|
|
|
|
ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างนักออกแบบ ตกแต่งภายใน?
ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างนักออกแบบตกแต่ง ภายในนั้นยังไม่มีการกำหนดราคา เป็นมาตรฐาน ตายตัว และวิธีการคิดค่าบริการออกแบบก็มีด้วย กันหลายวิธีแต่วิธีที่นิยมที่สุดมีอยู่ 3 วิธี ที่พอจะ สรุปได้คือ
1. คิดค่าบริการเป็นสัดส่วนตามงบประมาณในการตกแต่ง วิธีนี้เป็นที่นิยม ในประเทศไทยมากที่สุด โดยนักออกแบบจะกำหนดมาตราฐานค่าออกแบบ ของตนไว้เลยว่าจะคิดเป็นสัดส่วนเท่าไรเช่น 10%, 15% จนถึง20-25% ตามชื่อเสียง ของนักออกแบบ หรือบริษัทนั้นๆ ในขณะที่นักออกแบบมือใหม่หรือรับเป็นงานนอก มักจะใช้วิธีตัดราคา คือ คิดเพียง 5-7% เท่านั้น เพื่อให้ได้งาน ดังนั้น การว่าจ้าง นักออกแบบมือใหม่ หรือรับเป็นงานนอก ควรจะพิจารณา ด้วยความรอบคอบ เพราะหากมีปัญหาขึ้นมาแล้วคุณ อาจจะตามใครไม่ได้เลยก็ได้ ซึ่งวิธีคิดราคาแบบนี้ มักจะมีจุดอ่อน ตรงที่บริษัทหรือนักออกแบบที่คิดค่าบริการแบบนี้ มีแนวโน้ม ที่จะเลือกใช้วัสดุตกแต่งในราคาแพง เพื่อให้งบประมาณตกแต่งสูงขึ้น (ค่าออกแบบก็จะมากขึ้นตามงบประมาณไปด้วย) รวมทั้งลูกค้ามักจะไม่ทราบถึง ตัวเลขค่าบริการออกแบบที่แน่นอน จนกว่างานจะเสร็จสิ้น และบ่อยครั้ง ที่มักจะไม่สามารถควบคุมงบประมาณได้
2. คิดค่าบริการแบบเหมาจ่าย วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาจากวิธีการ คิดค่าบริการวิธีแรก
โดยภายหลังจากที่ลูกค้าได้ทำการกำหนดงบประมาณ ขั้นต้นแล้ว นักออกแบบและลูกค้าจะตกลงกันเป็นตัวเลข ใดตัวเลขหนึ่ง เพื่อเป็นค่าบริการออกแบบที่ตายตัว เพื่อให้ลูกค้าทราบค่าบริการออกแบบ และนำไปจัดทำงบประมาณค่าใช้จ่ายได้ เช่น หากลูกค้ามีงบประมาณ 2 ล้านบาท และนักออกแบบคิดค่าบริการออกแบบ 10% ก็จะคิด เป็นค่าบริการ 2 แสนบาท ซึ่งเมื่อลูกค้าและนักออกแบบตกลงและต่อรองกันแล้ว อาจจะเหลือเป็นตัวเลข รวมทั้งสิ้น 180,000 บาทก็ไ?้ อย่างไรก็ดีวิธีนี้ก็จะมีจุดอ่อนในกรณีที่มี การเปลี่ยนแปลงขอบเขตของการทำงานไม่ว่างานเพิ่มขึ้นหรือลดลง ลูกค้าและนักออกแบบมักจะต้องมาตกลงกันใหม่เสมอ ทำให้ยุ่งยากพอสมควร
3. คิดค่าบริการตามพื้นที่ที่ใช้ในการออกแบบ วิธีคิดค่าบริการนี้ เป็นที่นิยมในต่าง ประเทศโดยเฉพาะในยุโรป และอเมริกา โดยนักออกแบบ จะทำการคิดค่าบริการออกแบบตาม พื้นที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำการออกแบบ และพื้นที่แต่ละส่วนก็มีอัตราการคิดราคาแตกต่างกันตามความยากง่าย ของการทำงาน วิธีนี้ ลูกค้าจะทราบค่าบริการออกแบบตั้งแต่ขั้นตอนแรก ในการว่าจ้างและสามารถคำนวณค่าบริการที่เปลี่ยนแปลงได้ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงขอบเขตของงาน นอกจากนี้การคิดค่าบริการออกแบบ แบบนี้ มีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าการคิดค่าบริการสองแบบแรก เช่น หากลูกค้า ต้องการออกแบบตกแต่งห้องนอนขนาด 20 ตารางเมตร และบริษัท คิดค่าบริการออกแบบ ตารางเมตรละ750 บาท ลูกค้าจะเสียค่าใช้จ่าย ในการออกแบบเพียง 15,000 บาท ในขณะที่การคิดค่าบริการแบบแรก ลูกค้า จะต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 20,000-30,000 บาทขึ้นไป หากลูกค้ามีงบประมาณ ตกแต่งห้องนั้นประมาณ 200,000 บาท (โดยทั่วไปงบประมาณการตกแต่งภายใน มักจะอยู่ที่ 10,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป สำหรับงานประเภทบ้าน พักอาศัย) อย่างไรก็ดี อัตราค่าบริการออกแบบยังคงหลากหลายและมีอีกหลายปัจจัยเข้ามา เกี่ยวข้อง เช่น อาจแปรผกผันตามงบประมาณโดยอัตราค่าบริการออกแบบ สำหรับโครงการที่มีงบประมาณ 1 ล้านบาท อาจจะอยู่ที่ 15% ในขณะที่โครงการที่มี งบประมาณ 15 ล้านอาจ จะมีค่าใช้จ่ายในการ ออกแบบเพียง 5% เท่านั้นก็ได้ หรือชนิดของงาน เช่น หากคุณมีห้องพักโรงแรม ค่าบริการออกแบบห้องพัก แขกก็จะต้องคิดเป็นสองส่วน คือ ค่าบริการเต็มจำนวน สำหรับการออกแบบห้องพัก แบบมาตราฐานห้องแรก จากนั้นค่าบริการในสัดส่วนที่ลดลงสำหรับห้องพัก ห้องต่อไปที่ยังคงใช้แบบเดิม หากคุณต้องการทราบอัตราค่าบริการ ออกแบบตกแต่งภายในที่แน่นอนของนักออกแบบ แต่ละรายควรจะสอบถาม จากบริษัทหรือนักออกแบบตกแต่งภายในรายนั้นๆ เนื่องจากทุกราย
มีวิธีการคิดค่าบริการ และอัตราค่าบริการออกแบบตกแต่งภายใน ที่แตกต่างกันออกไป รวมทั้งยังมีส่วนลด ส่วนเพิ่มที่ไม่เหมือนกัน (ตามธรรมดาของการค้าเสรี) การสอบถามเพื่อเปรียบเทียบค่าบริการออกแบบ จากนักออกแบบที่คุณสนใจหลายๆราย จะทำให้มีข้อมูลที่แน่นอนก่อน พิจารณาลงมือว่าจ้างจึงจัดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด
Back 1 | 2 | 3 | 4
|
|