน และเสียค่านั่งม้าเข้าไปอีก 150 หยวน ลูกทัวร์มองหน้ากัน ตามใจหัวหน้าคณะ พี่ maya คุยอะไรกับซือจีไม่รู้ซือจีเลยขับเลยเข้าไปลึกเข้าไปอีก แล้วจอดจึงเข้าใจว่ามีทางเข้า 2 ทาง ตรงนี้เสียค่าเข้า 20 หยวน ที่นี่เรียกว่า ทะเลสาป ลาซือไห่ : La Shi Hai สามารถเข้าไปเดินเล่นนั่งเล่นริมทะเลสาป ขี่ม้า และพายเรือได้ (ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เลือกเล่น) แดดร้อนขนาดนี้นี่นะจะพายเรือ (อากาศไม่ร้อน แต่แดดแรงมาก..ขอบอก)
|
|
|
|
|
|
ต้นไม้ 2 ที่ต้องจ่าย 20 sยวนเข้าไปดู คู่ทะเลสาป |
|
|
แก๊งนักช็อปมองหน้ากันแล้วบอกว่าไม่เข้านะคะ จะรออยู่ข้างนอก พี่ Isyss กับพี่ Maya ใช้สิทธิ์หัวหน้าคณะบอกว่าให้เข้า เอ้า..เข้าก็เข้า ในขณะที่น้องบิ้ง กะพี่นุกขี่ม้า ส่วนท่านๆ อีก 3 ท่าน คือ พี่ maya พี่ Isyss และพี่ Pat ถ่ายรูปกันแบบเมามันมาก แก๊งนักช๊อปเดินไปเดินมา เหมือนถูกบังคับ เอ้า เดินๆๆ ถ่ายรูปๆๆ เดี๋ยวไม่คุ้ม 20 หยวน ก็มันไม่มีอะไรจริงๆ นีน่า แถมร้อนมากมากด้วย แล้วแก๊งเราก็แอบออกมาก่อน มานั่งกินไอติม และเข่อเล่อ (โค้ก).. อิอิ
|
|
|
|
|
|
มีคนมาถ่ายรูปแต่งงานกันด้วย |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|