|
พอขึ้นรถได้พี่ maya ก็บอกว่าที่ต่อไปคือ หมู่บ้านซู่เหอ แก๊งเราคงชอบคล้ายๆ กับตลาดสี่เหลี่ยมที่เราไปมาเมื่อคืน แต่อันนี้จะเป็นเป็นเมืองเก่า มีขายของเยอะกว่า อาจจะถูกกว่าถ้าต่อดีดี เพราะเป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องเงิน เครื่องหนังและระฆัง ได้ยินเท่านั้นหูผึ่งเชียวค่ะ
เมืองเก่าซู่เหอ เป็นเมืองเก่า 1 ใน 3 ของลี่เจียง มี เมืองเก่าต้าหยัน, เมืองเก่าซู่เหอ และเมืองเก่าไป๋ซา ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีความงามและสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน ก่อนลงจากรถพี่ isyss แจก วอกี้ท็อคกี้ (วิทยุสื่อสารกลุ่มละ 1 ตัว) พร้อมกับพี่นุกอบรม การซื้อของว่าจะต้องต่อราคาก่อนนะ แล้วต่อเยอะๆ ด้วย ไม่ต้องกลัว |
|
|
|
|
|
นั่งทำเงินโชว์หน้าร้าน เกือบทุกร้าน |
|
|
ลงจากรถได้ก็แยกไปตามศัทธาค่ะ สองข้างทางเป็นร้านขายของยาวตลอด เรียกได้ว่าตั้งร้านขายของกันทั้งหมู่บ้านเลยค่ะ แก๊งนัก shop เริ่มปฏิบัติการ ตั้งแต่เดินเข้าไปไม่ถึง 100 เมตรเลยค่ะ ไม่สนด้วยว่าพูดไม่เป็น มือกำคู่มือเด็ดไว้ คนละเล่มแล้วนี่ ร้านเครื่องเงินที่มีเป็นระยะๆ เรียกได้ว่ามีทุก 10 เมตรเลย มันสะดุดตาขนาดนี้ ไม่แวะได้งัย ตรงดิ่งปที่ตู้โชว์เครื่องเงิน กำไรเงิน นี่เค้าเรียกว่าอะไร นึกไม่ออกช่างมัน!! ชี้ๆ เอา
เอาอันนี้แหละ แล้วก็เปิดตำรา ต่อราคา
ตั้ว เส้า เฉียน : ราคาเท่าไร คนขายจัดแจงอธิบายอะไรไม่รู้แล้วก็ชั่งน้ำหนัก ได้ 26 กรัม พร้อมชี้ที่ป้ายที่ติดบอกไว้ 3.5 หยวน/กรัม( ราคาถูกกว่าตลาดสี่เหลี่ยมเมื่อคืนที่ติดไว้ 4.5 หยวน/กรัม ) ว่า
90 หยวน บอกพร้อมกดเครื่องคิดเลข ยืนยัน
เขอ อี่ เจี่ยน เจี้ย มา : ลดได้เท่าไร น้องแบม
80 หยวน คนขาย
น้องแบมมองหน้า เอางัย พูดไม่ทัน ทำมือเอาละกัน ทำมือกดต่ำๆ
60 หยวน คนขาย
กุ้ย : แพง พร้อมกันทั้ง 3 คน
คนขายเกาหัวจากนั้นไปตามอีกคนที่พูดภาษาอังกฤษได้มา ถามว่าจะให้เท่า พร้อมส่งเครื่องคิดเลขมาให้
เรามองหน้าแล้วบอกเค้าว่า 2 อัน 60 หยวน นะ
คนขายมองหน้าโบกไม้โบกมือ ว่าไม่ได้ เราก็ไม่เอา จะเดินออก สรุปได้มา ของชิ้นแรกที่ซื้อ ภูมิใจเชียวค่ะ ต่อได้ 3 เท่า จากราคาที่ตั้งมาตั้งแต่ตอนแรก ไม่เคยต่อราคาโหดขนาดนี้มาก่อน
|
|
|
|
|
|
บรรยากาศในเมืองเก่าซุ่เหอ |
|
|
พี่ isyss วอมาบอกว่าเข้าไปสุดแล้วเลี้ยวขวานะจะมีร้านกาแฟ ไปเจอกันที่ร้านกาแฟ เราก็ ค่ะ ค่ะ แหม..เริ่มสนุกค่ะ ถ่ายรูปไปได้ไม่กี่รูปแวะอีกแล้วค่ะ สมชื่อแก๊งค่ะ แก๊งนัก shop ไม่ค่อยได้ของหรอกค่ะ เพราะต่อแล้วเค้าไม่ไห้ก็ไม่เอา ต่อเอามันเข้าว่าให้ก็ซื้อ
พี่ PAT เดินผ่านมาก็บอกว่าพี่ Isyss รอที่ร้านกาแฟนะ
ค่ะ แต่ทั้งแก๊งก็พร้อมใจแวะต่อไป แบบไม่สนใจใครรอ สักพักเราก็เห็นพี่ isyss เดินผ่านร้านที่เราอยู่ไปกับคนจีนคนหนึ่ง ยังคิดเลยว่าอ้าวพี่ isyss เจอคนรู้จักด้วย มารู้ตอนหลังว่าเค้าแข่งเรียวลิตี้กันอยู่ แล้วมีโจทย์ให้หาคนต่างชาติมาช่วยร้องเพลง พี่ isyss เป็นผู้ช่วยตามโจทย์นั่นเอง โธ่.. อดดู shot เด็ด เลย
|
|
|
|
|
|
อากง ทำไรไม่รู้ แต่เห็นมีคนเดินเข้าไปคุยด้วยตลอดเเวลา |
|
|
เวลาผ่านไป แก๊งนักช็อป ก้อยังเดินไม่ถึงร้านกาแฟดังกล่าว สักที
อีก 10 นาที เจอกันที่รถนะ คำสั่งออกลอยมาจาก วอกี้ท็อคกี้
สรุปเดินไปได้ครึ่งซอยจาก 4 ซอย ขึ้นรถได้ก็เอาของที่ซื้อมาอวด เพราะได้ กำไร 1 อัน 30 หยวน ต่างหู 1 คู่ 15 หยวน แหวน 1 วง 30 หยวน(อันนี้เงินแท้เลยแพงกว่าเพื่อน) กระเป๋าหนัง 1 ใบ 60 หยวน พี่นุกบอกว่าจริงๆ น่าจะต่อได้มากว่านี้ เริ่มเข้าคอร์สต่อราคาใหม่ โดยพี่นุกให้ concept ใหม่ว่าเราควรบอกราคาที่หาร 5 ก่อนแล้วค่อยๆ ขยับขึ้น ถ้าเค้าไม่ให้ อันนี้เป็นเคล็ดลับ (โอ้โห!! หาร 5 จะโดนตีหัวไหมนี่)
กลับที่พักล้างหน้าล้างตา วันนี้พี่ Pat จะพาไปกินอาหาร โชว์สั่งอาหาร ที่เมืองเก่าค่ะ วันนี้ไม่ลืมหยิบขาตั้งกล้องไปถ่ายภาพไฟกลางคือที่ ตลาดสี่เหลี่ยมด้วย พี่ Pat เลือกร้านอาหารได้ใจมากๆ เพราะเป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยน อาหารอร่อยทุกอย่างเลย ตั้งแต่พิซซ่า สลัด ..และเข่อเล่อ อิอิ แต่ที่นี่พี่ Isyss บอกว่าอย่าสั่ง เข่อเลอ เยอะ เพราะมันแพงให้สั่ง ผี จิ่ว : เบียร์ ราคาถูกกว่า แหม..กะจะมอมน้องๆ เลยนะนี่
|
|
|
|
|
|
ร้านอาหารในเมืองเก่า |
|
|
ระหว่างที่กำลังกินอย่างเมามัน มีหนุ่มหนึ่งหน้าตี๋สะพายกีต้าแต่งตัวเป็นหนุ่มกะเหรี่ยงบราซิลเดินเข้ามาเหมือนรู้จักแล้วก็พูด %^&*&^%$#$^&*(%^&& พร้อมส่งดอกไม้ให้พี่ maya และส่งกระดาษให้ เรา พี่ maya บอกว่าเค้าใหดอกไม้ ให้ฟรีๆ ไม่คิดตัง แล้วเค้าจะร้องเพลงให้ฟังให้เราเลือกได้จากกระดาษ ที่เค้าส่งให้ ฟังยังไม่ออกเลยจะให้อ่านนี่นะ แย่ยิ่งกว่าซะอีก แล้วเค้าก็ร้องเพลงอะไรไม่รู้ 2 เพลง ฟังแล้วส่งสารตัวเองจังต้องฟังเค้าท่องอาขยานเป็นภาษาจีน 555
ที่เด็ดกว่านั้นคือตอนจบค่ะ เพราะพี่ maya ให้ทิปเค้า 10 หยวน ( 50 บาท เยอะนะนี่ ) เค้าบอกว่าเค้าร้องเพลงให้ฟังเพลงละ 20 หยวน เค้าร้องมา 4 เพลง บ้า.. หรอ ไม่ได้อยากฟังเลย เพลงละ 100 นี่นะ แพงโครต หมดอารมณ์เลย เราแอบบ่น พี่ maya เลยให้เพิ่มอีก 20 หยวน ให้เท่านี้และ แล้วหนุ่มตี๋คนนั้นก็ไป สงสัยว่าไปหมายตาเหยื่อรายอื่นอีก น่าสงสารเหยื่อรายต่อไป ..ดังคำที่บอกว่า ของฟรี!! ไม่มีในโลก เห็นจริงวันนี้
น้องแบมกะน้องบิ้งร้องเพลงปลอมขวัญคนละเพลง ยังเพราะกว่า
แหม..ไม่เพราะก็เสียชื่อครูอ้วนสิค้า..
|
|
|
|
|
|
ข้างล่างเป็นร้านอาหาร ด้านบนเป็น Guest House |
|
|
ออกจากร้านเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินก้อนๆ วางเรียงชิดกันนั้น เป็นหินแกรนิตห้าสี เป็น ที่มันลื่นแสดงให้เห็นว่ามีคนเดินผ่านมันมานนานกว่า 800 ปี สองข้างทางเป็นบ้านเรือนสองชั้น กึ่งดินกึ่งไม้เรียงที่ปลูกชิดติดกัน เรียงรายลดหลั่นกันไปตามเนิน ราวกับมีการวางผังไว้ ขนานไปกับแม่น้ำหยก ที่เป็นลำธารไหลมาจากตาน้ำผุดที่ เฮ่ย หลง ทัน : Hei Long tan หรือสระมังกรดำที่เราไปมาเมื่อเช้านั่นเอง ปัจุบันบ้านเรือนเหล่านี้ได้ถูกดัดแปลงให้ชั้นล่างเป็นร้านค้า ขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านขายอาหาร ให้กับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันเข้ามาวันละหลายหมื่นคน ถึงแสนคนค่ะ แหม..ก็น่าถึงหรอก เพราะจากที่เดินมา 2 คืนคนเยอะมาก คนขายบอกว่าจะเปิดร้านถึงเที่ยงคืน ขึ้นอยู่กับว่ามีคนเดินหรือเปล่า ถ้ายังมีคน เค้าก็ยังเปิดอยู่
จากที่เราเดินไปตลาดสี่เหลี่ยมยามเย็นทุกวันของการอยู่ในลี่เจียงทำเรารู้อย่างหนึ่งว่าถนนทุกเส้นสามารถเชื่อมต่อกันและเดินไปสู่ตลาดสี่เหลี่ยมได้เหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าจะอ้อมมาก อ้อมน้อย หรือถ้าเดินๆ กล้วหลงเดินตามคนอื่นไป ก็สามารถไปถึงตลาดสี่เลี่ยมได้เหมือนกัน เพราะนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่โดยมากจะเดินไปที่ลานตลาดสี่เหลี่ยมเพื่อชมการแสดงพื้นเมืองกันอยู่แล้ว แต่ขากลับนี่ตัวใครตัวมันนะค้า..
|
|
|
|
|
|
บรรรยากาศยามค่ำคืนของถนนสู่ตลาดสี่เหลี่ยม |
|
|
ตลาดสี่เหลี่ยม หรือ ซื่อ ฟาง เจีย (Si Fang Jai) เป็นจุดที่มาบรรจบกันของถนนแต่ละสาย เป็นลานการแสดงพื้นเมือง ที่มีการแสดงทั้งการเต้น ร้องเพลง ในกลางวันและมีรอบกองไฟในตอนกลางคืน
วันนี้ไม่ได้แวะตามร้านค้าเลย (ผิดคอนเซ็ปนะนี่) เพราะจะรีบเดินไปที่ลานตลาดสี่เหลี่ยมไปดูการแสดง ไปถึงเค้าเล่นจบอีกแล้ว เพราะเมื่อคืนที่ไปก็ไม่ทัน ก็มัน 3 ทุ่มกว่าแล้วนิ พวกเราเลยเดินเลยออกไปจนถึงกังหันวิดน้ำ และปากทางเข้าเขตเมืองเก่า
ได้ยินเสียงเพลงแว่วๆ พี่ maya บอกว่าเป็นเพลงที่กล่าวถึงพูดถึงแม่ เหมือนที่เมื่อกี้เราโดนหลอกให้ฟังนั่นแหละ แต่อันนี้นักร้อง ร้องประกอบดนตรีเลยเพราะกว่า จากตรงนี้เรานั่ง taxi กลับโรงแรมกัน ค่ารถเป็นไปตามมิตเตอร์เริ่มต้นที่ 8 หยวน (40 บาท ราคาใกล้เคียงเมืองไทยเลย )
พี่ maya เรียกรถให้นั่งกันมา 4 คน พี่ Pat พี่นุก ทราย และ hana รู้ภาษาจีนทั้งน้าน คนขับพูดอะไรไม่รู้กับพี่ Pat
พี่ Pat ยิ้มให้ไป เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง
คนขับพูดใหญ่เลย **%&^*%$^*%$)*%$&&**()(&$&*
พี่ Pat พยายามอย่างยิ่งว่าบอกว่า เราจะกลับโรงแรม He xi
คนขับไม่สนใจยังพูดต่อ @#$#@%&*&%##@
คราวนี้นั่งเหวอเลยค่ะ มองหน้ากันเอางัยดี มันจะหลงหรือเปล่านี่ เพราะ โรงแรมก็อยู่ไม่ไกล แต่ทำไมไม่ถึงสักที แล้วทำไมเหมือนเค้าขับออกนอกตัวเมือง ทำงัยดี และแล้วขณะที่ยังสรุปไม่ได้ คนขับก็เลี้ยวเข้าซอย และจอดหน้าโรงแรม
เฮ่อ!! โล่งอกไปที รถ taxi จากไปแล้ว แต่สหายทั้งสี่ ยืนหัวเราะกันนานมาก แล้วเมื่อกี้เค้าพูดอะไรล่ะ ??
พรุ่งนี้สูตร 6 - 7 - 8 นะ เพราะเราจะไปขึ้นเขาหิมะกันต้องออกแต่เช้าหน่อยเดี๋ยวไม่ทัน ก่อนแยกหันพี่ maya ย้ำว่า พรุ่งนี้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ นะ เพราะหนาวมาก ก่อนนอนตั้งนาฬิกาปุก เอ..มันต้องกี่โมงละนี่ ตื่น 6 โมงเช้านี่ ก็ต้องตั้งตี 5 เวลาเมืองไทยใช่มะ (ตั้งปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่เวลาเป็นเวลาเมืองไทย)
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|